ครูของผม
วันนี้ เป็นวันครู ก็อยากจะเขียนถึงครูบ้าง โดยผมคงเหมือนกับอีกหลายๆ คน กว่าจะเติบโต ทำงานได้ ต้องมีครูบาอาจารย์มากมายสอนสั่งมา
โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย
วันนี้ เป็นวันครู ก็อยากจะเขียนถึงครูบ้าง โดยผมคงเหมือนกับอีกหลายๆ คน กว่าจะเติบโต ทำงานได้ ต้องมีครูบาอาจารย์มากมายสอนสั่งมา
ในวิชาชีพที่ทำอยู่ มีคุณครู 2 ท่านที่ผมระลึกถึงเสมอๆ ท่านแรกเป็นอาจารย์ในสถาบันการศึกษา แต่อีกท่านเป็นข้าราชการ
ผมจบสาขาหนังสือพิมพ์ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีอาจารย์ที่ลูกศิษย์ให้ความนับถือมาก นั่นคือ อาจารย์สุรัตน์ นุ่มนนท์
อาจารย์สุรัตน์ เคยทำงานหนังสือพิมพ์ เคยทำงานวิทยุบีบีซี ประเทศอังกฤษ และกลับมาเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สุดท้ายมาสอนที่คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ
ตอนเรียนอยู่ อาจารย์นอกจากจะสอนเกี่ยวกับวิชาความรู้แล้ว ก็ยังมีการปลูกฝังแนวคิด มุมมอง ของวิชาชีพหนังสือพิมพ์ให้ลูกศิษย์ทุกคนด้วย
ช่วงปี 4 พวกเรามีการลงทะเบียนวิชาหนังสือพิมพ์ภูมิภาค ซึ่งจะต้องตระเวนออกไปหนังสือพิมพ์ในจังหวัดต่างๆ ซึ่งอาจารย์สุรัตน์เป็นผู้ควบคุมไป
การทำหนังสือพิมพ์ในพื้นที่ เป็นโอกาสให้อาจารย์ได้คุยถ่ายทอดประสบการณ์ แนวคิด จริยธรรมต่างๆ เสมอมา โดยก่อนจบอาจารย์จะเรียกลูกศิษย์เข้าไปหาเป็นรายบุคคล เพื่อให้คำแนะนำ ถึงจุดอ่อน จุดแข็งของแต่ละคน
ลูกศิษย์อาจารย์แต่ละรุ่นเข้าสู่วงการหนังสือพิมพ์มากมาย เฉพาะรุ่นผม เป็นบรรณาธิการไปหลายคนทั้งหนังสือพิมพ์รายวัน นิตยสารรายเดือน ฯลฯ
ความผูกพันระหว่างอาจารย์กับพวกผม ทำให้แม้จะจบการศึกษาไปแล้ว ก็ยังนัดไปบ้านอาจารย์ที่นครปฐมอยู่บ่อยๆ
ล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก็เพิ่งไปบ้านอาจารย์เช่นเคย แต่คราวนี้ไม่ได้เจออาจารย์ เนื่องจากอาจารย์เสียชีวิตไปแล้วเกือบปี
ทว่าพวกเราก็ยังนัดกันไป โดยไปพบกับอาจารย์แถมสุข นุ่มนนท์ ภริยาอาจารย์สุรัตน์ที่พวกเราให้ความนับถือ สนิทสนมไม่แพ้กับอาจารย์สุรัตน์
ไปบ้านอาจารย์ แม้ไม่ได้พบอาจารย์สุรัตน์ แต่ความผูกพัน ความรู้สึกก็ยังเหมือนเดิม เหมือนกับมีอาจารย์คอยดู คอยห่วงใย
ส่วนคุณครูอีกท่านไม่ได้อยู่ในสถาบันศึกษา แต่ในใจผมยกให้เป็นเหมือนครู นั่นคือปลัดพชร อิศรเสนา ณ อยุธยา อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์
ตอนผมเป็นนักข่าวแรกๆ ประจำอยู่กระทรวงพาณิชย์ ผมก็มักหาเวลาไปพบกับปลัดพชร ส่วนใหญ่ไม่ใช่การถามข่าว แต่เป็นการฟังเรื่องราวต่างๆ ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง ฯลฯ
ปลัดพชร ท่านเป็นผู้รอบรู้ อ่านหนังสือมาก แตกฉาน จึงมีประเด็นต่างๆ มาเล่าให้ฟังอยู่เสมอ
นอกจากนั้น ปลัดพชรยังสอนเกี่ยวกับแนวคิด การตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ทำอย่างไร สิ่งไหนควรทำ ไม่ควรทำ เป็นสิ่งที่ติดตัวผมมาถึงทุกวันนี้
ผมนั่งฟังปลัดพชรท่านสอนมาหลายสิบปี จึงซึมซับเข้าไปเหมือนเป็นครูอีกท่าน และแม้ปลัดพชร เสียชีวิตไปแล้ว แต่ผมก็ยังระลึกถึงอย่างสม่ำเสมอ
วันครูปีนี้ จึงขอกราบครู 2 ท่าน และครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆ ที่สอนสั่งมาตั้งแต่น้อยคุ้มใหญ่ ทำให้ผมดำรงตนอยู่ในเส้นทางที่เหมาะควร
และเป็นศิษย์ที่ยังระลึกถึงคำครูไม่รู้คลาย


