วาระกอบโกยแห่งชาติ
ข้อมูลเหล่านี้หลุดออกจากส่วนราชการ จากผู้บริหารระดับสูง ที่ทำหน้าที่ปราบปรามทุจริตที่ไม่กลัวเกรงว่าสีใด นี้สิ!ทำให้ต้องมองว่า ไม่ธรรมดาแล้ว
โดย...อสนีบาต
รัฐบาลยิ่งลักษณ์บริหารงานเพิ่งผ่านพ้น 1 ปี ครั้นเข้าสู่ปีที่ 2 ต้องขอบอก โดดเด่นเหนือคณานับ ตรงนี้อย่าเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเรื่องของความเก่งกล้าสามารถในตัวนายกฯยิ่งลักษณ์ ที่เปล่งแสงเจิดจรัสความเป็นผู้นำ เพราะยังไงคงรักษามาตรฐานเดิมด้วยการแสดงบท นู๋ไม่รู้ อยู่วันยันค่ำ
แต่ที่กำลังเปรี้ยง ชนิดที่ผู้นำประเทศคงยังไม่รู้กระมัง เห็นจะเป็นเหล่าบริวารรอบตัวกำลังแข็งขันช่วยรัฐบาลบริหารภาษีประชาชนผ่านโครงการพัฒนาฟื้นฟูตามพื้นที่ต่างๆ
เหมือนอย่างที่สังคมนักการเมืองเคยให้ข้อมูลไว้ รัฐบาลแต่ละยุคสมัยเมื่อเข้ามาปีแรกเป็นช่วงตั้งไข่ คิดวางนโยบาย เมื่ออยู่ตัว ไม่มีเหตุการณ์ใดทำให้สั่นคลอน ก็เข้าสู่ขั้นต่อไปซึ่งจะมาบรรจบในช่วงปีที่สอง ที่เรียกว่า วาระแห่งการกอบโกย ยิ่งฝ่ายตรวจสอบอย่างฝ่ายค้านด้อยประสิทธิภาพ ภาคประชาชนที่คอยเป็นผนังแดงกำแพงเหล็กหลับหูหลับตาเห็นขบวนการกัดแทะงบประมาณในพื้นที่เป็นเรื่องปกติ ตามที่ผลสำรวจออกมาว่า การโกงเป็นเรื่องธรรมชาติ ถ้าบริหารเก่ง แต่โกงก็หยวนๆไป อย่างนั้นก็ยิ่งเข้าทางพวกกอบโกยโดยไม่หวั่นเกรงอะไรอีกแล้ว
สอดคล้องปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นกับ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท. ) ต้องถูกเด้งไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม หลังเดินทางลงไปสำรวจโครงการฟื้นฟูหลังน้ำท่วม ในพื้นที่ภาคอีสาน ตามที่เจ้าตัวเปิดเผย “สุ่มตรงไหนเจอตรงนั้น ทุจริตทั้งนั้น”
เพราะโครงสร้างการกอบโกยในสังคมการเมืองมันถูกสร้างระบบเอื้ออาทรทางการเงิน ตั้งแต่ข้าราชการ ผู้รับเหมา ที่สำคัญต้องส่งเครื่องบรรณาการเปอร์เซนต์ไปถึงนักการเมือง แทนที่ผู้กำกับนโยบายจะตื่นตัวหาทางป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น แต่กลับย้ายคนที่รู้ข้อมูลเชิงลึกขบวนการโกงกินงบประมาณชาติ ทำให้ถูกมองได้ว่าไปๆมาๆ รัฐบาลที่มีนายกฯยิ่งลักษณ์ แต่งชุดสวยไปกดปุ่มประกาศสงครามคอร์รัปชั่นเมื่อสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้วยังมีแผนเวิอร์คช็อปราบปรามทุจริตอย่างบูรณาการในวันที่ 14 ก.ย.นี้ ตกลงทั้งหมดคือการแสดงละครสร้างภาพลักษณ์รัฐบาลให้ดูดีเท่านั้นเอง
เนื่องจากทางปฏิบัติไม่มีอะไรบ่งชี้ว่ารัฐบาลสนับสนุนการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างจริงจัง สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีกให้ถูกมอง หรือนี่เป็นการส่งเสริมให้มีการทุจริต
ไม่ได้กล่าวหาลอยๆ เหตุออกมากระตุกเตือน เนื่องจากเข้าคลุกข้อมูลวงใน จึงขอใช้บรรทัดนี้ตั้งคำถามถึงคนคุ้นเคย สุรนันท์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในวันที่ ป.ป.ท.ส่งเอกสารลับถึงมือเพื่อเสนอนายกฯ รายงานพฤติการณ์ข้าราชการกระทำผิดในการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ ป่านนี้มีความคืบหน้าประการใด หรือผงะเจอพวกตัวเอง จึงขยำลงถังตึกไทยคู่ฟ้าไปซะแล้ว
ถามต่อถึง กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีในฐานะรมว.คลัง ได้กลับเข้าไปที่กระทรวงคลังชำเลืองบนโต๊ะทำงาน เห็นข้อเสนอ ปปท.เกี่ยวกับการปรับปรุงการสำแดงภาษีนำเข้ารถหรูจากอังกฤษ บ้างหรือไม่ หรือเกรงใจ ลูกสาวนักการเมืองที่กำลังอยากเอารถหรูเลี่ยงภาษีออกจากท่าเรือแหลมฉบังและลาดกระบัง จึงทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน
ฝากถึงแกนนำคนเสื้อแดงทั้งหลายที่เก่งกล้าในการเคลื่อนไหวตรวจสอบเอาผิดจัดการพวกฉ้อราษฎร์บังหลวง ไม่ทราบบ้างเลยหรือ มีแกนนำคนเสื้อแดงภาคกลางคนหนึ่งที่ไปข่มขู่เจ้าหน้าที่ให้ออกเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่จ.ภูเก็ต โดยมิชอบ แต่พอ ปปท.รับรู้การกระทำผิด กับไปวิ่งเต้นผ่านนักการเมืองในรัฐบาลให้ออกมาต่อสู้กับ ปปท.
อ้าว! แกนนำผู้พิทักษ์ความถูกต้องชอบธรรม ไม่คิดจัดการพวก โกงกินทรัพยากรชาติ หรือหยิบจับเล่นงานเฉพาะที่ไม่ใช่พวกตัวเอง ในเมื่อประกาศสร้างมาตรฐานต้องเอาทรัพย์แผ่นดินคืนมา ก็ต้องจัดการพวกอภิสิทธิ์นี้ให้หมด
มิพักต้องกล่าวถึงประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ที่ยังคงออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ถึงการย้ายเลขาปปท. ไม่ได้มีการเมืองเกี่ยวข้อง ไม่ได้กลั่นแกล้ง แต่ย้ายเพื่อความเหมาะสม ขณะที่ลูกน้องตัวเองอย่าง พ.ต.อ.ดุษฏี กล่าวไว้อย่างชัดถ้อยชัดคำ เหตุที่ตนเองถูกย้ายเพราะไปพบการทุจริตในโครงการฟื้นฟูน้ำท่วมภาคอีสาน
“ประการสำคัญ หนึ่งในจังหวัดภาคอีสานที่ตรวจพบทุจริต คือ อุดรธานี เป็นจังหวัดของอินทรีย์อีสานกินนอนอยู่ด้วยมิใช่หรือ อย่างนี้ใครมันโกหกกันแน่”
ตบท้ายถึง นักการเมือง ด.เด็ก ที่กำลังสร้างเรทติ้งในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ปี 2 ความสามารถของเธอกระฉ่อนเข้าวงในกรรมาธิการพิจารณางบประมาณในสภา ไปจนถึงการพิจารณาวาระ 2 วาระ 3 แล้วยังคงแรงต่อไปเมื่อไปมีชื่อข้องแวะโยกย้ายปลัดกลาโหม ลามถึงเลขาปปท. แต่ถ้าจะนำมาวิเคราะห์ ทำไมชื่อนี้ถึงไปมีน้ำหนักอยู่กับเรื่องงบประมาณแผ่นดิน อันเป็นภาษีประชาชน
ถ้าการจับความเคลื่อนไหว นักการเมือง รายนี้ มาจากฝ่ายการเมืองด้วยกัน ก็พอทำเนาว่าเป็นการปลุกกระแสการเมืองโจมตี เหมือนอย่างที่ โฆษกแป้งพัพเพื่อไทย ออกมาแถลงนั่นแหละ ว่า เป็นการเต้าข่าวมุ่งโจมตีการเมือง ตรงนั้นก็คงต้องทำใจคุณภาพนักการเมืองคิดแต่เรื่องโจมตีการเมืองกันเท่านี้
แต่ควรไปพลิกดูข้อมูลเก่ากันบ้าง ข้อมูลเหล่านี้ หลุดออกจากจากส่วนราชการ จากผู้บริหารระดับสูง ที่ทำหน้าที่ปราบปรามทุจริตที่ไม่กลัวเกรงว่าสีใด อีกทั้งภาคประชาชนที่ไม่ได้ยึดโยงกับฝ่ายการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ได้ข้อมูลตรงกัน และกำลังผ่องถ่ายสู่ ป.ป.ช. นี้สิ!ทำให้ ต้องมองว่า ไม่ธรรมดาแล้ว
ด้วยรักจึงขอเตือนนายกฯยิ่งลักษณ์ ที่พยายามรักษามาตรฐานเดิม “นู๋ไม่รู้ “ แต่ความลับไม่มีในโลก ข้อมูลอันตรายกำลังถูกขยายสะเทือนรัฐบาล