มีปี๊บขายไหม

โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย

สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง “ของขวัญปีใหม่ไทยที่คนไทยอยากได้จากฝ่ายการเมืองและประชาชน” โดยสำรวจความเห็นประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ใน 17 จังหวัดของประเทศ 2,158 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 114 เม.ย.

ปรากฏว่าสิ่งที่กลุ่มตัวอย่างอยากได้เป็นของขวัญปีใหม่ไทยจาก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มากที่สุด 39.9% คือ การแก้ไขปัญหาปากท้อง ปัญหาเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ

รองลงมา 20% คือความปรองดองของคนในชาติ ถัดมา 13.2% คือ การแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน

ผลสำรวจครั้งนี้จึงยืนยันอีกครั้งว่าชาวบ้านกำลังเดือดร้อนจากปัญหาปากท้อง ของแพง

ที่ผ่านมารัฐบาลดูเหมือนจะยืนยันเป็นกระต่ายสามขาว่าของไม่แพง และกระทำเหมือนแค่การโรยผักชีบังหน้า

มาตรการที่ประกาศเป็นผลงานปราบปัญหาของแพง คือ การจัดตั้งร้านค้าถูกใจ หรือโชห่วยช่วยชาติ ซึ่งจะขายของราคาถูกกว่าตลาด

ตามเป้าหมายจะเปิดร้านค้าถูกใจ 1 หมื่นแห่งทั่วประเทศ ขายสินค้าราวๆ 20 ชนิด ตั้งแต่ข้าวสาร ไข่ไก่ น้ำมันพืช ฯลฯ

โครงการนี้ล้มเหลวตั้งแต่ก้าวแรก โดยมีร้านค้าสนใจมาร่วมแค่ราวๆ 500 แห่ง ห่างไกลเป้าหมายมากโข จนต้องยืดระยะเวลาออกไปอีก

นี่แหละ ความไม่เข้าท่าในการแก้ปัญหา เพราะดันไปตั้งต้นโครงการใหม่ คือ ร้านค้าถูกใจ เขี่ยทิ้งโครงการธงฟ้า ที่ทำมาตลอด

ปัจจัยต้นกำเนิด ร้านค้าถูกใจ มีหลายประการ แต่หนึ่งในนั้นก็คือ โครงการธงฟ้า มันเห็นแล้วเสียดแทงใจ เพราะสีฟ้าเป็นสีพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งๆ ที่โครงการธงฟ้าทำมาเนิ่นนานหลายสิบปี ผ่านมาหลายรัฐบาล ไม่ใช่เพิ่งมาทำเมื่อรัฐบาลประชาธิปัตย์

ร้านค้าถูกใจ จึงเกิดขึ้น และอาจเรียกได้ว่าเป็น โชห่วยสีแดง เนื่องจากสัญลักษณ์ร้านค้าถูกใจทำเป็นรูปหัวใจสีแดง ชนิดที่ไม่ผิดความคาดหมาย

ทั้งหมดแสดงให้เห็นถึงการแก้ปัญหาปากท้องชาวบ้านที่ยังติดกันอยู่ที่ปมการเมือง มันเลยเลอะเทอะอย่างที่เห็น

งบประมาณร้านโชห่วยสีแดงได้รับอนุมัติไปถึง 1,320 ล้านบาท แต่ผลที่ได้มันยังนิดน้อยจิ๊บจ๊อยเหลือเกิน

โชห่วยช่วยชาติ กลายเป็นโชว์ความห่วยระดับชาติเสียละมั้ง

ร้านถูกใจขายสินค้าราวๆ 20 ชนิด ถ้าให้ดีน่าจะเพิ่มไปอีกชนิดดีกว่า นั่นคือ ปี๊บ เพราะนอกจากจะเอาไว้ตีร้องป่าวตอนเปิดโครงการแล้ว

สุดท้ายยังมีประโยชน์เก็บเอาไว้คลุมหัวได้อีก