AGM การบินไทย 2568 สะดุดอะไร ? จาก "แผนฟื้นฟู" สู่ดราม่าคืนอำนาจผู้ถือหุ้น

ตลอดช่วงเวลาที่ "การบินไทย" ต้องลดระดับความสูงลงสู่เส้นทางฟื้นฟูกิจการ การตัดสินใจสำคัญจำนวนมากถูกย้ายจากห้องประชุมผู้ถือหุ้น ไปอยู่ในมือของผู้บริหารแผนตามกฎหมาย

เป้าหมายในวันนั้นมีเพียงหนึ่งเดียว คือพาบริษัทให้อยู่รอดและกลับขึ้นบินให้ได้อีกครั้ง

แต่เมื่อเครื่องบินลำนี้พ้นพายุและกลับเข้าสู่เส้นทางปกติ คำถามใหม่จึงดังขึ้นทันทีว่า... เหตุใดการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 (Annual General Meeting หรือ AGM) จึงกลายเป็นประเด็นถกเถียง 

ก่อนจะตัดสินว่าเรื่องนี้ถูกหรือผิด คำตอบทั้งหมดต้องเริ่มจาก "ช่วงรอยต่อ" ระหว่างแผนฟื้นฟูกิจการกับการกลับสู่บริษัทมหาชนเต็มรูปแบบ 

และนี่คือเหตุผลที่ "บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI" ต้องออกมาชี้แจงต่อผู้ถือหุ้นและตลาดหลักทรัพย์ฯอย่างเป็นทางการ

"ชาย เอี่ยมศิริ" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ตามที่ THAI จะจัดให้มีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 ในวันที่ 19 ธันวาคม 2568 และ บริษัทฯได้มีการชี้แจงเกี่ยวกับที่มาและเหตุผลในการจัดประชุมผู้ถือหุ้นดังกล่าว

โดยมีรายละเอียดปรากฏตามหนังสือของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่ กบ 01/816 ฉบับลงวันที่ 10 ตุลาคม 2568 เรื่อง ชี้แจงข่าวตามที่ปรากฏในสื่อสาธารณะเกี่ยวกับการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 แล้วนั้น บริษัทฯ ขอเรียนเน้นย้ำและชี้แจงต่อผู้ถือหุ้น ดังนี้

1. การที่คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติให้เรียกและกำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ในวันที่ 19 ธันวาคม 2568 นั้น เป็นไปตามข้อบังคับบริษัทฯ และ พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 (และที่มีแก้ไขเพิ่มเติม) (“พ.ร.บ. บริษัทมหาชนจำกัดฯ”) ทุกประการแล้ว โดยในปี 2568 บริษัทฯ ยังไม่เคยมีการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นมาก่อน

ทั้งนี้ การประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 ในช่วงเวลาที่บริษัทฯอยู่ภายใต้กระบวนการฟื้นฟูกิจการ เป็นการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นที่คณะผู้บริหารแผนดำเนินการตามที่แผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯได้กำหนดไว้ ซึ่งไม่ใช่และไม่อาจถือได้ว่าเป็นการจัดการประชุมสามัญประจำปีตาม พ.ร.บ. บริษัทมหาชนจำกัดฯ และ ข้อบังคับของบริษัทฯแต่อย่างใด

2. ส่วนการพิจารณาอนุมัติงบการเงินประจำปีของบริษัทฯ และ อนุมัติการแต่งตั้งผู้สอบบัญชี รวมถึงกำหนดค่าตอบแทนของผู้สอบบัญชีของบริษัทฯ ที่กระทำโดยคณะผู้บริหารแผนในช่วงระยะเวลาที่บริษัทฯ อยู่ภายใต้กระบวนการฟื้นฟูกิจการ

โดยมีรายละเอียดปรากฏตามสารสนเทศ ซึ่งบริษัทฯ ได้เปิดเผยผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 และ วันที่ 14 มีนาคม 2568 

เป็นกรณีที่คณะผู้บริหารแผนได้ใช้อำนาจภายใต้พระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 90/25 และ มาตรา 90/59 แทนผู้ถือหุ้น 

โดยการกระทำดังกล่าวไม่ใช่การจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นแต่อย่างใด ดังจะเห็นได้จากการที่ระหว่างช่วงเวลาดังกล่าวไม่มีกรรมการออกตามวาระตลอดระยะเวลาที่บริษัทฯ อยู่ภายใต้กระบวนการฟื้นฟูกิจการ ซึ่งบริษัทฯ ไม่มีการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในช่วงระยะเวลาดังกล่าว

3. ดังนี้ เมื่อบริษัทฯ ออกจากกระบวนการฟื้นฟูกิจการแล้วและยังไม่ได้จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 อันเป็นผลให้ยังไม่ได้มีการเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นเป็นผู้มีสิทธิตัดสินใจในการเลือกตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ครบวาระ

ซึ่งเป็นเรื่องที่พึงกระทำในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีของบริษัทฯ ตามข้อบังคับของบริษัทฯ ขอข้อ 39. และขอ 17. ประกอบ พ.ร.บ. บริษัทมหาชนจำกัดฯ มาตรา 71

คณะกรรมการบริษัทฯ จึงเห็นควรให้มีการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 ในวันที่ 19 ธันวาคม 2568 เพื่อปฏิบัติตามข้อบังคับของบริษัทฯ และ พ.ร.บ. บริษัทมหาชนจำกัด 

ตลอดจนคำนึงถึงการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (และที่มีแก้ไขเพิ่มเติม) ซึ่งกำหนดให้กรรมการต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และ ความซื่อสัตย์สุจริต รวมทั้งต้องปฏิบัติเป็นไปตามกฎหมาย ข้อบังคับมติคณะกรรมการ และ มติที่ประชุมผู้ถือหุ้น.

จับตาดราม่าบอร์ด!

สิ่งที่น่าติดตามอย่างมากในการประชุมครั้งนี้ นั่นก็คือ โฉมหน้าของคณะกรรมการการบินไทย ด้วยก่อนหน้านี้มีข่าวว่า กระทรวงการคลังได้ใช้สิทธิผู้ถือหุ้นในการเสนอรายชื่อผู้ที่จะคัดเลือกเข้าเป็นกรรมการ (บอร์ด) รวมจำนวน 10 คน ซึ่งเป็นการเสนอเพื่อเตรียมทดแทนบอร์ดชุดเดิมจำนวน 4 คน 

ปัจจุบัน คณะกรรมการบริษัท 11 ตำแหน่ง โดยมีกรรมการที่ต้องออกจากตำแหน่งตามวาระจำนวน 1 ใน 3 ของจำนวนกรรมการบริษัท ทั้งหมดมีจำนวน 4 คน คือ

1. นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์
2. นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร
3. พลอากาศเอก อำนาข จีระมณีมัย
4. นายชาย เอี่ยมศิริ

ขณะที่ "นายปกรณ์ ธนสุวรรณเกษม" ลาออกจากตำแหน่งกรรมการอิสระ มีผล 7 พ.ย.2568 นั่นหมายความว่า มีตำแหน่งกรรมการว่างอีก 1 ตำแหน่ง

แต่ที่จุดประเด็นร้อนขึ้นมาเห็นจะเป็นการพยายามเพิ่มจำนวนบอร์ดการบินไทยอีก 4 คน จาก 11 คนในปัจจุบัน เป็น 15 คน เหมือนกลับไปจุดเดิมก่อนเข้าแผนฟื้นฟูกิจการที่มีจำนวนบอร์ดหนาแน่น การบริหารอาจไม่คล่องตัวเมื่อเทียบกับสายการบินอื่นในต่างประเทศที่ส่วนใหญ่มีบอร์ดไม่เกิน 10 คน

กลายเป็นความกังวลไปไกลว่า หากการบินไทยถูกรวบตึงอำนาจเหมือนเช่นอดีต ภาพการฟื้นฟูอาจจะวนลูปกลับมาเหมือนเดิมหรือไม่ ?

ซึ่งนั่นอาจจะยังเร็วไปที่จะหาคำตอบได้ในเร็ววันนี้ และยังต้องให้โอกาสการบินไทยได้พิสูจน์ฝีมืออีกมากโข เพียงแต่การประชุมวันที่ 19 ธ.ค.นี้อาจจะเป็นจุดแรกที่อาจจะทำให้มองเห็นภาพในอนาคตได้ไม่ยาก.