posttoday

GULF 2569 ปีแห่งการเร่งเครื่อง S-Curve พลังงานสะอาด–ดาต้าเซ็นเตอร์ ทะยานสู่ยุคใหม่พลังงานไทย

01 ธันวาคม 2568

GULF กางแผนปี 2569 เดินหน้าโครงการพลังงานหมุนเวียนกว่า 600 เมกะวัตต์ รุกดาต้าเซ็นเตอร์ จับมือ Microsoft พร้อมต่อยอด LNG และโครงสร้างพื้นฐาน สู่การเป็นผู้นำพลังงาน-ดิจิทัลครบวงจรของไทย

KEY

POINTS

  • GULF กางแผนปี 2569 เดินหน้าโครงการพลังงานหมุนเวียนกว่า 600 เมกะวัตต์
  • รุกดาต้าเซ็นเตอร์ จับมือ Microsoft พร้อมต่อยอด LNG และโครงสร้างพื้นฐาน สู่การเป็นผู้นำพลังงาน-ดิจิทัลครบวงจรของไทย

เมื่อพลังงานหมุนเวียนกลายเป็น "เชื้อเพลิงของอนาคต" และดาต้าเซ็นเตอร์คือ "หัวใจของเศรษฐกิจดิจิทัล" มีเพียงไม่กี่บริษัทในไทยที่สามารถเดินเกมสองกระดานใหญ่พร้อมกันได้อย่างมั่นคง หนึ่งในนั้นคือ "บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF"

GULF 2569 ปีแห่งการเร่งเครื่อง S-Curve พลังงานสะอาด–ดาต้าเซ็นเตอร์ ทะยานสู่ยุคใหม่พลังงานไทย

จากผู้เล่นด้านโรงไฟฟ้า สู่การเป็นกลุ่มพลังงาน-โครงสร้างพื้นฐาน-เทคโนโลยีที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศ GULF กำลังก้าวเข้าสู่ปี 2569 ด้วยหมุดหมายที่สำคัญกว่าเดิม ปีที่บริษัทจะเร่งเครื่องสู่ S-Curve ใหม่ ทั้งพลังงานสะอาด ดาต้าเซ็นเตอร์ และธุรกิจ LNG ที่กลายเป็นฟันเฟืองหลักของความมั่นคงพลังงานไทย

ภายใต้การบริหารงานอย่างเข้มงวดของ "ยุพาพิน วังวิวัฒน์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เส้นทางการเติบโตครั้งนี้ไม่ใช่แค่การขยายเมกะวัตต์หรือสร้างกำไรเพิ่ม

แต่คือการวางรากฐานด้านพลังงานของประเทศในอีก 10–20 ปีข้างหน้า ตั้งแต่โรงไฟฟ้าโซลาร์ในบุรีรัมย์ ไปจนถึง Data Center ที่เซ็นสัญญาระยะยาวกับ Microsoft ทุกก้าวล้วนฉายภาพอนาคตของ GULF แบบชัดกว่า 360 องศา

และนี่คือเรื่องราวของปี 2569 ปีที่ GULF ไม่ได้แค่เติบโตต่อเนื่อง แต่กำลัง "เปลี่ยนเกม" อุตสาหกรรมพลังงานไทยอย่างแท้จริง

"ยุพาพิน" เผยในงาน Opportunity Day โดยคาดการณ์ผลการดำเนินงานในปี 2569 จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการเติบโตของกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เนื่องจากรายได้รวมมักผันผวนตามราคาก๊าซ ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อกำไรหลัก เพราะใช้โครงสร้างแบบ Pass-Through Model 

โดยตั้งเป้า EBITDA ปี 2568 เติบโตที่ระดับ 15% จากปี 2568 เนื่องจากจะมีการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้าหมุนเวียนในประเทศอีก 6 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตรวม 623 เมกะวัตต์ (MW) คาดจะรับรู้กำไรเพิ่มขึ้นประมาณ 600 ล้านบาทต่อปี

GULF 2569 ปีแห่งการเร่งเครื่อง S-Curve พลังงานสะอาด–ดาต้าเซ็นเตอร์ ทะยานสู่ยุคใหม่พลังงานไทย

และมีโรงไฟฟ้าขยะชุมชนที่เชียงใหม่อีก 10 เมกะวัตต์ คาดว่าจะ COD ช่วงเดือน พ.ค.2569 รับรู้กำไรราว 120 ล้านบาทต่อปี รวมถึงยังมีโครงการ Solar Rooftop ที่ทยอยเปิด COD อีก 50 เมกะวัตต์ ทำให้ปีหน้าจะมีกำลังการผลิตใหม่รวม 683 เมกะวัตต์

ขณะที่โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) มีกำหนดเปิดดำเนินการในช่วงไตรมาส 3/2569 และผลการดำเนินงานของโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Jackson Generation ในประเทศสหรัฐฯมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องจาก Capacity Payment ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทรับรู้กำไรอีก 1,200 ล้านบาท

ธุรกิจก๊าซฯ มีแผนขยายการนำเข้า LNG เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 70 ลำ หรือราว 4 - 5 ล้านตัน พร้อมกับคาดว่าจะสร้างกำไรจากธุรกิจก๊าซฯในปี 2569 ราว 1,200 - 1,500 ล้านบาท

GULF 2569 ปีแห่งการเร่งเครื่อง S-Curve พลังงานสะอาด–ดาต้าเซ็นเตอร์ ทะยานสู่ยุคใหม่พลังงานไทย

ส่วนธุรกิจ ADVANC คาดว่าผลประกอบการจะเติบโตดีขึ้น เนื่องจากการขยายฐานผู้ใช้บริการ 5G การเพิ่มขึ้นของ ARPU และการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพซึ่งจะทำให้บริษัทรับรู้กำไรเพิมขึ้น

เร่งขยาย Data Center

นอกจากนี้ บริษัทตั้งเป้าจะขยายการให้บริการธุรกิจ Data Center แตะ 300-500 เมกะวัตต์ ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า เพื่อรองรับความต้องการใช้คลาวด์, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างๆที่กำลังเติบโตแบบก้าวกระโดดทั้งในไทยและภูมิภาคนี้

โดย GSA02 Data Center 38 เมกะวัตต์ เตรียมเปิดในไตรมาส 1/2569 พร้อมเซ็นสัญญาระยะยาวกับ Microsoft ราว 15 ปี

GULF 2569 ปีแห่งการเร่งเครื่อง S-Curve พลังงานสะอาด–ดาต้าเซ็นเตอร์ ทะยานสู่ยุคใหม่พลังงานไทย

อัดฉีด 3 หมื่นล้าน ลุย S-Curve

งบลงทุนในปีหน้าคาดอยู่ที่ 25,000-30,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ราว 33% และอีก 61% เพื่อใช้ลงทุนในธุรกิจ S Curve เช่น data cente,คลาวด์ และ AI เป็นต้น ส่วนที่เหลืออีก 6% ใช้ลงทุนในธุรกิจอื่นๆ

ทั้งนี้บริษัทมีแผนออกหุ้นกู้ชุดใหม่ในปี 2569 ประมาณ 60,000-70,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสกุลเงินบาทและสกุลเงินเยน เพื่อเตรียมรองรับการใช้คืนหนี้หุ้นกู้เดิมที่ครบกำหนดและการลงทุนโครงการใหม่ๆที่อยู่ในแผนงาน

Q4/68 กำไรโตแรง - เล็งชงปันผล 2 ครั้ง

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2568 คาดว่ากำไรจะโตต่อเนื่อง จากการเปิดโรงไฟฟ้าหมุนเวียนในประเทศจำนวน 7 โครงการ กำลังการผลิตรวม 597 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสามารถรับรู้กำไรเพิ่มขึ้นราว 550 ล้านบาทต่อปี 

  • โครงการโซลาร์ฟาร์ม กำลังผลิต 50 เมกะวัตต์ (บุรีรัมย์) ได้เปิดดำเนินการไปแล้วเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568
  • โครงการโซลาร์ฟาร์ม 2 โครงการ กำลังผลิตราว 113 เมกะวัตต์ ที่บุรีรัมย์และสุโขทัย เปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2568
  •  โครงการที่เหลืออีก 4 โครงการ จะเปิดดำเนินการในวันที่ 15 ธันวาคม และ 31 ธันวาคม 2568 ตามลำดับ

ประกอบกับเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจพลังงานลม ทำให้ผลประกอบการของโครงการ Borkum Riffgrund 2 (BKR2) ในประเทศเยอรมนีและโครงการภายใต้กลุ่ม Gulf Gunkul Corporation (GGC) ออกมาดี รวมถึงโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางใหญ่-กาญจนบุรี (M81) มีกำหนดเปิดดำเนินการในเดือน ธ.ค.นี้

GULF 2569 ปีแห่งการเร่งเครื่อง S-Curve พลังงานสะอาด–ดาต้าเซ็นเตอร์ ทะยานสู่ยุคใหม่พลังงานไทย

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณานโยบายจ่ายปันผลเป็นปีละ 2 ครั้ง เพื่อสอดรับความคาดหวังของผู้ถือหุ้นทุกคน โดยเฉพาะผู้ถือหุ้นเดิมของ INTUCH ที่เคยได้รับเงินปันผล 2 ครั้งต่อปี แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการบริษัท.

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด บีจี ปทุม พบ เมืองทอง ฟุตบอลไทยลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68