น้ำท่วมใต้สะเทือนธุรกิจ! STGT ย้ำแผน BCP พร้อม ไม่สะดุด - GLOBAL ปิดบริการชั่วคราว

เมื่อภัยธรรมชาติรุกคืบเร็วกว่าที่คาด ธุรกิจยักษ์ใหญ่ในภาคใต้ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงแรงปะทะได้เช่นกัน น้ำท่วมภาคใต้ครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วน

ลามไปถึงกำลังการผลิตและการให้บริการของบริษัทชั้นนำของไทยอย่าง STGT และ GLOBAL ที่ต้องเร่งปรับตัวแบบฉุกเฉินท่ามกลางวิกฤติที่ยังไม่คลี่คลาย

บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ช่วงตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา ส่งผลให้โรงงานผลิตถุงมือซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวจำเป็นต้องหยุดการผลิตชั่วคราว เนื่องจากพนักงานไม่สามารถเดินทางเข้าออกโรงงานเพื่อปฏิบัติงานได้ และปริมาณน้ำได้เอ่อล้นบนพื้นที่ปฏิบัติงานบางส่วน

ทั้งนี้ บริษัทได้เฝ้าระวังและอยู่ในระหว่างการประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อบริหารจัดการให้เกิดสวัสดิภาพต่อธุรกิจ พนักงาน และชุมชน โดยรอบอย่างดีที่สุด

อย่างไรก็ตาม โรงงานของบริษัทที่ไม่ได้ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวยังดำเนินการผลิตได้ตามปกติ

บริษัทขอแจ้งว่าบริษัทมีแผนดำเนินการเพื่อบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Plan: BCP) ในส่วนของภัยน้ำท่วม ซึ่งบริษัทอยู่ในระหว่างการดำเนินการตามแผนเพื่อให้กิจการสามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องและลดผลกระทบต่อธุรกิจให้มากที่สุด และจะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบหากมีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญต่อไป

GLOBAL ปิดบริการชั่วคราว

นายวิทูร สุริยวนากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯเช่นกันว่าจากสถานการณ์ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในภาคใต้ตอนล่างบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล ได้ส่งผลให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดสงขลา

และเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 มวลน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ส่งผลให้สาขาจะนะของบริษัท ได้รับผลกระทบจนไม่สามารถเปิดบริการได้ชั่วคราว และมีสินค้าบางส่วนได้รับความเสียหาย

อย่างไรก็ตามความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดอยู่ภายใต้ความคุ้มครองของบริษัทประกันภัยที่บริษัทฯได้จัดทำไว้แล้ว.