ROJNA-AMATA ไม่หวั่นน้ำเหนือ-น้ำหนุน! ยกระดับแผนป้องกันน้ำท่วม ดึงเชื่อมั่นนักลงทุน

เสียงไซเรนเตือนภัยดังขึ้นกลางดึกในนิคมอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งของภาคกลาง เสียงเครื่องสูบน้ำทำงานอย่างต่อเนื่องท่ามกลางสายฝนที่ไม่รู้จักหยุด ร่องรอยของปี 2554 ยังคงชัดเจนในความทรงจำของหลายโรงงาน ปีแห่ง "น้ำหลาก" ที่กลืนเครื่องจักรนับหมื่นล้านลงใต้กระแสน้ำ

กว่าสิบปีผ่านไป วันนี้ "สายน้ำ" กลับมาแรงอีกครั้งในจังหวะที่ไม่มีใครอยากได้ยิน เขื่อนหลักเริ่มมีระดับน้ำเกินเกณฑ์ระบาย พื้นที่ลุ่มต่ำเริ่มถูกประกาศเป็นพื้นที่เสี่ยง และชื่อของนิคมอุตสาหกรรมสำคัญหลายแห่งวนกลับมาพูดถึงอีกครั้ง

แต่จากบทเรียนในอดีต กลายเป็น "แผนรับมือเชิงระบบ" ที่ถูกออกแบบอย่างรอบด้าน ทั้ง คันดิน คลองระบายน้ำ และเครื่องสูบน้ำอัตโนมัติที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้แน่ใจว่า "น้ำจะไม่กลืนโรงงานอีกครั้ง"

"บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) หรือ ROJNA" คือหนึ่งในนิคมที่ผ่านสมรภูมิน้ำครั้งนั้นมาได้ และในปี 2568 นี้ พวกเขากำลังพิสูจน์ให้เห็นว่า "ความพร้อม" ไม่ได้มีแค่บนกระดาษ แต่ลงลึกถึงการลงพื้นที่จริง ทั้งช่วยเหลือชุมชน ขุดลอกคูคลอง และบริหารระบบน้ำอย่างใกล้ชิด

แหล่งข่าว ROJNA ยอมรับกับ "โพสต์ทูเดย์" ว่าสถานการณ์น้ำเกิดขึ้นทุกปี พื้นที่อยุธยาบางแห่งอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำจึงค่อนข้างได้รับผลกระทบ แต่ ROJNA ผ่านประสบการณ์น้ำท่วมใหญ่มาแล้วในปี 2554 จึงวางแนวทางป้องกันไว้ทั้งหมดและคอยติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

อีกทั้งในปี 2568 สถานการณ์น้ำถือว่าบางเบากว่าปี 2554 อย่างมาก และตอนนี้เข้าปลายฤดูฝนจึงไม่กระทบธุรกิจแต่อย่างใด 

"ที่ผ่านมา ROJNA ไมนิ่งนอนใจ ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน ทั้ง การสูบน้ำ และขุดลอกคูคลอง เป็นต้น และจะดำเนินการแบบนี้ในทุกปีเพื่อสร้างระบบนิเวศน์ที่ดี น้ำสะอาดไหลผ่านได้ง่าย"

สำหรับแนวโน้มธุรกิจในปี 2568 ถือว่ายอดขายยังดีต่อเนื่อง และพยายามปรับแผนการดำเนินงานอยู่ตลอดเวลาเพื่อรับมือกับนโยบายภาษีทรัมป์ อีกทั้งรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ซึ่งถือว่าบริษัทยังคงเดินหน้าธุรกิจได้ดีแม้เผชิญความท้าทายที่หลากหลายก็ตาม

AMATA ย้ำความพร้อม!

ในอีกฟากของภาคตะวันออก "บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA" หนึ่งในยักษ์ใหญ่นิคมอุตสาหกรรมไทย ก็ไม่ต่างกัน

"อัครเรศร์ ชูช่วย" กรรมการผู้จัดการ บริษัท อมตะ ฟาซิลิตี้ เซอร์วิส จำกัด เผยข้อมูลกับ "โพสต์ทูเดย์" ว่า มาตรการบริหารจัดการน้ำภายในนิคมอุตสาหกรรมของอมตะทั้งในจังหวัดชลบุรีและระยอง บริษัทให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการป้องกันน้ำท่วม และได้เตรียมระบบรองรับไว้อย่างครบวงจร เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและผู้ประกอบการในพื้นที่

"เรามีความมั่นใจในการดูแลนิคมฯ เรื่องการป้องกันน้ำท่วมอย่างเต็มที่ ทั้งชลบุรีและระยอง เพราะเรามีทีมงานดูแลและติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา เช่นที่ผ่านมา เราได้มีการทดสอบช่วงที่มีฝนตกหนัก ซึ่งอมตะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในระดับที่น่าพอใจ โดยไม่กระทบต่อการดำเนินธุรกิจของลูกค้า"

สำหรับระบบบริหารจัดการน้ำและระบบป้องกันน้ำท่วม ทั้งในนิคมฯ ชลบุรีและระยอง มีการบริหารจัดหารที่แตกต่างกัน โดยที่นิคมอมตะ ซิตี้ ชลบุรี มีการระบบปั้มน้ำและสถานีควบคุมการระบายน้ำที่ทำงานตลอดเวลา พร้อมเพิ่มเครื่องสูบน้ำในจุดเสี่ยงเพื่อป้องกันเหตุฉุกเฉิน

โดยบริษัทได้ทำงานร่วมกับกรมชลประทาน ในการบริหารการระบายน้ำออกนอกพื้นที่ เพื่อให้ระบบทำงานสอดประสานกันอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนในพื้นที่ระยอง เนื่องจากเป็นเนินเขา จุดที่ต้องเฝ้าระวังคือพื้นที่ต่ำซึ่งอาจมีน้ำไหลรวม เรามีระบบติดตาม เตือนภัย และทีมงานประจำจุดที่พร้อมเข้าจัดการทันทีหากมีฝนตกหนัก เพื่อให้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที

นอกจากนี้ อมตะ ยังให้ความสำคัญและความร่วมมือกับผู้ประกอบการภายในนิคม โดยมีการจัดประชุมร่วมกับลูกค้าเป็นประจำทุกปี เพื่ออัปเดตแผนการป้องกันน้ำท่วมและแนวทางปฏิบัติร่วมกันในการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งได้รับการตอบรับและคำชื่นชมจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

"การบริหารจัดการน้ำเป็นเรื่องใหญ่ที่ลูกค้าให้ความสำคัญมาก เราจึงเชิญประชุมร่วมกับลูกค้าทุกปี เพื่อให้รับทราบแผนและแนวทางการป้องกันน้ำท่วมของเรา ลูกค้าจะได้เห็นว่าอมตะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและในปีนี้เราก็ได้รับคำชมจากหลายบริษัทที่ชื่นชมความพร้อมของอมตะ ซึ่งเป็นกำลังใจให้ทีมงานพัฒนาต่อไป"

แม้น้ำจะยังคงเป็น "บททดสอบ" ของนิคมอุตสาหกรรมไทยทุกปี แต่ทั้ง ROJNA และ AMATA ต่างแสดงให้เห็นถึง "วุฒิภาวะหลังวิกฤต" ที่เปลี่ยนความกลัวเป็นระบบ เปลี่ยนวิกฤติเป็นความเชื่อมั่น และนั่นคือสิ่งที่นักลงทุนอยากเห็นมากที่สุดในวันนี้.