SET ไซด์เวย์ ติดตามงบ บจ. ไตรมาส 3/68 แนะ “Selective Buy” ชู OR และ KTB
SET ไซด์เวย์/รีบาวด์ ติดตามผลประกอบการ บจ. ไตรมาส 3/68 หลังกลุ่มธนาคารและสื่อสารออกมาดีกว่าคาด กลยุทธ์การลงทุน “Selective Buy” แนะนำ OR และ KTB
KEY
POINTS
- ตลาดหุ้นไทย (SET) มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบไซด์เวย์ โดยนักลงทุนกำลังจับตาผลประกอบการไตรมาส 3/68 ของบริษัทจดทะเบียน
- โบรกเกอร์แนะนำกลยุทธ์ "Selective Buy" หรือเลือกซื้อหุ้นเป็นรายตัว โดยเน้นหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการจะเติบโตดี
- ชูหุ้นเด่นคือ OR จากแนวโน้มกำไรไตรมาส 3 ที่คาดว่าจะออกมาดี และ KTB ที่มีปัจจัยกระตุ้นจากการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล
บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า ตลาดไซด์เวย์/รีบาวด์ ตลาดยังติดตามผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ในโค้งสุดท้ายหลังกลุ่มธนาคารและสื่อสารออกมาดีกว่า คาดหนุนตลาดไประดับหนึ่งแล้ว ปัจจัยภายนอกตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดีทั้ง ADP Employment และ ISM Services หนุนจิตวิทยาตลาดหุ้นรวม แม้ภาคแรงงานสหรัฐฯ ที่ดีอาจจะทำให้ความจำเป็นในการลดดอกเบี้ยเฟดน้อยลง บวกกับหุ้นเอเชียลดลง เทคนิคตลาดรีบาวด์ที่แนวรับ 1285 ที่ให้ไว้ หากแกว่งขึ้นต่อต้องยืนเหนือ 1300/1305 ส่วนการลงอย่าหลุด 1285 อีก
ทั้งนี้ ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ 1280-1345 จุด ปัจจัยในประเทศติดตามการเข้าสู่ฤดูกาลประกาศงบไตรมาส 3/2568 ของ บจ. กลุ่ม Real Sector หลังงบหุ้นธนาคารส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าตลาดคาด และการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาล อาทิ มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย โดยจะรับซื้อหนี้ที่ไม่มีหลักประกันและค้างชำระไม่เกิน 1 แสนบาทต่อราย ขณะที่เงินเฟ้อไทย ต.ค.2558 คาดติดลบต่ออย่างน้อย 0.5%ΥoΥ (จาก ก.ย. ที่ -0.7%YoY)
ปัจจัยภายนอกที่ต้องติดตาม ได้แก่ 1) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่น การจ้างงาน ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ และดุลการค้า ต.ค.2568 หากออกมาแย่ ตลาดจะให้น้ำหนักเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลงต่อใน ธ.ค.นี้ 2) การประชุม BoE คาดมีมติคงดอกเบี้ยนโยบาย และ 3) งบไตรมาส 3/2568 บจ. ขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ คาดจะดีกว่าตลาดคาด
ดังนั้น กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ "Selective Buv" ใน 2 ธีมหลัก และ 4 ธีมเทรดดิ้ง ดังนี้
1. หุ้น Earnings Play คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2568 จะยังเติบโตดี ทั้ง QoQ และ YoY และเราแนะนำ Outperform จากแนวโน้มธุรกิจดีและราคาหุ้นยังมี Upside ได้แก่ ADVANC BCP LHSC OR PTT TRUE
2. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อีก 1 ครั้งในเดือน ธ.ค. และปีหน้า 2 ครั้งในช่วงไตรมาส 1/2569 อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีการะหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลด หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น AP MTC TIDLOR รวมทั้งกลุ่ม REITS แนะนำ DIF FTREIT LHHOTEL
3. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่มีแนวโน้มจะประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ออกมาดีกว่าตลาดคาด แนะนำ BCPG TU GFPT CPALL BGRIM
2) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากทรัมป์และสีจีนผิงบรรลุข้อตกลงทางการค้าเบื้องต้นได้ แนะนำ IVL PTTGC SCC SCGP
3) หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากรัฐเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ แนะนำ กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL ERW) จากมาตรการเที่ยวดีมีคืน, กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC TIDLOR) จากมาตรการพักหนี้และให้สินเชื่อรายย่อย
4) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากดอลลาร์อ่อนค่า (บาทแข็งค่า) แนะนำ กลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC)
สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ OR มีปัจจัยกระตุ้นจากค่าการตลาดที่ได้ผลบวกจากราคาน้ำมันที่ปรับลงและแนวโน้มกำไรสุทธิในไตรมาส 3/2568 คาดออกมาดีที่ 2.6 พันล้านบาท (+26%QoQ) และพลิกจากขาดทุน 1.6 พันล้านบาท ในไตรมาส 3/2567 หนุนจากค่าการตลาดที่สูงขึ้นและยอดขาย Café Amazon ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนกำไรไตรมาส 4/2568 คาดว่ายังดีต่อเป้าหมายระยะสั้น 14.90 บาท
KTB มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากการจ่ายปันผลระหว่างกาลครั้งแรกที่ 0.43 บาท/หุ้น (XD 11 พ.ย.) และมี Upside จากการบริหารเงินทุนผ่านโอกาสการซื้อหุ้นคืนที่อยู่ระหว่างพิจารณาและโอกาสจ่ายปันผลสูงขึ้น ประเมิน Div. Yield ในปี 2568-2570 ราว 7.9-8.6% ความเสี่ยงคุณภาพสินทรัพย์ที่ต่ำ Valuation ที่ไม่แพง เป้าหมายระยะสั้นที่ 28.50 บาท


