posttoday

SET แกว่งลง กรอบ 1,285-1,305 จุด จับตาตัวเลขเงินเฟ้อไทย

05 พฤศจิกายน 2568

SET แกว่งลง ในกรอบ 1,285-1,305 จุด จับตารายงานตัวเลขเงินเฟ้อไทยวันนี้ กลยุทธ์การลงทุน “Selective Buy” แนะนำ ADVANC และ BCPG

KEY

POINTS

  • SET มีแนวโน้มแกว่งตัวลงในกรอบ 1,285-1,305 จุด เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่
  • ปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตาคือตัวเลขเงินเฟ้อของไทย ซึ่งคาดว่าจะติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7
  • ปัจจัยอื่นที่ส่งผลต่อตลาด ได้แก่ การประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียน และตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า ตลาดแกว่งลงแต่มีลุ้นชะลอการลงที่แนวรับ ยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ วันนี้มีรายงานตัวเลขเงินเฟ้อไทย คาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปยังติดลบต่อเป็นเดือนที่ 7 แต่คาดผลจำกัดหลังตลาดเริ่มชิน ปัจจัยต่างประเทศ เริ่มมีแรงขายหุ้นเทคฯ หลังผลประกอบการ ในขณะที่การปิดหน่วยงานราชการสหรัฐฯ เข้าสู่วันที่ 35 นานสุดในประวัติศาสตร์และยังไม่มีสัญญาณกลับมาเปิด เทคนิคตลาดเบรกลงหลุด 1305-1300 ทำให้เป็นการแกว่งตัวลงไปที่ 1290/1285 ที่มีช่วงรีบาวด์ได้ มีแนวต้านที่ 1300/1305

ทั้งนี้ ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ 1280-1345 จุด ปัจจัยในประเทศติดตามการเข้าสู่ฤดูกาลประกาศงบไตรมาส 3/2568 ของ บจ. กลุ่ม Real Sector หลังงบหุ้นธนาคารส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าตลาดคาด และการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาล อาทิ มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย โดยจะรับซื้อหนี้ที่ไม่มีหลักประกันและค้างชำระไม่เกิน 1 แสนบาทต่อราย ขณะที่เงินเฟ้อไทย ต.ค.2558 คาดติดลบต่ออย่างน้อย 0.5%YoY (จาก ก.ย. ที่ -0.7%YoY) 

ปัจจัยภายนอกที่ต้องติดตาม ได้แก่ 1) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่น การจ้างงาน ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ และดุลการค้า ต.ค.2568 หากออกมาแย่ ตลาดจะให้น้ำหนักเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลงต่อใน ธ.ค.นี้ 2) การประชุม BoE คาดมีมติคงดอกเบี้ยนโยบาย และ 3) งบไตรมาส 3/2568 บจ. ขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ คาดจะดีกว่าตลาดคาด 

ดังนั้น กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ "Selective Buv" ใน 2 ธีมหลัก และ 4 ธีมเทรดดิ้ง ดังนี้

1. หุ้น Earnings Play คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2568 จะยังเติบโตดี ทั้ง QoQ และ YoY และเราแนะนำ Outperform จากแนวโน้มธุรกิจดีและราคาหุ้นยังมี Upside ได้แก่ ADVANC BCP LHSC OR PTT TRUE

2. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อีก 1 ครั้งในเดือน ธ.ค. และปีหน้า 2 ครั้งในช่วงไตรมาส 1/2569 อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีการะหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลด หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น AP MTC TIDLOR รวมทั้งกลุ่ม REITS แนะนำ DIF FTREIT LHHOTEL

3. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่มีแนวโน้มจะประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ออกมาดีกว่าตลาดคาด แนะนำ BCPG TU GFPT CPALL BGRIM 

2) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากทรัมป์และสีจีนผิงบรรลุข้อตกลงทางการค้าเบื้องต้นได้ แนะนำ IVL PTTGC SCC SCGP 

3) หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากรัฐเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ แนะนำ กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL ERW) จากมาตรการเที่ยวดีมีคืน, กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC TIDLOR) จากมาตรการพักหนี้และให้สินเชื่อรายย่อย 

4) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากดอลลาร์อ่อนค่า (บาทแข็งค่า) แนะนำ กลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC)

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ ADVANC มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากกำไรไตรมาส 3/2568 ที่ออกมาดีกว่าคาด กำไรปกติอยู่ที่ 1.19 หมื่นล้านบาท (+42.4%YoY และ +9.6%QoQ) สูงกว่าเราคาด 7.9% และสูงกว่าตลาดคาด 5.9% รายได้ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และธุรกิจ FBB เติบโตหนุน ส่วนไตรมาส 4/2568 คาดว่าจะเติบโตต่อจากการประหยัดต้นทุนหลังประมูลคลื่น ราคาเป้าหมายระยะสั้น 307 บาท

BCPG มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากผลประกอบการไตรมาส 3/2568 คาดจะออกมาดี เติบโตก้าวกระโดดทั้ง YoY และ QoQ และจะยังเติบโตต่อเนื่องถึงปี 2569 จาก Capacity Payment ในสหรัฐฯ ที่รับรู้เต็มไตรมาส Valuation ไม่แพง PER 2569F 11 เท่า (-1SD) ซึ่งมองยังไม่สะท้อนกำไรปกติที่แข็งแกร่งในปี 2568-2569 เป้าหมายระยะสั้น 8.15 บาท

ข่าวล่าสุด

ทรู-ซีพี ผนึก กกท. ประกาศพร้อมจัดซีเกมส์ 2025 ชูเครือข่าย 5G เต็มพิกัด