posttoday

SET ไซด์เวย์ ติดตาม Action Plan พลังงาน การประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีน

20 ตุลาคม 2568

SET ไซด์เวย์ กรอบ 1,266-1,286 จุด ติดตามการ Action Plan พลังงาน การประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีน 4th Plenum กลยุทธ์การลงทุน “Selective Buy” แนะนำ KTB และ TU

KEY

POINTS

  • ตลาดหุ้นไทย (SET) มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบแคบ (Sideways)
  • นักลงทุนจับตาแผนปฏิบัติการด้านพลังงาน (Action Plan) ของภาครัฐ 
  • การประชุมคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน (4th Plenum) เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญที่ต้องติดตาม ซึ่งคาดว่าจะส่งสัญญาณสนับสนุนด้านเทคโนโลยีและการบริโภค

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า ตลาดไซด์เวย์ ประธานาธิบดีทรัมป์ประเมินว่าการเก็บภาษี 100% กับจีนไม่สามารถดำเนินได้ในระยะยาวช่วยหนุนตลาดผ่อนคลายความกังวล ในขณะที่ความกังวลของธนาคารภูมิภาค จากหนี้เสียของผู้ให้สินเชื่อรถยนต์ตลาดบางส่วนเชื่อว่าจะไม่ขยายวงกว้างลดแรงกดดัน ติดตามการ Action Plan พลังงาน การประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีน 4th Plenum เทคนิค มีโอกาสชะลอการลงสั้นที่ 1270-1266 แต่หากหลุดระวังลงรอบ ใหม่ แนวต้าน 1280/1286

ทั้งนี้ ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1270-1320 ประเมินความเสี่ยงหลัก คือ สงครามการค้าสหรัฐฯ กับจีนจะมีต่อเนื่องจนกว่าทั้งสองฝ่ายจะเจรจาในช่วงก่อนประชุม APEC ปลายเดือน ต.ค. นี้, การประชุม คกก. พรรคคอมมิวนิสต์จีน (20-23 ต.ค.) คาดจะส่งสัญญาณสนับสนุน ด้านเทคโนโลยี, การบริโภค และจำกัดการเพิ่มขึ้นของกำลังการผลิตใหม่, เงินเฟ้อ ก.ย. ของสหรัฐฯ (24 ต.ค.) อาจมีผลต่อตลาดไม่มากนัก โดยมองเฟดมีแนวโน้มลดดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีนี้ และงบไตรมาส 3/2568 ของ บจ. สหรัฐฯ มีแนวโน้มออกมาดีกว่าตลาดคาด โดย 6 ใน 11 กลุ่มอุตสาหกรรม คาดจะปรับตัวขึ้น YoY ได้ 

ด้านปัจจัยในประเทศติดตามแผนออกมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มของรัฐบาล, ตัวเลขส่งออกไทย ก.ย. 2568 ที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง และงบไตรมาส 3/2568 ของ บจ. ไทย โดยกลุ่มธนาคารใหญ่จะ ประกาศจบสัปดาห์หน้าและถัดไปจะเป็นกลุ่ม Real Sector

ดังนั้น กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ "Selective Buv" ใน 2 ธีมหลัก และ 3 ธีมเทรดดิ้ง ดังนี้

1. หุ้น Earnings Play ซึ่งคาดผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2568 จะยังเติบโตดีทั้ง QoQ และ YoY และเราแนะนำ Outperform จากแนวโน้มธุรกิจดีและราคาหุ้นยังมี Upside ได้แก่ ADVANC BCP KTB LHSC OR PTT TRUE

2. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการ ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อีก 1 ครั้งในเดือน ธ.ค. และปีหน้า 2 ครั้งในช่วงไตรมาส 1/2569 อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีการะหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัว สูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือกำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC TIDLOR

3. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์ค่าเงินบาทอ่อนค่าในช่วงที่ผ่านมา แนะนำ TU GFPT KCE HANA 2) หุ้นที่มีโอกาสได้ประโยชน์จากสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ มีความตึงเครียดเพิ่มขึ้น แนะนำ WHA AMATA FTREIT และ 3) หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากกำลังซื้อที่จะดีขึ้น จากรัฐผลักดันนโยบายสร้างรายได้ ลดค่าครองชีพ แนะนำ CPALL CPAXT และ BJC

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ KTB มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากโมเมนตัมกำไรสุทธิไตรมาส 3/2568 คาดจะเติบโตสูงที่สุดในกลุ่ม เนื่องจากประเมินกำไร FVTPL จากเงินลงทุนใน THAI 1.4 หมื่นล้านบาท (1 บาท/หุ้น) KTB มีความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำกว่าธนาคารใหญ่อื่นๆ มี ROE ที่ดีกว่า Valuation ถูก และคาด Div. Yield ปี 2568 ที่ราว 6.3% เป้าหมายระยะสั้น 26.50 บาท

TU มองได้อานิสงส์จากเงินบาทกลับมาอ่อนค่า ซึ่งคาดจะเป็นหนึ่งในอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนให้ยอดขายและกำไรไตรมาส 4/2568 ปรับตัวดีขึ้น YoY ขณะที่แม้ไตรมาส 3/2568 คาดมีกำไรปกติที่ 1.25 พันล้านบาท ลดลง 15%YoY จากอัตรากำไรขั้นต้นที่อ่อนแอ แต่ยังเพิ่มขึ้น 2%QoQ จากปัจจัยฤดูกาล ราคาเป้าหมายระยะสั้น 13.80 บาท

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด เชลซี พบ เอฟเวอร์ตัน พรีเมียร์ลีก วันนี้ 13 ธ.ค.68