posttoday

เส้นทาง 7 ปี “WASH” ร้านสะดวกซักครบวงจร สู่ตลาดหุ้นไทย ลุยเทรด พ.ย.นี้

16 ตุลาคม 2568

“WASH” ผู้นำธุรกิจให้บริการร้านสะอาดซักครบวงจร แบรนด์ “WashXpress” เปิดโมเดลธุรกิจ “Owner-Operator” เหนือคู่แข่ง สู่ตลาดหุ้นไทย เคาะราคาไอพีโอ 7.50 บาท เปิดจองซื้อ 24, 27-28 ต.ค. ก่อนลุยเทรด mai พ.ย.68

KEY

POINTS

  • “WASH” ผู้นำธุรกิจให้บริการร้านสะอาดซักครบวงจร ภายใต้แบรนด์ “WashXpress” เปิดโมเดลธุรกิจ “Owner-Operator” เหนือคู่แข่ง สู่ตลาดหุ้นไทย 
  • เคาะราคาไอพีโอ 7.50 บาท เปิดจองซื้อ 24, 27-28 ต.ค. ก่อนลุยเทรด mai พ.ย.68    
  • นำเงินลงทุนขยายสาขาไม่น้อยกว่า 160 สาขา ในปี 69-70 พร้อมปรับปรุงและอัพเกรดร้านสะดวกซักสาขาเดิม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน 

เรื่องราวของ บริษัท ลอนดรี้ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ WASH เริ่มต้นขึ้นจากความมุ่งมั่นที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังของกลุ่มผู้ร่วมก่อตั้ง 4 ท่าน ได้แก่ “ชิษณุพันธ์ ตั้งเฉลิมกุล”, “กวิน กลองกระโทก”, “อุไรวรรณ อ่อนเจริญ”, และ “พรสิริ ธัญญานุรักษา” พวกเขาเหล่านี้มีวิสัยทัศน์ร่วมกันที่ต้องการจะทำให้การซักผ้าเป็นเรื่องที่ “สะอาด สะดวก สบาย” สำหรับทุกคนในชุมชน และพร้อมที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคม

จากความตั้งใจอันแน่วแน่ นำมาซึ่งการก่อตั้งแบรนด์ “WashXpress” ซึ่งประสบความสำเร็จและเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว หัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนความสำเร็จนี้คือทีมผู้บริหารซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ ที่สั่งสมประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจร้านสะดวกซักมานานกว่า 7 ปี มุ่งมั่นก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจร้านสะดวกซักแบบครบวงจรในประเทศไทย

เส้นทาง 7 ปี “WASH” ร้านสะดวกซักครบวงจร สู่ตลาดหุ้นไทย ลุยเทรด พ.ย.นี้

โมเดลธุรกิจ “Owner-Operator” กลยุทธ์ที่แตกต่าง

“กวิน กลองกระโทก” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ลอนดรี้ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ WASH ได้อธิบายถึงรากฐานความสำเร็จที่แข็งแกร่งของบริษัท แบ่งธุรกิจหลักออกเป็น 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) ธุรกิจให้บริการร้านสะดวกซักแบบครบวงจรภายใต้แบรนด์ “WashXpress” เป็นหัวใจหลักในการสร้างรายได้ (2) ธุรกิจให้สิทธิบุคคลอื่นในการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ และ (3) ธุรกิจจำหน่ายเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า สินค้าอื่น ๆ และบริการที่เกี่ยวข้อง

ความสำเร็จและการเติบโตแบบก้าวกระโดดของ WASH ไม่ได้มาจากโชคช่วย แต่มาจากโมเดลธุรกิจที่แตกต่างจากผู้เล่นรายอื่นในอุตสาหกรรม และเป็นกลไกสำคัญที่นำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน นั่นคือ “Owner-Operator” โดยมุ่งเน้นการลงทุนและบริหารจัดการสาขาด้วยตนเองเป็นหลัก ซึ่งโมเดลนี้เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้บริษัทสามารถควบคุมคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการในทุกมิติได้อย่างเต็มที่ ตั้งแต่ความสะอาดของร้าน ไปจนถึงประสิทธิภาพของอุปกรณ์และการดูแลลูกค้า

โมเดลธุรกิจ Owner-Operator ได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอและต่อเนื่อง (Recurring Income) ณ วันที่ 30 มิ.ย.2568 บริษัทเป็นเจ้าของสาขามากถึง 469 สาขา คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 85.58% ของจำนวนสาขาทั้งหมด และรายได้จากการขายและให้บริการผ่านสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของเองที่ทำสัดส่วนสูงถึง 97.40% ของรายได้รวมในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568

การเติบโตในตลาดเมกะเทรนด์

“ชิษณุพันธ์ ตั้งเฉลิมกุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจ และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ลอนดรี้ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ WASH ได้ชี้ให้เห็นว่า อุตสาหกรรมร้านสะดวกซักในไทยถือเป็นธุรกิจ “เมกะเทรนด์” ที่มีศักยภาพสูง ตลาดนี้มีการเติบโตอย่างน่าทึ่ง โดยมูลค่าตลาดขยายตัวจากประมาณ 3,000 ล้านบาท ในปี 2563 กระโดดมาเป็น 10,000 ล้านบาท ในปี 2565 และคาดว่าจะพุ่งสูงถึง 13,500 ล้านบาท ในปี 2567

โดยปัจจุบัน ธุรกิจร้านซักผ้าในไทยประกอบด้วย 3 ประเภทหลัก ได้แก่ ร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ, ร้านซักรีดทั่วไป และร้านสะดวกซัก (Laundromat) ซึ่งร้านสะดวกซักที่ใช้เครื่องจักรอุตสาหกรรมมีแนวโน้มการเติบโตที่โดดเด่นและรวดเร็วที่สุด เนื่องจากสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในด้านความสะดวก รวดเร็ว และมีคุณภาพสูงกว่าการซักผ้าที่บ้าน 

การเติบโตนี้มีปัจจัยหนุนหลายประการ เช่น การขยายตัวของสังคมเมือง (Urbanization) ซึ่งทำให้ผู้คนอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมหรืออพาร์ตเมนต์ที่มีพื้นที่จำกัด, การฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่เพิ่มความต้องการซักผ้าปริมาณมากจากธุรกิจโรงแรม, และแนวโน้มการอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ ที่ส่วนใหญ่เป็นครอบครัวเดี่ยว (Nuclear Family) และมีไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ จึงต้องการบริการที่ช่วยประหยัดเวลาและอำนวยความสะดวกในการจัดการงานบ้าน ซึ่งร้านสะดวกซักที่ใช้เครื่องจักรอุตสาหกรรมอย่าง WashXpress ตอบโจทย์เหล่านี้ได้ดีกว่าร้านซักผ้าประเภทอื่น

ความสำเร็จสะท้อนผ่านตัวเลขทางการเงินที่แข็งแกร่ง 

“นันทพร ฤทธินภากร” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานบัญชีและการเงิน บริษัท ลอนดรี้ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ WASH เปิดเผยว่า ในช่วงปี 2565-2567 บริษัทสามารถสร้างการเติบโตของผลการดำเนินงานได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 464.47 ล้านบาท ในปี 2565 เป็น 657.06 ล้านบาท ในปี 2566 และ 823.58 ล้านบาท ในปี 2567 คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยประมาณ 33.16% ต่อปี ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจร้านสะดวกซักที่บริษัทเป็นเจ้าของ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 92.10-96.60% ของรายได้รวม 

เช่นเดียวกับกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น จาก 59.31 ล้านบาท ในปี 2565 เป็น 67.28 ล้านบาท ในปี 2566 และ 83.47 ล้านบาท ในปี 2567 คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยของกำไรสุทธิที่ 18.63% ต่อปี ซึ่งมีปัจจัยหนุนจากการขยายสาขาใหม่ และการเติบโตของสาขาเดิมรวมทั้งการเพิ่มบริการใหม่ 

นอกจากนี้ บริษัทมีกระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานเป็นบวกและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก 247.53 ล้านบาท ในปี 2565 เป็น 341.60 ล้านบาท ในปี 2566 และ 430.95 ล้านบาท ในปี 2567 แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการสร้างเงินสดจากธุรกิจหลัก และศักยภาพการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง

เส้นทาง 7 ปี “WASH” ร้านสะดวกซักครบวงจร สู่ตลาดหุ้นไทย ลุยเทรด พ.ย.นี้

ก้าวสำคัญสู่ตลาดหลักทรัพย์ mai

เพื่อให้การเติบโตเป็นไปอย่างมั่นคงและยั่งยืนยิ่งขึ้น WASH จึงได้ตัดสินใจเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) การเข้าตลาดครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยปลดล็อกศักยภาพ และเสริมความแข็งแกร่งทางการเงินให้แก่บริษัท

“กวิน” เชื่อมั่นว่าการระดมทุนครั้งนี้จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการจัดหาเงินทุน ยกระดับภาพลักษณ์องค์กร และเสริมสร้างความน่าเชื่อถือในตลาด

เม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนจะถูกนำไปใช้รองรับแผนการขยายธุรกิจเชิงรุก ผ่านการขยายสาขาที่บริษัท เป็นเจ้าของไม่น้อยกว่า 160 สาขา ในปี 2569-2570, ปรับปรุงและยกระดับ (Upgrade) ร้านสะดวกซักสาขาเดิม รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน 

“เราเชื่อมั่นว่าการระดมทุนในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และผลักดันให้ WASH มุ่งสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจร้านสะดวกซักครบวงจรได้อย่างเต็มภาคภูมิ พร้อมสร้างการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนต่อไปในอนาคต”

3 ยุทธศาสตร์หลัก สร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด

1. การขยายสาขาเชิงรุก (Branch Expansion) ตั้งเป้าหมายเปิดสาขาใหม่ที่บริษัทเป็นเจ้าของ 80 สาขา ในปี 2568 และขยายอีกไม่น้อยกว่า 160 สาขา ในปี 2569-2570

2. การพัฒนาและขยายบริการครบวงจร (Full Service) ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายขึ้น พร้อมขยายบริการที่มีอยู่แล้ว เช่น บริการซักอบพับ บริการรับรีด และบริการรับจ้างซักอบรีดในปริมาณมากสำหรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจ (B2B) ให้ครอบคลุมสาขามากขึ้น รวมถึงมีแผนพัฒนาบริการใหม่ ๆ เช่น บริการรับ-ส่งผ้าถึงมือลูกค้า (Delivery Service) 

3. การขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี (Technology Driven) ผ่านแอปพลิเคชัน WashXpress สร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า พร้อมนำข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานมาวิเคราะห์เพื่อต่อยอดทางธุรกิจ และมีแผนจะนำรูปแบบสมาชิก (Subscription Model) มาใช้ในการให้บริการ

เส้นทาง 7 ปี “WASH” ร้านสะดวกซักครบวงจร สู่ตลาดหุ้นไทย ลุยเทรด พ.ย.นี้

เคาะราคาไอพีโอ 7.50 บาท/หุ้น 

ปัจจุบัน แบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) ของ WASH ได้รับอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต. และมีผลใช้บังคับแล้ว โดยบริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนรวมไม่เกิน 105,882,352 หุ้น คิดเป็น 30% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายครั้งนี้ ประกอบด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัท และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิม 

“สุธางค์ คนศิลป” กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ 2 บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ระบุว่า ได้กำหนดราคาเสนอขาย IPO ที่ 7.50 บาทต่อหุ้น และจะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อในวันที่ 24 และ 27-28 ต.ค.2568 ซึ่งคาดว่าจะสามารถนำหุ้น WASH เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ได้ภายในเดือน พ.ย.2568

โดย WASH ได้ลงนามแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ พร้อมแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญอีก 4 ราย ประกอบด้วย (1) บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) (2) บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (3) บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ (4) บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 

“WASH ถือเป็นหุ้น IPO ที่มีศักยภาพการเติบโตสูงและน่าจับตามองอย่างยิ่ง เรามีความเชื่อมั่นในพื้นฐานที่แข็งแกร่งและอนาคตที่โดดเด่นของบริษัทฯ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงผู้เล่นในตลาด แต่เป็นหนึ่งในผู้นำที่ร่วมกำหนดทิศทางอุตสาหกรรมร้านสะดวกซัก ซึ่งเป็นธุรกิจเมกะเทรนด์ที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด จึงมั่นใจว่าราคา IPO ที่กำหนดไว้นั้นมีความเหมาะสม และสะท้อนถึงมูลค่าและศักยภาพการเป็นหุ้น Growth Stock ที่โดดเด่นของบริษัทได้เป็นอย่างดี”

ด้วยรากฐานที่มั่นคงและโมเดลธุรกิจ Owner-Operator ที่เป็นเอกลักษณ์ WASH จึงพร้อมแล้วที่จะก้าวสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจร้านสะดวกซักครบวงจรได้อย่างเต็มภาคภูมิ พร้อมสร้างการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนต่อไปในอนาคต

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด เชลซี พบ เอฟเวอร์ตัน พรีเมียร์ลีก วันนี้ 13 ธ.ค.68