จับตาบทสรุป "ดิวตี้ฟรี" ปวีณาคาดจบศึกพันล้าน พ.ย.นี้
เกมสัมปทานดิวตี้ฟรีระหว่าง "ท่าอากาศยานไทย (AOT) และ "คิงเพาเวอร์" ใกล้จบ! ปวีณา จริยฐิติพงศ์ บอสหญิงเหล็กเตรียมสรุปแนวทางเงื่อนไขสัญญาภายในเดือนตุลาคม ก่อนเปิดโต๊ะเจรจาใหญ่ หวังปิดดีลพันล้านจบสวยภายในพฤศจิกายนนี้
KEY
POINTS
- เกมสัมปทานดิวตี้ฟรีระหว่าง "ท่าอากาศยานไทย (AOT) และ "คิงเพาเวอร์" ใกล้จบ!
- ปวีณา จริยฐิติพงศ์ บอสหญิงเหล็กเตรียมสรุปแนวทางเงื่อนไขสัญญาภายในเดือนตุลาคม ก่อนเปิดโต๊ะเจรจาใหญ่
- หวังปิดดีลพันล้านจบสวยภายในพฤศจิกายนนี้
ย้อนกลับไปกว่า 30 ปี "คิง เพาเวอร์" คือชื่อที่ผูกติดกับคำว่า "ดิวตี้ฟรีไทยแลนด์" จากร้านค้าปลอดอากรเล็กๆ ในสนามบินดอนเมือง สู่การผูกสัมปทานกับ "บริษัท ท่าอากาศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT" จนกลายเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการดิวตี้ฟรีรายใหญ่ของเอเชีย
แต่จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในปี 2562
เมื่อ AOT เปิดประมูลสัญญาสัมปทานดิวตี้ฟรีชุดใหม่ ทั้งในสนามบินสุวรรณภูมิและภูมิภาค "บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD)" คว้าชัยอีกครั้ง ด้วยการเสนอค่ารับประกันรายได้ขั้นต่ำ(MAG)สูงลิ่วกว่า 15,000 ล้านบาทต่อปี สำหรับสุวรรณภูมิ และอีกกว่า 2,000 ล้านบาท สำหรับสนามบินภูเก็ต เชียงใหม่ และหาดใหญ่
ขณะนั้น…หลายฝ่ายมองว่านี่คือ "ชัยชนะของความยิ่งใหญ่"
แต่วันนี้…มันกลับอาจกลายเป็น "กับดักแห่งตัวเลข"
จากสัญญาทองคำ สู่แรงกดดันพันล้าน
ปี 2020 สัญญาเริ่มเดินหน้าเต็มตัว แต่โลกกลับพังทลายจากวิกฤติ COVID-19
เที่ยวบินหาย รายได้หด คิงเพาเวอร์ต้องจ่ายค่า MAG ตามสัญญาที่ตั้งอยู่บนสมมติฐาน "ยุคทองของการท่องเที่ยวไทย"
AOT ยอมผ่อนผันบ้างในช่วงโควิด-19 ให้เลื่อนการชำระบางงวด แต่พอเข้าสู่ปี 2024 - 2025 แผลเก่ากลับเปิดอีกครั้ง
เมื่อรัฐบาลประกาศยกเลิกร้านดิวตี้ฟรีขาเข้า เป็นระยะเวลา 1 ปีในสนามบิน 8 แห่ง คือ สุวรรณภูมิ, ดอนเมือง, เชียงใหม่, ภูเก็ต, หาดใหญ่, อู่ตะเภา, สมุย และ กระบี่
รายได้หายอีกระลอก ขณะที่ต้นทุนค่าสัมปทานยังไม่ขยับแม้แต่นิด
คิงเพาเวอร์เริ่มขอเจรจาใหม่ ขอเลื่อนจ่าย ขอปรับสัญญา
AOT อนุมัติให้ "ขยายเวลาชำระ 8 เดือน" พร้อมดอกเบี้ย 8.844% ต่อปี และหลักประกัน 1,450 ล้านบาท แต่คำถามใหญ่คือ "นี่คือสัญญาที่ยังไปต่อได้จริงหรือ ?"
เกมต่อรอง
พฤษภาคม 2025 กลายเป็นเดือนประวัติศาสตร์ "คิงเพาเวอร์" ยื่นหนังสือถึง AOT ขอ "ยกเลิกสัญญา" ดิวตี้ฟรีในสนามบินสุวรรณภูมิ, ดอนเมือง, ภูเก็ต, เชียงใหม่ และหาดใหญ่ อ้างเหตุผลว่า "สถานการณ์ธุรกิจเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง"
AOT เร่งดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจทันที ศึกษาผลทางกฎหมาย เพราะนี่ไม่ใช่สัญญาธรรมดา แต่คือ "สัญญาหลายพันล้าน" หากยกเลิกโดยไม่มีเหตุอันควร อาจกระทบรายได้และผู้ถือหุ้นโดยตรง
ในอีกด้านหนึ่ง คิงเพาเวอร์ชี้ว่า ต้นทุนที่แบกรับในปัจจุบัน "เกินความเป็นจริงของตลาด" เมื่อจำนวนนักท่องเที่ยวแม้จะกลับมา แต่ค่าใช้จ่ายต่อหัวและโครงสร้างภาษีกลับเปลี่ยนไปเกิดอาการถ่วงรายได้หดต่ำ
การเจรจาหาทางออกที่รัดกุมและตอบโจทย์จึงสำคัญ!
"โพสต์ทูเดย์" ได้พูดคุยกับคุณ "ปวีณา จริยฐิติพงศ์" ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เล่าถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาและทางออกที่ดีที่สุดว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างดำเนินการพิจารณาเงื่อนไข เพื่อหาทางออกที่ดี
ทางคิงเพาเวอร์ได้มีการสอบถามความคืบหน้าเช่นเดียวกัน ซึ่งเดิมคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ต.ค. แต่ด้วยกระบวนการจัดจ้างของ AOT เป็น พรบ.จัดซื้อจัดจ้าง จึงใช้เวลานาน การเริ่มงานของที่ปรึกษาฯจึงล่าช้าออกไปและไม่เสร็จตามเวลาที่บอกไว้แต่แรก ขั้นตอนจากนี้คือการนำข้อสรุปเข้าที่ประชุมบอร์ดในเร็วๆนี้ และคาดว่าทุกอย่างจะจบภายในเดือน พ.ย.นี้
"เรามีความยุติธรรม ทุกคนต้องเติบโตไปด้วยกัน ไม่ใช่ว่า AOT กอบโกยผลประโยชน์รายได้หมด แต่ผู้ประกอบการทุกคนที่อยู่กับเรากลับมีปัญหา ซึ่งตอนนี้มีสถานะที่เป็นแบบนั้น ไม่ใช่เพียงกรณีของดิวตี้ฟรีเท่านั้น แต่รวมถึงร้านกาแฟ สัญญารถเช่า ต่างๆเหล่านี้เผชิญปัญหาคล้ายกัน ตัวเราเองจึงคิดว่าถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนตัวเองจริงๆ จึงเป็นที่มาของการทรานฟอร์มชุดใหญ่ของ AOT"
ถามว่า พ.ย.นี้จบดีลสวยหรือไม่ ?
เรื่องนี้คุณปวีณาตอบชัดเจนว่าไม่ทราบ เพราะคำว่าจบสวยของ AOT กับ คิงเพาเวอร์อาจจะไม่เหมือนกัน เบื้องต้นทีมที่ปรึกษาฯส่งเรื่องเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลก่อนนำเสนอมาให้ทางคณะกรรมการของ AOT เป็นผู้พิจารณาเลือกแนวทางที่เหมาะสม ก่อนนำไปเจรจากับคิงเพาเวอร์ในช่วงต้นเดือน พ.ย.นี้ ดังนั้นจึงคาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปของเรื่องทั้งหมดภายในเดือนหน้า
"เราอยากให้ขั้นตอนต่างๆเสร็จให้เร็วที่สุด และหวังว่าเรื่องนี้จะจบสวยในเดือนพฤศจิกายนนี้"
เมื่อเกมสัมปทานดิวตี้ฟรีระหว่าง AOT และ คิง เพาเวอร์ เดินทางมาถึงจุดหัวเลี้ยวหัวต่อ "ปวีณา จริยฐิติพงศ์" ต้องถือหางเสือใหญ่พาองค์กรฝ่าคลื่นแรงแห่งผลประโยชน์และแรงกดดันรอบด้าน คำตอบสุดท้ายจะออกมาอย่างไร ?
ดีลพันล้านนี้จะ "ลงเอยด้วยความร่วมมือ" หรือ "ปะทุเป็นศึกใหม่" ที่สั่นสะเทือนทั้งวงการสนามบินไทย
เดือนพฤศจิกายนนี้...คำตอบจะชัดเจนว่า ใครคือผู้ชนะในศึกดิวตี้ฟรีแห่งยุค AOT หรือ คิง เพาเวอร์ ?


