"คงกระพัน อินทรแจ้ง" ซีอีโอ ปตท. ลาออกบอร์ด PTTGC ผงาดนั่งกรรมการ OR เริ่ม 1 ต.ค.นี้

บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ได้ลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัท เนื่องจากมีภารกิจอื่น โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2568

นอกจากนี้ กรรมการอีกราย คือ นางนิวดี เจริญสิทธิพันธ์ ได้ลาออกจากตำแหน่งเช่นเดียวกัน มีผลตั้งแต่ 1 ต.ค.2568 เนื่องจากมีภารกิจอื่น

ทั้งนี้ PTTGC เกิดจากการควบบริษัทระหว่าง บริษัท ปตท. เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTCH และ บริษัท ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PTTAR โดยได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทขึ้นเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2554 เพื่อก้าวขึ้นเป็นแกนนำของธุรกิจเคมีภัณฑ์ (Chemical Flagship) ของกลุ่ม ปตท.

นั่งบอร์ด OR 

ขณะที่ "บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR" ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่นๆ (Non-Oil) ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในตลาดค้าปลีกและตลาดพาณิชย์ ธุรกิจกาแฟ ร้านอาหารและเครื่องดื่มอื่นๆ ร้านสะดวกซื้อ และการบริหารจัดการพื้นที่

OR แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯเช่นกันว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท นัดพิเศษ ครั้งที่ 6/2568 เมื่อวันที่ 15 ก.ย.2568 มีมติอนุมัติแต่งตั้ง ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการแทน นายชฎิล ชวนะลิขิกร กรรมการที่ลาออกไปก่อนหน้านี้

โดยให้การลาออกและการเข้าดำรงตำแหน่งใหม่ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2568 ทั้งนี้ วาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการใหม่ จะเท่ากับวาระที่ยังคงเหลืออยู่ของกรรมการที่เข้าดำรงตำแหน่งแทน

ในการนี้เป็นผลให้รายชื่อกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท เปลี่ยนแปลง มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 จาก “3. ชื่อและจำนวนกรรมการ ซึ่งมีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท คือ “(1) หม่อมหลวง ปีกทอง ทองใหญ่ลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัท หรือ (2) นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช นายชฎิล ชวนะลิขิกร นางสาวภัทรลดา สง่าแสง หรือ นายชญาน์ จันทวสุ กรรมการสองในสี่คนนี้ลงลายมือชื่อร่วมกันและประทับตราสำคัญของบริษัท”

เป็น “3.ชื่อและจำนวนกรรมการ ซึ่งมีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท คือ “(1) หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ ลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัท หรือ (2) นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช นางสาวภัทรลดา สง่าแสง หรือ นายชญาน์ จันทวสุ กรรมการสองในสามคนน้ีลงลายมือชื่อร่วมกันและประทับตราสำคัญของบริษัท”