โฟกัสหุ้นครึ่งปีหลัง! โหนกระแส Domestic Play เชียร์ 6 หุ้นน่าช้อป กำไรฟื้น
ภาษีนำเข้าสหรัฐฯ 19% บวกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชัดเจน นักลงทุนคลายกังวลส่งแรงหนุนหุ้น Domestic Play โดดเด่น ลิเบอเรเตอร์ เชียร์ "OSP - CPAXT - MAGURO - M - SGC - JMT" สตอรี่แน่น กำไรครึ่งปีหลังเร่งตัว สัญญาณผ่านจุดต่ำสุด
KEY
POINTS
- ภาษีนำเข้าสหรัฐฯ 19% บวกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชัดเจน
- นักลงทุนคลายกังวลส่งแรงหนุนหุ้น Domestic Play โดดเด่น
- ลิเบอเรเตอร์ เชียร์ "OSP - CPAXT - MAGURO - M - SGC - JMT" สตอรี่แน่น กำไรครึ่งปีหลังเร่งตัว สัญญาณผ่านจุดต่ำสุด
เดือนที่ผ่านมา บริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ได้เรียกประชุมนักวิเคราะห์เพื่ออธิบายผลประกอบการไตรมาส 2/2568 และแนวโน้มในช่วงที่เหลือของปี ซึ่งประเด็นส่วนใหญ่จะพูดถึงแนวโน้มหลังอัตราภาษีนำเข้าสหรัฐชัดเจนออกที่ 19%
ซึ่งโทนส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ผ่อนคลายความกังวลมากขึ้น และหลายบริษัทเริ่มแสดงออกให้เห็นถึงการผ่านจุดต่ำสุดได้แล้ว ส่งผลให้ นักวิเคราะห์ บล.ลิเบอเรเตอร์ มีมุมมอง "บวก" มากขึ้นถึง 22 หลักทรัพย์ คิดเป็น 44% โดยเฉพาะกลุ่ม Global play เช่น DELTA, HANA, KCE, ITC, IVL, PSL และ TU
ขณะที่ กลุ่ม Domestic Play ที่แนวโน้มครึ่งหลังปี2568 ผู้บริหารส่งสัญญาณกำไรกำลังเร่งตัวขึ้น เช่น SGC, PRTR, MAGURO, PIS, BCH, GPSC และ PRM
ส่วนกลุ่มหุ้นที่ได้มุมมอง "ลบ" มากขึ้น ส่วนใหญ่จะยังเป็นปัญหาของอุสาหกรรม เช่น STA, STGT, BEM, AH, Q-CON, NEO, AU, WICE, SNNP, BTG หรือส่วนตัว เช่น SPA
เดือนนี้มีประเด็นความชัดเจนการเมืองเข้ามาเสริมทำให้ Domestic play จะเด่นขึ้นไปอีก โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีก ซึ่งอาจได้แรงเสริมจากโครงการ "คนละครึ่ง" ที่คาดจะถูกปัดฝุ่นมาใช้
รวมถึงบางอุตสาหกรรมที่กำลังจะเข้าสู่ฤดูกาล เช่น โรงพยาบาล, ท่องเที่ยว, ร้านอาหาร
6 หุ้นน่าช้อป
ฝ่ายวิจัยชอบ "บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP" แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 23.25 บาท ถือเป็นหุ้นในกลุ่มเครื่องดื่มที่ชอบต่อ แม้ยอดขายอาจหดตัว แต่การควบคุมต้นทุนทำได้ดีทำให้อัตรากำไรขั้นต้นทำสถิติสูงสุดได้
ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดเริ่มเห็นการฟื้นตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าทำให้แนวโน้มการดำเนินงานไตรมาส 3/68 ยังโตได้จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (YoY) ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขาย P/E ปี 68 ที่ 13 เท่าไม่แพงหากเทียบกับกลุ่ม และผลตอบแทนเงินปันผล 6%ต่อปี ขณะที่แนวโน้มกำไรกลับมาเติบโตอีกครั้ง ทยอยสะสมได้
และ "บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT" ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 24 บาท คาดได้ประโยชน์ทางอ้อมในการกระตุ้นเศรษฐกิจ อีกทั้งแนวโน้มกำไรในช่วงครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวดีกว่าครึ่งปีแรก และดีกว่าที่ตลาดประเมินไว้
โดยแนวโน้มการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (Same Store Sales Growth หรือ SSSG) คาดในช่วงไตรมาส 2/68 ดีกว่าครึ่งแรกปี68 จากทิศทางการบริโภคที่คาดจะเริ่มฟื้นตัว และเข้าสู่ช่วง High Season โอกาสที่ภาครัฐฯจะนำมาตรการกระตุ้นการบริโภคมากช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงระยะสั้น คาดเป็นบวกต่อกลุ่มค้าปลีก
MAGURO ควงคู่ M กลับมาสวย
ส่วน "ร้านอาหาร" ชอบ "บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAGURO" แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 23.60 บาท แนวโน้มครึ่งปีหลังยังโตได้ด้วยรูปแบบเดิม MAGURO เพิ่มเป้าขยายสาขาปี 68 จากเดิม 13 สาขา เป็น 15 สาขา แม้ภาวะเศรษฐกิจยังไม่เห็นสัญญาณฟื้นตัว เนื่องจากยังมีฐานสาขาต่ำ และมีแผนเปิดแบรนด์ใหม่ต่อเนื่อง มองว่ากำไรของ MAGURO มีโอกาสขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้าได้ในครึ่งหลังปี68 จากการขยายสาขา
กำไรสุทธิคาดการณ์ครึ่งปีแรกคิดเป็น 45% ของประมาณการทั้งปี โดยมองว่ากำไรสุทธิจะเร่งตัวขึ้นได้ในครึ่งปีหลังปี68 จากจำนวนสาขาใหม่ตามแผนของบริษัท จึงคงประมาณการ
และ "บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ M" ไม่มีคำแนะนำ (N.R.) กับโมเมนตัมกำไรเร่งตัวขึ้น
SGC-JMT ยืนหนึ่งไฟแนนซ์
"กลุ่มไฟแนนซ์" ชอบ "บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC" แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 1.09 บาทเข้าฤดูขายมือถือ โดยกำไรครึ่งแรกปี68 คิดเป็น 38.8% ของประมาณการทั้งปี68 ขณะที่โมเมนตัมการขายมือถือคาดจะเร่งตัวขึ้นตลอดครึ่งปีหลังเชื่อว่าประมาณการกำไรปีนี้ 453 ล้านบาทมีความเป็นไปได้
มองว่า SGC ได้พิสูจน์โมเดลธุรกิจ Lock phone(LP) น่าพอใจแล้ว 5 ไตรมาส หุ้นจึงควรกลับขึ้นไปซื้อขายเท่าค่าเฉลี่ยกลุ่มได้ Rerate P/E เป้าหมายขึ้นจาก 14.3 เท่า เป็น 15.0 เท่าตามค่าเฉลี่ยกลุ่มไฟแนนซ์ ได้ราคาเหมาะสมใหม่ 1.09 บาทต่อหุ้น
"กำไรไตรมาส 2/68ทำได้น่าพอใจ พร้อมๆกับการบริหารหนี้ที่มีประสิทธิภาพ เรามองว่าฤดูขายมือถือจะช่วยเร่งโมเมนตัมกำไรให้ไต่ขึ้นไปหาประมาณการกำไรของเราได้ และจะเป็นการยืนยันการ Turnaround ธุรกิจ ตามที่เรามองไว้ นักลงทุนที่มีหุ้นอยู่แล้ว แนะถือต่อไปเพื่อรอการ Roll-over ราคาเหมาะสมไปปีหน้า เบื้องต้นคาดจะบวกลบ 1.54 บาท"
"บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT" แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 13.50 บาท ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยกำไรครึ่งปีแรก68 คิดเป็น 30.8% ของประมาณการเดิมจาก ECL ที่พุ่งเกินคาด
ฝ่ายวิจัยปรับสมมติฐาน ECL จาก 2.5% เป็น 4% ของพอร์ต และปรับส่วนแบ่งกำไร JK AMC ลงในลักษณะเดียวกัน กำไรปี68นี้จึงถูกปรับลง 22.6% เป็น 1.4 พันล้านบาท หดตัว -10.3% จากปีก่อน ขณะที่ P/E เป้าหมายปรับใช้ค่าเฉลี่ย 2ปี 13.6 เท่า
"แม้กำไรไตรมาส 2/68 จะผิดหวังจากการเข้มงวดตั้ง ECL แต่สัญญาณการตั้ง ECL ที่ลดลง ผสานกับการกลับมาซื้อหนี้ 263 ล้านบาท จากเป้า 2,000 ล้านบบาท คิดเป็นมูลหนี้เกือบ 2 หมื่นล้านบาทสะท้อนความเชื่อมั่นในการเริ่มกลับสู่เส้นทางปกติมากขึ้น ปัจจุบันหุ้นซื้อขายที่ P/Eปีนี้ 11.6 เท่า เรามองว่า downside จำกัด นักลงทุนระยะยาวเริ่มทยอยสะสมได้ หรือ อาจจะรอเห็น Cash collection ฟื้นตัวในไตรมาส 3 ก่อนค่อยเริ่มก็ได้"
ขณะที่ กลุ่ม Global play อาจไม่ได้อยู่ในโฟกัสของนักลงทุนนัก อีกทั้งกำลังเผชิญแรงกดดันเงินบาทแข็งค่า.
ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น OSP ปิดการซื้อขายเช้านี้ (8 ก.ย.68) อยู่ที่ 18.60 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท คิดเป็น +5.68% มูลค่าการซื้อขาย 288.96 ล้านบาท
หุ้น CPAXT ปิดที่ 21.90 บาท เพิ่มขึ้น 2.10 บาท คิดเป็น +10.61% มูลค่าการซื้อขาย 1,608.04 ล้านบาท
หุ้น MAGURO ปิดที่ 20.40 บาท ลดลง 0.10 บาท คิดเป็น -0.49% มูลค่าการซื้อขาย 3.48 ล้านบาท
หุ้น M ปิดที่ 25.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท คิดเป็น +2.82% มูลค่าการซื้อขาย 99.25 ล้านบาท
หุ้น SGC ปิดที่ 1.05 บาท เพิ่มขึ้น 0.07 บาท คิดเป็น +7.14% มูลค่าการซื้อขาย 63.12 ล้านบาท
หุ้น JMT ปิดที่ 12.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท คิดเป็น +4.92% มูลค่าการซื้อขาย 252.45 ล้านบาท


