ONEE ลุยทุกสมรภูมิ! ปั้นไอดอล เสิร์ฟละครดีซีรีย์ทำเงิน ดัน OneD ลุยตลาดโลก

ในสนามสื่อและบันเทิงที่ดุเดือด เจ้าพ่อเจ้าแม่สื่อยักษ์ใหญ่อย่าง "บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ONEE" ไม่ได้แค่ "อยู่รอด" แต่ต้อง "เร่งเกมปั้มเงินสุดกำลัง" เพราะศึกครานี้ ใครแพ้รอดยาก!

คำถามคือ ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ONEE จะงัดไม้ตายท่าไหนมาสู้ ละครฟอร์มแรง ซีรีส์บอยเลิฟ เกิล์ดเลิฟ อีเวนท์ หรือคอนเสิร์ตไอดอล ? 

"ONEE" มีรายได้ 3 ธุรกิจสร้างรายได้ผ่านช่องทางออฟไลน์-ออนไลน์ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ

1. Content Marketing เป็นธุรกิจการหารายได้จาก Content ที่ผลิตขึ้น โดยนำไปหารายได้ในช่องทางต่างๆ ทั้งจาก TV, Online, Copyright & Licensing, Radio
2. Idol Marketing เป็นรายได้ที่มาจากกิจกรรมต่างๆของศิลปินในสังกัด ซึ่งประกอบไปด้วย Artist Management, Concert & Event และ     Merchandising ซึ่งเป็นธุรกิจที่ตอบสนองความต้องการของฐานแฟนคลับของศิลปิน และมีแนวโน้มเติบโตอย่างชัดเจน
3. Production Business ประกอบด้วย Production Services และ Studio Rental ซึ่งเป็นธุรกิจที่ช่วยเติมเต็ม Ecosystem ให้กับกลุ่มบริษัทให้มีธุรกิจครบถ้วนตั้งแต่ ต้นน้ำ-ปลายน้ำ

"นรัญจ์ พุ่มศิริ" ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน ONEE ยอมรับว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง มีคอนเท้นท์น่าสนใจ ทั้ง ละครทายาทหมายเลข 1 ,ฆาตกรรมจำไม่ได้,ทวิญ ร่างฉันวิญญาณเธอ เป็นต้น ด้านซีรีย์วัยรุ่นในช่อง GMMTV มี 4 เรื่อง,

CHANGE2561 มี 2 เรื่องแนวคอมมาดี้และเกิลด์ เลิฟ, IDOL Marketing มี Domestic Concerts and Events 6 รายการ และ Internation Concerts and Events 4 รายการ อีก 4 Merchandising

"ครึ่งปีหลังคงเผชิญความไม่แน่นอน ทั้งสภาวะเศรษฐกิจและการเมืองที่ไม่แน่นอน เราก็พยายามปรับตัวให้สามารถทำกำไรได้ พร้อมพัฒนาซิสเต็มไอดอลมาร์เก็ตติ้งมากขึ้น เรามั่นใจว่าทั้งปีจะสามารถสร้างการเติบโตได้ ย้ำการเงินแกร่ง ลงทุนในแอพพลิเคชั่นหรือการลงทุนอื่นๆได้ เรามี IDOL Marketing ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ Mascot monetization ได้รับความนิยมต่อเนื่อง"

สิ่งที่บริษัทพยายามทำคือ มุ่งเน้น "ออนไลน์" อาทิ เซียนหรั่ง , ซานิเบาได้เบา เดินหน้าแอพพลิเคชั่น "OneD Apps", "เรดิโอ" แม้รายได้ลดลงตามสภาวะเศรษฐกิจ แต่ตอนนี้พยายามหาช่องทางใหม่ๆมากขึ้น

และ "IDOL Marketing" อย่าง อีเว้นท์, คอนเสิร์ต, Merchandising Business ต่อเนื่อง

ขณะที่ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) บริษัทมุ่งเน้นการบริหารค่าใช้จ่ายในการขายมากขึ้น เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน 

"สถานะทางการเงินค่อนข้างแข็งแกร่ง กระแสเงินสดเป็นบวก D/E ค่อนข้างต่ำ ปันผลต่อเนื่อง"

สิ่งที่มีผลกระทบมากที่สุดที่ทำให้กำไรลดลงนั้น ต้องเร่งแก้ไขอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin หรือ GPM) กลับมาดูต้นทุนการบริหารต่างๆให้เหมาะสมมากขึ้น แต่ไม่ลดคุณภาพคอนเทนท์ พร้อมหาไอดอลใหม่ๆเข้ามาเพิ่ม ขาย Merchandising มากขึ้น เดินทางไปออกงานที่ประเทศญี่ปุ่น หรือประเทศต่างๆเพิ่มขึ้นจะช่วยเสริมตัวอาติสเมเนจเมนท์ได้

IDOL Marketing วันนี้กระแสและการส่งเสริมซอฟท์พาวเวอร์ต่างๆเข้ามาช่วยหนุน และบริษัทสามารถขยายการเติบโตได้อีก

ขณะที่คอนเทนท์ มาร์เก็ตติ้งที่รายได้ลดลงนั้น บริษัทต้องลดต้นทุนและหาคอนเทนท์ที่ตรงใจกลุ่มลูกค้ามากขึ้น

ถามว่า ระยะเวลาการซื้อลิขสิทธิ์จากผู้เขียนนานแค่ไหน ?

การซื้อทุกอย่างถือว่าอยู่ตามเกณฑ์มาตรฐานทั่วไป

เครดิตภาษีซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ส่งผลอย่างไร ?

เบื้องต้นยังประเมินไม่ได้ เพราะเรื่องนี้อาจจะได้แค่ในต่างประเทศ ส่วนในไทยรัฐบาลเตรียมผลักดันเช่นกัน เพียงแต่ตอนนี้ยังมีความไม่แน่นอน

ประเมินธุรกิจโทรทัศน์มีโอกาสเติบโตหรือไม่ ?

ด้วยสภาวะเศรษฐกิจและการถูกดิสรัปต่างๆอาจจะไม่เติบโตดีมากนัก แต่หากถามว่ายังจำเป็นหรือไม่นั้น มองว่ายังจำเป็น แต่บริษัทพยายามหาคอนเทนท์ใหม่ๆเข้ามาเสริมเพิ่มขึ้น

การขายสิทธิ์รายการในช่องทางอื่นๆ อาทิ สตรีมมิ่ง ?

บริษัทขาย OTT (Over-the-Top) แพลตฟอร์มที่ให้บริการสื่อผ่านอินเทอร์เน็ตอย่างต่อเนื่อง ละครหรือซีรีย์ไทยยังเป็นที่ต้องการทั้งในวันนี้และอนาคต

อย่างไรก็ดี แนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าเติบโตใกล้เคียงไตรมาส 2/2568 ผลจากธุรกิจ IDOL Marketing เติบโตค่อนข้างดี และมีคอนเทน์น่าสนใจ อีเวนท์ใหญ่เข้ามาเสริมในช่วงครึ่งหลัง

ขณะที่ แอพพลิเคชั่นของบริษัทถือว่าจริงจัง เริ่มเห็นว่าการมีเอ็กซ์คลูซีพคอนเทนท์เข้ามาช่วยเพิ่มการซับสไครบ์มากขึ้นและอาจไม่เห็นเป็นตัวเงินระยะสั้น แต่อยากให้มองการเติบโตในอนาคต.