ดอกเบี้ยทั่วโลกส่อวูบ! หุ้นไทยไซด์เวย์ 1,250 - 1,280 จุดเน้นย่อสะสม
ลิเบอเรเตอร์คาดหุ้นไทยไซด์เวย์ 1,250 - 1,280 จุด ทรัมป์เก็บภาษีอินเดีย 50% ภาษีชิป&เซมิคอนดักเตอร์นอกสหรัฐฯ 100% กดดันกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ด้านเงินเฟ้อไทยต่ำและเศรษฐกิจฟื้นช้าเพิ่มโอกาส กนง.ลดดอกเบี้ยสัปดาห์หน้า แนะย่อสะสม
KEY
POINTS
- ลิเบอเรเตอร์คาดหุ้นไทยไซด์เวย์ 1,250 - 1,280 จุด ทรัมป์เก็บภาษีอินเดีย 50%
- ภาษีชิป&เซมิคอนดักเตอร์นอกสหรัฐฯ 100% กดดันกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์
- เงินเฟ้อไทยต่ำและเศรษฐกิจฟื้นช้าเพิ่มโอกาส กนง.ลดดอกเบี้ยสัปดาห์หน้า แนะย่อสะสม
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ประเด็นภาษีการค้าระหว่างประเทศยังไม่จบ โดยวานนี้ทรัมป์ระบุว่า “สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษี 100% สำหรับชิปและเซมิคอนดักเตอร์ที่นำเข้า” แต่ย้ำว่า “หากผลิตในสหรัฐฯ จะไม่ถูกเก็บภาษี” ซึ่งอาจเป็นแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ในเช้าวันนี้ได้
นอกจากนี้สหรัฐฯยังขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากอินเดียอีก 25% สู่ระดับ 50% เนื่องจากอินเดียยังซื้อน้ำมันจากรัสเซีย ส่วนด้านราคาน้ำมันดิบ Brent ล่าสุดยังลดเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน ปิดที่ 66.89 USD/Bbl
ส่วนดอกเบี้ยสหรัฐฯยังมีแนวโน้มลดลงในช่วงที่เหลือของปี จากหลายแรงสนับสนุน เช่น Mary Daly (San Francisco) ชี้ว่า Fed อาจต้องลดดอกเบี้ยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเพื่อสกัดความอ่อนแอในตลาดแรงงาน
Neel Kashkari (Minneapolis) กล่าวว่า สัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐฯชะลออาจทำให้เกิดการลดดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ ส่วนทางฝั่งอังกฤษ วันนี้จะมีการประชุม BOE เราคาดว่าจะมีมติปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ลงสู่ระดับ 4.0%
สำหรับไทย วานนี้กระทรวงพาณิชย์รายงานเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ก.ค. ที่ -0.70%y-y ลบ 4 เดือนติดต่อกัน และลบมากกว่าคาดที่ -0.40% สาเหตุหลักจากการลดลงของราคาพลังงาน, เนื้อหมู และผักสด โดยคาดเดือน ส.ค. ยังอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง ท่ามกลางเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวต่ำ ดังนั้นฝ่ายวิเคราะห์คาดจะหนุนโอกาสในการลดดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า
คาด SET วันนี้ “Sideways” ในกรอบ 1,250 - 1,280 จุด ทรัมป์เก็บภาษีอินเดีย 50% และภาษีชิป&เซมิคอนดักเตอร์นอก US 100% กดดันกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนประชุมธนาคารอังกฤษวันนี้คาดลดดอกเบี้ย 0.25% ส่วนเงินเฟ้อไทยยังต่ำและเศรษฐกิจฟื้นช้าเพิ่มโอกาส กนง.ลดดอกเบี้ยสัปดาห์หน้า กลยุทธ์ยังเน้นย่อสะสม
วันนี้แนะนำ “GPSC” ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 35.25 บาท รายงานกำไรไตรมาส 2/68 ที่ 2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 77% ไตรมาสก่อนหน้าและเพิ่มขึ้น 41% จากปีก่อน สูงกว่าตลาดคาด 20% และทำจุดสูงสุดในรอบ 15 ไตรมาส โดยได้แรงหนุนจากส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าต่างประเทศ และกำไร FX
คาดแนวโน้มไตรมาส 3/68 ยังมีโมเมนตัมที่ดี แรงหนุนจากต้นทุนก๊าซที่ปรับลดลงต่อเนื่อง และปริมาณขายไฟที่จะเพิ่มจากปัจจัยฤดูกาล


