SET แกว่งไซด์เวย์ กรอบ 1,220-1,255 จุด ฟันด์โฟลว์ยังไหลเข้า
SET แกว่งไซด์เวย์ กรอบ 1,220-1,255 จุด เหตุไทย-กัมพูชาคลี่คลายและความหวังเจรจาภาษีศุลกากรสหรัฐฯ มีข้อสรุปก่อนเส้นตาย 1 ส.ค.นี้ ฟันด์โฟลว์ยังไหลเข้า กลยุทธ์การลงทุน “Selective Buy” แนะนำ GLOBAL และ LHSC
บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า ตลาดแกว่งตัวไซด์เวย์/แกว่งขึ้น หลังสถานการณ์ไทย-กัมพูชาคลี่คลายและความคาดหวังว่าการเจรจาภาษีศุลกากรสหรัฐฯ จะมีข้อสรุปก่อนเส้นตาย 1 ส.ค.นี้ ขณะที่ Fund Flow ยังมีสัญญาณไหลเข้า นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิอีกที่ 3.3 พันล้านบาท แนวรับประเมินไว้ที่ 1225/1220 ส่วนแนวต้าน ประเมินไว้ที่ 1240/1255
ทั้งนี้ ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวไซด์เวย์ โดยประเมินการฟื้นตัวของ SET มายืนเหนือระดับ 1200 จุด ใกล้เป้าหมายที่ประเมินระดับ 1230-1250 จุด ซึ่ง สะท้อนความคาดหวังสหรัฐฯ จะเก็บภาษีจากไทยเท่ากับหรือต่ำกว่า 20% คาด SET เริ่มมี Upside จำกัดและอาจต้องระมัดระวังหากการเจรจาไม่ ประสบผลหรือเกิด Sell on Fact ได้หากจบดีลการค้าตามที่คาดหวังได้จริง
ส่วนความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชามองกระทบจำกัดต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย เพราะมีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจกันน้อยและไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยต่อหุ้นขนาดใหญ่ใน SET50/SET100
อย่างไรก็ดี หาก Fund Flow ยังไหลเข้า คาดมีโอกาสจะหนุนให้ในระยะถัดไป SET กลับไปชื้อขายที่ PER เฉลี่ยระยะยาวอีกครั้งที่ระดับ 16 เท่า หรือ 1376 จุด
ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ "Selective Buy" ใน 2 ธีมหลัก และ 3 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้น Earnings Play โมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดยไตรมาส 2/2568 คาดกำไรปกติจะ เติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ ขณะที่ไตรมาส 3/2568 คาดกำไรยังเติบโต YoY แนะนำ ADVANC BCH CBG CPALL SCCC
2. หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET50 ที่มี SET ESG Ratings A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลช่วงครึ่งแรกปี 2568 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ ADVANC BBL PTT
3. Trading Idea: สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้น Laggard Play ซึ่งคาดได้อานิสงส์หาก Fund Flow ไหลเข้าต่อเนื่อง โดยเลือกหุ้น SET50 ซึ่งราคาหุ้นปรับขึ้น MTD ต่ำกว่า SET และ Valuation ถูก โดย (PBV และ PER 2568F < -1SD) และพื้นฐานดี แนะนำ BDMS CPALL MINT MTC PTT 2) หุ้นที่คาดฟื้นตัวเร็วและเชื่อว่าการเจรจาจะทำให้สหรัฐฯ พิจารณาปรับลดภาษีไทยลงมาที่ระดับ 20% หรือต่ำกว่า จะช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นและทำให้ FDI กลับเข้าสู่ไทย แนะนำ AMATA GPSC WHA และ 3) หุ้นที่คาดฟื้นตัวเร็วและเชื่อว่าความขัดแย้งไทย-กัมพูชาจะคลี่คลายลงหรือยุติได้เร็ว แนะนำ AEONTS CBG
สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ GLOBAL ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากยอดขายสาขาเดิม (SSS) เดือน ก.ค. ที่ปรับตัวดีขึ้น ลดลงเพียง 3.5%YoY ถือว่าดีที่สุดตั้งแต่ต้นปีและฟื้นตัวดีที่สุดในกลุ่ม จากไตรมาสก่อน คาดว่า SSS ในครึ่งหลังปี 2568 จะยังดีขึ้นต่อจากฐานต่ำ ราคาหุ้นสะท้อนผลประกอบการไตรมาส 2/2568 ที่อ่อนแอไประดับหนึ่งแล้ว
LHSC ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากความคาดหวังที่ กนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 2 ครั้ง (ครั้งละ 25bps) ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ขณะเดียวกันคาดกำไรไตรมาส 2/2568 จะเติบโตเด่น 98.7%YoY และจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องในไตรมาส 3/2568 อีกทั้งยังปันผลสูง โดยคาดให้ Div. Yield ปีนี้สูงราว 9.6%


