posttoday

อสังหาฯ Q2/68 ดิ่งสุดรอบ 4 ปี! ลุ้นฟื้นครึ่งปีหลัง เปิดลิสต์หุ้นเด่นน่าจับตา

14 กรกฎาคม 2568

ยอดขาย-เปิดโครงการใหม่อสังหาฯไตรมาส 2/68 ร่วงต่ำสุดรอบ 4 ปี! โบรกชี้ "คอนโดฯ"หดตัวแรงเท่าช่วงโควิด-19 เหตุแผ่นดินไหว เสถียรภาพการเมือง เศรษฐกิจอ่อนแรงฉุดกำลังซื้อ ลุ้นเปิดโครงการใหม่ดันยอดครึ่งปีหลังฟื้น

KEY

POINTS

  • ยอดขายและเปิดโครงการใหม่อสังหาฯไตรมาส 2/68 ร่วงต่ำสุดรอบ 4 ปี!
  • โบรกชี้ "คอนโดฯ"หดตัวแรงเท่าช่วงโควิด-19 เหตุแผ่นดินไหว เสถียรภาพการเมือง เศรษฐกิจอ่อนแรงฉุดกำลังซื้อ
  • ลุ้นเปิดโครงการใหม่ดันยอดครึ่งปีหลังฟื้น

หุ้นอสังหาฯยังเหนื่อย! แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 2/2568 ยังเผชิญแรงกระแทกรอบด้าน ทั้ง หนี้สิน เศรษฐกิจ การเมือง ความเชื่อมั่นที่ดูทรงแล้วไม่ดีขึ้นจากหลายปีที่ผ่านมา หนำซ้ำยังเหมือนจะอาการหนักมากขึ้น

แต่...แสงสว่างปลายอุโมงค์ยังพอมีให้เห็นบ้าง แม้ความสว่างที่ว่านั้นจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับเกมการเมืองและเศรษฐกิจต้องชัดเจนและต้องติดตามต่อไป 

แม้ข่าวร้ายรุมเร้า แต่ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะหุ้นที่มีสตอรี่กลับบวกสวย

  • หุ้น "บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP" ปิดการซื้อขายวันที่ 14 ก.ค.68 อยู่ที่ 6.65 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท คิดเป็น +1.53% มูลค่าการซื้อขาย 29.01 ล้านบาท
  • หุ้น "บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI" ปิดที่ 1.36 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท คิดเป็น +3.03% มูลค่าการซื้อขาย 41.20 ล้านบาท
  • หุ้น "บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI" ปิดที่ 15 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท คิดเป็น +0.67% มูลค่าการซื้อขาย 109.45 ล้านบาท
  • หุ้น "บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC" ปิดที่ 1.64 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท คิดเป็น +3.14% มูลค่าการซื้อขาย 9.04 ล้านบาท
  • หุ้น "บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI" ปิดที่ 1.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท คิดเป็น +4.52% มูลค่าการซื้อขาย 9.56 ล้านบาท
  • หุ้น "บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH" ปิดที่ 3.66 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท คิดเป็น +2.23% มูลค่าการซื้อขาย 91.57 ล้านบาท
  • หุ้น "บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN" ปิดที่ 0.40 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ประเมินยอดขาย (Presale) ของผู้พัฒนาอสังหาฯ ในตลาด 14 บริษัทงวดไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 5.24 หมื่นล้านบาทต่ำสุดในรอบ 18 ไตรมาส และน่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้ โดยลดลง 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และ 27% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) จากหลายปัจจัยกดดัน 

  1. ผลกระทบวันหยุดยาวที่เกิดขึ้นเป็นปกติในไตรมาส 2 ของทุกปี
  2. เหตุแผ่นดินไหวตั้งแต่ปลาย มี.ค.ที่ผ่านมากระทบต่อดีมานด์คอนโดฯหดตัวหนัก
  3. ความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลก/ไทย จากการปรับขึ้นกำแพงภาษีสหรัฐต้น เม.ย. 
  4. ความสั่นคลอนของเสถียรภาพการเมืองไทยช่วงครึ่งหลังของเดือน มิ.ย.ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของลูกค้า ทำให้เกิดการชะลอตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย
  5. การเปิดโครงการใหม่น้อยลง จำนวน 24 โครงการมูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาท ต่ำสุดในรอบ 4 ปี เทียบกับไตรมาส 2/67 เปิดรวม 70 โครงการ มูลค่า 9.5 หมื่นล้านบาท และ ไตรมาส 1/68 เปิด 38 โครงการ มูลค่า 5.85 หมื่นล้านบาท ทั้งหมดล้วนส่งผลต่อยอดขายทั้งคอนโดฯและแนวราบ

"กลุ่มคอนโดฯ" คาดยอดขาย 1.76 หมื่นล้านบาท สัดส่วน 34% ของยอดขายรวม หดตัว 53% yoy และ 54% qoq ในอัตรามากกว่าแนวราบ และยอดขายต่ำเหมือนช่วงโควิด-19 ปี 2563 เกิดจากดีมานด์หดตัว หลังเกิดแผ่นดินไหวทำให้ผู้ประกอบการเลี่ยงเปิดโครงการ

ส่งผลให้ คอนโดฯใหม่ที่เปิดในไตรมาส 2/68 มี 3 โครงการ มูลค่า 3.4 พันล้านบาท น้อยสุดในรอบ 5 ปี จากไตรมาส 2/63 ที่เป็นช่วงโควิด ไม่มีเปิดคอนโดฯใหม่ และลดลงจากมูลค่าเฉลี่ย 3.2 หมื่นล้านบาทช่วงไตรมาส 2/67 และ ไตรมาส 1/68 มาจาก "PSH" เปิด Chapter Riverside แบบ High Rise มูลค่า 1.27 พันล้าน มียอดขายจากต่างชาติ 15% 

อีก 2 โครงการเป็น Low Rise ของ "SPALI"  คือ Supalai แจ้งวัฒนะ-หลักสี่ มูลค่า 700 ล้านบาท มียอดขายเปิดตัวปลาย มิ.ย. 30% และ "SENA" เปิด Cozi คู้บอน มูลค่า 1.43 พันล้านบาท ปลาย มิ.ย. ขายเฉลี่ย 6%

"กลุ่มแนวราบฯ" คาดยอดขาย 3.5 หมื่นล้านบาท สัดส่วน 66% ของยอดขายรวม เพิ่มขึ้น 5% qoq จากเปิดโครงการแนวราบใหม่ 21 โครงการ มูลค่า 3.13 หมื่นล้านบาท เพิ่มจาก 2.6 หมื่นล้านบาทงวดก่อน แต่ในเชิง yoy ยอดขายลดลง 7% เนื่องจากภาพรวมตลาดยังเผชิญกับปัจจัยท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัว, การเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของแบงค์ และการถูกปฏิเสธสินเชื่อระดับสูง ในบ้านระดับกลาง-ล่าง

ขณะที่ "บ้านระดับบน" เจอกับการแข่งขันสูง และความกังวลต่อเศรษฐกิจและการลงทุนในตลาดหุ้น ทำให้ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย บวกกับการเปิดโครงการแนวราบใหม่น้อยลง เทียบกับไตรมาส 2/67 เปิด 51 โครงการ มูลค่า 6.3 หมื่นล้านบาท

อสังหาฯ Q2/68 ดิ่งสุดรอบ 4 ปี! ลุ้นฟื้นครึ่งปีหลัง เปิดลิสต์หุ้นเด่นน่าจับตา

Presale เกือบทุกบริษัทหดตัวทั้ง yoy และ qoq โดยกลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักกว่ากลุ่มอื่น คือกลุ่มที่มีพอร์ตคอนโดฯเป็นหลักในเขตกรุงเทพ และ High Rise เช่น ORI, ANAN และ NOBLE ตามด้วยกลุ่มที่มีพอร์ตผสม อย่าง AP, SIRI และ SPALI

สวนทางกับกลุ่มที่มีพอร์ตหลักเป็นแนวราบ อย่าง "SC" เป็นรายเดียวที่มียอดขายเพิ่ม 0.4% yoy และ 46% qoq จากเปิดแนวราบใหม่มากขึ้น และใช้กลยุทธ์เข้าหาลูกค้า ผ่านการจัด EVENT เพื่อดีงยอดขาย

เช่นเดียวกับ "LH" สามารถสร้างยอดขายเพิ่ม 9% qoq จากเปิดแนวราบเพิ่ม คือ Vive กรุงเทพกรีฑา และได้รับการตอบรับที่ดี ถึงแม้ยอดขายจะลดลง 7% yoy แต่ถือเป็นอัตราที่หดตัวต่ำกว่ากลุ่มฯ และผู้ประกอบการรายอื่น

อสังหาฯ Q2/68 ดิ่งสุดรอบ 4 ปี! ลุ้นฟื้นครึ่งปีหลัง เปิดลิสต์หุ้นเด่นน่าจับตา

พรีเซลครึ่งปีแรกทำได้ 38% เป้าบริษัท 43%ของฝ่ายวิจัยทั้งปี

ยอดพรีเซลในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 คาดอยู่ที่ 1.24 แสนล้านบาท ลดลง 15% yoy และคิดเป็นสัดส่วน 38% ของเป้าบริษัททั้งปีรวมกันที่ 3.22 แสนล้านบาท และสัดส่วน 43% ของฝ่ายวิจัยคาดทั้งปีที่ 2.87 แสนล้านบาท โดยยอดขายคอนโดฯ สัดส่วน 45% หดตัว 24% yoy มากกว่าการลดลงของยอดขายแนวราบ สัดส่วน 55% ในระดับ 7% yoy ภายใต้มูลค่าเปิดโครงการใหม่รวม 62 โครงการ มูลค่า 9.3 หมื่นล้านบาท งวดครึ่งแรกปี 2567 เปิดรวม 1.7 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 29% ของทั้งปีที่คาดเปิดรวม 3.19 แสนล้านบาท 

หากอิงตามแผนเปิดโครงการใหม่ทั้งปี 2568 พบว่า ในช่วงครึ่งหลังปี68 จะเห็นการเปิดโครงการใหม่มากถึง 140 โครงการ มูลค่า 2.26 แสนล้านบาท เป็นคอนโดฯ เกือบ 1 แสนล้านบาท ซึ่งคงต้องติดตามว่าผู้ประกอบการจะสามารถเปิดได้ทั้งหมดตาแผนหรือไม่

ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าหลังประกาศไตรมาส 2/68 มีโอกาสเห็นการปรับลดแผนเปิดโครงการใหม่ เนื่องจากอาจเลื่อนเปิดบางโครงการออกไปก่อน โดยเฉพาะคอนโดฯเพื่อรอดูสถานการณ์กำลังซื้ออีกครั้ง

แม้มีการปรับลดโครงการใหม่ แต่คาดว่าช่วงครึ่งหลังปี68 ยังคงเห็นการเปิดมากขึ้นจากครึ่งแรกปี68 และจะเป็นปัจจัยผลักดันยอดขายฟื้นตัวขึ้นรายไตรมาส 3/68 และต่อเนื่องไตรมาส 4/68

เมื่อพิจารณายอดขายในช่วงครึ่งแรกปี68 รายบริษัท เกือบทุกรายมียอดขายหดตัวจากครึ่งแรกปี67 ยกเว้น "SIRI" เพิ่มขึ้น 4% yoy และ "ASW" เพิ่มขึ้น 21% yoyสามารถสร้างยอดขายเติบโตจากช่วงครึ่งแรกปี67 เหตุหลักมาจากจากเปิดโครงการใหม่จำนวนมาก โดยเฉพาะคอนโดฯเมื่อช่วงไตรมาส 1/68 เฉลี่ยมูลค่าสูง 1 หมื่นล้านบาทต่อบริษัท และได้รับการตอบรับที่ดีสำหรับโครงการเปิดใหม่ที่ภูเก็ตของ ASW และพัทยา สำหรับ SIRI ทำให้ยอดขายคอนโดฯ ไตรมาส 1 ของทั้ง 2 บริษัทสูงมากพอที่จะช่วยลดผลกระทบจากการอ่อนตัวของยอดขายในไตรมาส 2/68

หากเทียบกับเป้าหมายทั้งปีฝ่ายวิจัย พบว่าบริษัทส่วนใหญ่มีสัดส่วนมากกว่า 40% ของเป้าทั้งปี มีเพียง SENA, PSH, ANAN, NOBLE สัดส่วนยอดขายต่ำกว่า 40% ทำให้เพิ่ม Downside Risk ต่อเป้าทั้งปี แม้ช่วงครึ่งหลังปี68 จะมีโอกาสเร่งตัวขึ้นตามแผนเปิดโครงการใหม่ที่จะมากขึ้นก็ตาม

กำไร Q2/68 ฟื้น QoQ แต่ลด YoY

แม้ยอดขายโดยรวมในไตรมาส 2/68 อ่อนแอ แต่การมี Backlog รอส่งมอบของกลุ่มแนวราบสิ้นไตรมาส 1/68 ราว 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่รับรู้รายได้ในไตรมาสถัดไป บวกกับยอดขายแนวราบใหม่ในไตรมาส 2/68 ที่บางส่วนสามารถโอนกรรมสิทธิ์ทันในไตรมาสเดียวกัน

ตลอดจนการส่งมอบคอนโดฯ ใหม่ทั้งภายใต้บริษัทเอง และ JV ของผู้ประกอบการหลายรายที่มีมากขึ้นจากงวดก่อน คาดหนุนกำไรปกติกลุ่มฯในไตรมาส 2/68 ฟื้นตัวจากฐานต่ำในไตรมาส 1/68 ที่ 3.4 พันล้านบาท แต่ยังลดลงจากไตรมาส 2/67 ที่มีกำไร 7.3 พันล้านบาท ตามการอ่อนตัวของยอดขาย

หากพิจารณาการดำเนินงานรายบริษัท คาดส่วนใหญ่เป็นไปในทิศทางเดียวกับกลุ่มฯ คือกำไรปกติดีขึ้น QoQ แต่ลดลง YoY ยกเว้น "SC" คาดกำไรปกติมีโอกาสเติบโตทั้ง qoq และ yoy ตามยอดโอนฯที่สูงขึ้น หนุนจากการส่งมอบต่อเนื่องของ Backlog แนวราบที่มีจำนวนมาก และยอดขายแนวราบใหม่ในไตรมาส 2/68 ที่โดดเด่น

ส่วน "ANAN" มองว่าผลประกอบการดีขึ้นในลักษณะขาดทุนลดลงจากงวดก่อน และงวดปีก่อน หลังเริ่มโอนกรรมสิทธิ์คอนโดฯใหม่ Ideo รามคำแหง-ลำสาลี (JV) เข้ามาช่วยหนุน

"LH" แม้กำไรปกติคาดลดลง yoy แต่เมื่อรวมกับกำไรพิเศษจากการขาย Service Apartment สหรัฐ 2 แห่งรวม 700 ล้านบาท (ก่อนภาษี) คาดหนุนกำไรสุทธิเติบโต yoy 

ราคาลงลึก จน PER ต่ำ และ Div Yield น่าดึงดูด

แม้ภาพรวมกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัยจะยังเผชิญกับแรงกดดันจากปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาค กดดันต่อกำลังซื้อ แต่ด้วยการดำเนินงานในไตรมาส 2/68 คาดฟื้นตัวจากฐานต่ำ QoQ และโดยปกติแนวโน้ม "ครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก" ทั้งในเชิงยอดขาย ยอดโอนฯ และกำไร ตามแผนเปิดโครงการใหม่ และส่งมอบคอนโดฯใหม่ที่จะมีมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง

บวกกับราคาหุ้นในกลุ่มฯตั้งแต่ต้นปี (YTD) และนับจากเหตุแผ่นดินไหว ปรับลงแรงมากกว่าภาวะตลาด จนทำให้ราคาหุ้นถือว่า Deep Value และ หลายบริษัท PER ซื้อขายในกรอบ 4-7 เท่า รวมถึงให้ Div Yield เกินกว่า 6-7% โดยเกือบทุกบริษัทมีการจ่ายเงินปันผลระหว่างสำหรับครึ่งแรกปี68 หลังประกาศงบไตรมาส 2/68 คาดให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 2-3% ขึ้นไป 

ฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มคำแนะนำเป็นเท่าตลาด สำหรับกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัย ให้สอดคล้องกับก่อนหน้านี้ที่มีการปรับเพิ่มคำแนะนำหุ้นรายตัวในกลุ่มฯ เป็น Neutral สำหรับ AP, SIRI, SPALI และ SC

ระยะสั้นมอง "SC" น่าสนใจด้วยทิศทางกำไรปกติในไตรมาส 2/68 จะดีขึ้น qoq และ yoy, "SIRI" เด่นด้วยปันผลครึ่งแรกของปี 68 ที่ 3-4%, "AP" มี PER ซื้อขายต่ำเพียง 4 เท่า และกำไรจะเด่นในไตรมาส 3/68 ส่วน SPALI มีโครงการซื้อหุ้นคืนช่วยจำกัด Downside ของราคาหุ้น

สำหรับ "ORI" และ "LH" คงแนะนำ Underperform พร้อมปรับลดราคาเป้าหมายปี 2568 ตามหุ้นตัวอื่นที่มีการปรับลด PER จากเดิม 8 เท่า เป็น 7 เท่าในการประเมิน Valuation ของ ORI มาอยู่ที่ 2.27 บาท เดิม 2.60 บาท และ LH จากเดิม 5 บาท เป็น 4.28 บาท อิง SOTP

โดยปรับลด PER ในธุรกิจหลัก เนื่องจากมองพอร์ตหลักของ ORI เป็นคอนโดฯ และการฟื้นตัวของคอนโดฯ สู่ระดับปกติ หลังเหตุแผ่นดินไหว ยังต้องใช้เวลา คาดอย่างเร็วในไตรมาส 4/68 รวมถึงยังต้องติดตามประเด็นเรื่องสภาพคล่อง และแผนชำระคืนหุ้นกู้ในเดือน ก.ย. ราว 2 พันล้านบาท

ส่วน "LH" แม้กำไรสุทธิในไตรมาส 2/68 มีแรงหนุนจากการขายสินทรัพย์ แต่หากมองไปถึงในไตรมาส 3/68 ยังต้องติดตามสถานการณ์การขายเนื่องจากพอร์ตหลักเป็นแนวราบ และมี Backlog น้อย ทำให้การโอนต้องขึ้นอยู่กับยอดขายใหม่

นอกจากนี้เงินปันผลในช่วงครึ่งแรกปี68 คาดประกาศช้ากว่าบริษัทอื่นที่จะเกิดขึ้นหลังงบไตรมาส 2/68 โดย LH จะเกิดขึ้นหลังประชุมคณะกรรมการบริษัทในเดือน ก.ย. และจ่ายเดือน ต.ค.68

ที่มา : สายงานวิจัย บล. เอเซีย พลัส

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์ชู 3 แกนพัฒนาคน รับรางวัล HR Leader for Social Impact 2025