การเมืองร้อนแรง ฉุดตลาดหุ้นไทยดิ่งมากสุดเป็นอันดับ 1 ของโลก
การเมืองร้อนแรง ฉุดตลาดหุ้นไทย ช่วง 1 เดือน วอลุ่มเหลือ 2-3 หมื่นล้านบาท/วัน ปรับลดลง 6.8% มากที่สุดในโลก กดดันต้นปี 68-ปัจจุบัน ปรับลดลง 19.4% มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก
ตลาดหุ้นทั่วโลก ได้รับผลกระทบจากนโยบายกำแพงภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นอกจากนี้ ยังได้รับผลกระทบจากสงครามแถบตะวันออกกลาง ระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน
ขณะที่ตลาดหุ้นไทย นอกจากจะได้รับผลกระทบจาก 2 ปัจจัยดังกล่าวแล้ว ยังถูกซ้ำเติมจากปัจจัยเฉพาะตัวภายในประเทศ อย่าง “ปัจจัยทางการเมือง” อีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็น วานนี้ (12 มิ.ย.2568) กรณีแพทยสภา มีมติเกิน 2 ใน 3 ยืนตามเดิม “ลงโทษแพทย์ 3 คน เกี่ยวกับรักษาทักษิณ ชั้น 14 รพ.ตำรวจ หลังก่อนนี้ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” สภานายกแพทยสภาวีโต้ ทำให้เพิ่มแรงกดดันทางการเมือง
ขณะเดียวัน ในวันนี้ (13 มิ.ย.2568) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดไต่สวนคดีทักษิณ ชั้น 14 โดยมีคำสั่งเรียกพยานเพิ่มเติมจำนวน 20 ปาก เพื่อเข้าให้การในวันที่ 4, 8 และ 15 ก.ค.2568 ขณะที่อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายทักษิณ ชินวัตร จำเลยในคดี ได้รับอนุญาตจากศาลให้ขยายระยะเวลาการยื่นคำชี้แจงออกไป โดยอธิบดีกรมราชทัณฑ์จะยื่นภายในวันที่ 20 มิ.ย.2568 และนายทักษิณ ภายในวันที่ 23 มิ.ย.2568
นอกจากนี้ วันพรุ่งนี้ (14 มิ.ย.2568) การประชุม JBC ไทย-กัมพูชา เจรจาแก้ปัญหาพื้นที่ซับซ้อน ล่าสุดนายกฯ กัมพูชาประกาศยุติการซื้ออินเทอร์เน็ตและไฟฟ้าจากไทย รวมถึงงดออกอากาศภาพยนตร์ไทย
จากนั้นในวันที่ 15 มิ.ย.2568 คดีฮั้ว ส.ว. ถูกยกระดับ
รวมไปถึงกระแสการปรับ ครม. ของพรรคร่วมรัฐบาล ในเดือน มิ.ย.2568 ที่จะมีการปรับให้ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เป็น รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ล่าสุด “อนุทิน ชาญวีรกูล” ระบุหากพ้นจากตำแหน่งจริงก็พร้อมจะเป็นฝ่ายค้าน
บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ประเด็นในประเทศที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ซึ่งตลาดหุ้นไทยมีความอ่อนไหวต่อข่าวการเมืองอยู่แล้วตามสถิติในอดีต อาจทำให้เกิดความผันผวนระยะสั้น จากการขาดความเชื่อมั่นของนักลงทุน กดดัน VOLUME หายอย่างมีนัยฯ และอาจกินระยะเวลาหากมีการชุมนุมหรือความเคลื่อนไหวทางการเมืองนอกสภาตามมา
โดยตลอด 1 เดือน ความไม่แน่นอนเรื่องการเมืองไทย เป็นส่วนสำคัญกดดันให้มูลค่าซื้อขายเบาบางในช่วงนี้เหลือ 20,000-30,000 ล้านบาทต่อวัน พร้อมกับดันให้ SETINDEX ในช่วง 1 เดือน ปรับตัวลดลง -6.8% มากที่สุดในโลก กดดันให้ปีนี้ SET INDEX ตั้งแต่ต้นปี 2568-ปัจจุบัน ปรับตัวลดลง -19.4%YTD มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก
อย่างไรก็ตาม ประเด็นสงครามแถบตะวันออกกลางเข้ามากดดันให้ตลาดหุ้นโลกผันผวน หนุนราคาน้ำมันพุ่ง แต่หากสถานะการยืดเยื้ออาจเห็น FUND FLOW มีโอกาสเคลื่อนย้ายเข้ามาตลาดหุ้นไทยมากขึ้น เพราะตลาดหุ้นไทยมีสัดส่วนหุ้นพลังงานสูงราว 22% (SECTOR ENERG + PETRO) ขณะที่หุ้นโลกมีสัดส่วนหุ้นพลังงานเพียง 3.58% แนะนำ TRADING หุ้นน้ำมัน PTT, PTTEP, TOP, BCP
