posttoday

BCP หุ้นโรงกลั่นดีที่สุด 3โบรกส่องกำไรไตรมาส 1/68 พุ่ง 126 เท่า

25 เมษายน 2568

สามโบรกสแกนงบไตรมาส 1/2568 "บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP)" กำไรฟื้นจากฐานต่ำ "ธุรกิจโรงกลั่น-การตลาด-ทรัพยากร"สวย เคาะราคาเป้าหมายสูงสุด 43 บาท และต่ำสุด 38 บาท

KEY

POINTS

  • สามโบรกสแกนงบไตรมาส 1/2568 "บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP)" กำไรฟื้นจากฐานต่ำ "ธุรกิจโรงกลั่น-การตลาด-ทรัพยากร"สวย
  • เคาะราคาเป้าหมายสูงสุด 43 บาท และต่ำสุด 38 บาท

ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น "บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP" ปิดการซื้อขายในช่วงเช้าวันนี้(25 เม.ย.68) ที่ 34.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท คิดเป็น +1.46% มูลค่าการซื้อขาย 110.46 ล้านบาท ราคาขึ้นสูงสุด 35 บาท และลดลงต่ำสุด 34 บาท

สิ่งที่น่าติดตาม คือ การประกาศงบไตรมาส 1/2568 ของ BCP นั้นจะเติบโตได้มากน้อยแค่ไหน ?

ตลอดทั้งปี 2568 ทุกธุรกิจจะขยายตัวได้ดีหรือไม่ ? ท่ามกลางภาวะสงครามเศรษฐกิจโลก ความผันผวนราคาน้ำมัน หรือแม้แต่ความอลหม่านในองค์กร จนกระทั่งการเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่!!

Q1 กำไรฟื้นจากฐานต่ำ

นางสาวนารี อภิเศวตกานต์ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอเรเตอร์ คาดการณ์ไตรมาส 1/68 ของ "บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP)" กำไรฟื้นจากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) จากธุรกิจโรงกลั่น, การตลาดและทรัพยากร แม้ส่วนอื่นๆหดตัวก็ตาม 

โดย "โรงกลั่น" กำลังการกลั่นรวมอยู่ที่ 268.5 พันบาร์เรล/วัน จาก 271.8 พันบาร์เรล/วัน จากการใช้กำลังการผลิตทั้งที่พระโขนง และศรีราชาลดลง ขณะที่ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปส่วนใหญ่หดตัวโดยเฉพาะแก๊สโซลีน และ LSFO ส่งผลให้ GRM ที่ศรีราชาหดตัวเหลือ 3 เหรียญจาก 4.6 เหรียญ/บาร์เรล เนื่องจากศรีราชามีสัดส่วนการผลิต Gasoline 31% โดยส่วนต่างราคาน้ำมันแก๊สโซลีนนั้นหดตัว -3.68 เหรียญ/บาร์เรล ลดลงมากสุดในกลุ่ม 

ขณะที่โรงกลั่นพระโขนงดีขึ้นเล็กน้อยจากราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ลดลงมากกว่าดูไบ ทำให้ต้นทุนต่ำกว่าส่งผลให้ GRM พระโขนงจึงเพิ่มเป็น 5.6 เหรียญจาก 5 เหรียญ/บาร์เรล

"ธุรกิจการตลาด" ปริมาณขายน้ำมันสำเร็จรูปลดลง -2% QoQ ที่ 3,498 ล้านลิตร เป็นการหดตัวจากการขายในกลุ่มอุตสาหกรรมที่หดตัว -5% QoQ โดยเฉพาะกลุ่มดีเซล แต่หากน้ำมันเครื่องบินยังดีขึ้น ส่วนค้าปลีกทรงตัว QoQ แต่ในส่วนค่าการตลาดคาดลดลงเล็กน้อยที่ 0.85 บาท จาก 0.87 บาท/ลิตร

"ธุรกิจไฟฟ้า" คาดหดตัว QoQ ตามปริมาณขายไฟลดลงจากปัจจัยฤดูกาลจากโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำใน สปป.ลาว เช่นเดียวกับการดำเนินงานในสหรัฐคาดสหรัฐลดลงจากการปิดซ่อมบำรุงเดือน มี.ค. แม้ว่าการดำเนินงานจากโรงไฟฟ้าในไทยดีขึ้นตามความเข้มแสงเพิ่มขึ้น และโรงไฟฟ้าพลังงานลมในฟิลิปปินส์และไทยตามปัจจัยฤดูกาล แต่คาดไม่สามารถชดเชยได้ 

"ธุรกิจชีวภาพ" คาดปริมาณขายเอทานอลหดตัว -18% QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล ราคาขายหดตัว -22% QoQ ตามราคาวัตถุดิบทั้งกากน้ำตาล และมันสำปะหลังลดลง ส่วนไบโอดีเซลปริมาณขาย ลดลง 16% QoQ จากปรับลดการผสมไบโอดีเซลจาก B7 เป็น B5 ตั้งแต่ 21 พ.ย.67 แต่ราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 6% QoQ

"ทรัพยากรธรรมชาติ" ปริมาณขายเพิ่มเป็น 39.1 พันบาร์เรล/วัน จาก 29.2 พันบาร์เรล/วัน เนื่องจากไตรมาส 4/67 ขายต่ำกว่ากำลังการผลิต อีกทั้งราคาขายเฉลี่ยน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็น 75.4 เหรียญ/บาร์เรล ราคาแก๊สเพิ่มเป็น 84.4 เหรียญ/บาร์เรล แม้ไตรมาสนี้จะมีรายการพิเศษจากรับรู้ด้อยค่าจากแนวโน้มราคาน้ำมันที่ลดลงคาดอยู่ที่ 5-7 เหรียญ/บาร์เรล แต่จากปริมาณและราคาขายที่ดีขึ้น QoQ ทำให้ชดเชยปัจจัยลบที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด

รายการพิเศษ รวมทั้งสิ้น 810 ล้านบาท ขาดทุนสต็อกและกำไรจากการป้องกันความเสี่ยง 400 ล้านบาท กำไรอัตราแลกเปลี่ยน 600 ล้านบาท และตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ ลดลง 190 ล้านบาท ทำให้คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/68 จะอยู่ที่ 2,051 ล้านบาท ฟื้นตัวจากไตรมาส 4/67 ที่มีกำไรเพียง 17 ล้านบาท 

“BCP เป็นหุ้นกลุ่มพลังงานอีกตัวที่แนวโน้มการดำเนินงานไตรมาส 1/68 ยังเติบโตได้ดีโดยเฉพาะกลุ่มทรัพยากรทั้งจากปริมาณ และราคาขายที่ยังดี ขณะที่แนวโน้มการดำเนินงานปีนี้คาดกลับมาฟื้นตัวจาก Synergy จากการรวมกันระหว่าง BCP และ BSRC อีกทั้งคาดจะเห็นการทำ M&A เพิ่มในปีนี้ตามเป้าหมายที่ BCP ตั้งเป้าไว้ กลยุทธ์การลงทุนคงแนะนำซื้อเก็งกำไรตามการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน และ GRM รวมถึงแนวโน้มงบที่ดี แนะนำถือ ราคาเป้าหมาย 38 บาท”

โรงกลั่นเด่นที่สุดของไทย

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส คาดมีกำไรสุทธิงวดไตรมาส 1/68 เท่ากับ 2.17 พันล้านบาท ลดลง 11% จากช่วงเดียวกันของปีปีก่อนหน้า (YoY) แต่เพิ่มขึ้น 126 เท่า จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) หนุนจากมีกำไรสต๊อกราว 400 ล้านบาท เทียบกับขาดทุน 2.25 พันล้านบาทในไตรมาส 4/67 บวกค่าใช้จ่ายดำเนินงานกลับสู่ระดับปกติ และผลประกอบการธุรกิจต้นน้ำดีขึ้น รวมถึงมีกำไรอัตราแลกเปลี่ยน 500 ล้านบาท 

อย่างไรก็ตาม กำไรหลักถูกชดเชยด้วยค่าการกลั่น GRM ที่ลดลงเป็น 4.5 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 26% YoY,ลดลง 6% QoQ และปริมาณขายที่ลดลง QoQ ด้าน EBITDA รวมคาดไว้ที่ 10.9 พันล้นบาท ลดลง 24% YoY,เพิ่มขึ้น 62% QoQ

แนวโน้มไตรมาส 2/68 ค่าการกลั่นมีแนวโน้มอ่อนลงผลจากความต้องการซื้อจากจีนและยุโรปลดลง, มีกำลังการผลิตจากโรงกลั่นใหม่เข้ามาเพิ่มอีกราว 1.4 ล้านบาร์เรล/วัน โดยหลักมาจากจีน และผลกระทบจากสงครามการค้า

คงคำแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 43 บาท อิงกับ P/BV ปีนี้ที่ 0.7 เท่าในธุรกิจโรงกลั่นฝ่ายวิจัยฯ DBSVTH ชอบ BCP มากที่สุด เนื่องจาก BCP มีฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง และมีส่วนเผื่อความปลอดภัย (margin of safety)ที่สูง, ไม่มีการดำเนินธุรกิจปิโตรเคมี ซึ่งแนวโน้มยังคงเป็นลบ , ค่า P/BV อยู่ที่ 0.7 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 0.8 เท่า และมีความเสี่ยงจากการควบคุมราคาพลังงานภายในประเทศน้อยกว่าบริษัทในกลุ่มเดียวกัน

กำไรฟื้น Stock loss ลด

นักวิเคราะห์ บล.ทรีนีตี้ คาด BCP จะรายงานกําไรไตรมาส 1/68 ที่ 1.9 พันล้านบาท ลดลง 23% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน(YoY) แต่ปรับดีขึ้นจากไตรมาส 4/67 ที่มีกําไร 17 ล้านบาท ซึ่งปรับลดลง YoY จาก GRM ที่ปรับตัวลง ธุรกิจการตลาด รวมถึงโรงไฟฟ้า และ OKEA

ขณะที่ปรับดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า(QoQ)จากไตรมาส 4/67 บริษัทมีผลขาดทุน Stock loss ค่อนข้างมาก ขณะที่ไตรมาสนี้มีผลของ Stock loss ไม่มาก แต่มี Fx และ Hedging Gain สําหรับ Core Profit คาดจะอยู่ราว 1.2 พันล้านบาท ลดลง 70% YoY และลดลง 29% QoQ กําลังการผลิตเฉลี่ยลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนที่ 271.8 KBD มาเป็น 268.5 KBD

1) ปริมาณเข้ากลั่นจะอยู่ที่ 270 KBD เพิ่มขึ้น 13% YoY, เพิ่มขึ้น 5% QoQ จากโรงกลั่นศรีราชากลับมาดําเนินงานปกติและคาด GRM เฉลี่ยจะอยู่ราว USD4/bbl ลดลงจากไตรมาสก่อนที่ USD5/bbl ซึ่งเป็นผลจาก Crack spread ของ UNL95-DB ลดเหลือ 7.74 เหรียญฯ/บาร์เรล จาก 11.42

2) ธุรกิจการตลาดมียอดขายรวมลดลงเล็กน้อยจาก 3,567 ล้านลิตรในไตรมาส 4/67 มาเป็น 3,498 ล้านลิตร โดยยอดขายดีเซลอุตสาหกรรมลดลง เพราะการแข่งขันสูงขึ้นในตลาดอุตสาหกรรมแต่ค้าปลีกเพิ่มขึ้น

3) การผลิตไฟฟ้ารวมลดลงจาก 257.3 GWh ในไตรมาส 4/67 มาเป็น 169.8 GWh ลดลง 34% จากไตรมาสก่อน ผลจากฤดูกาลและแผนซ่อมบํารุงในสหรัฐฯ ขณะที่ไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์และพลังงานลมเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล ส่งผลให้ผลการดําเนินงานไตรมาสนี้อ่อนตัวลง

4) ยอดขายนํ้ามันและก๊าซธรรมชาติตามสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 29.2 KBOED มาเป็น 39.1 KBOED เพิ่มขึ้น 33.9% ราคาขายนํ้ามันเฉลี่ยเพิ่มจาก USD69.2/bbl มาเป็น USD75.4/bbl และก๊าซเพิ่มจาก USD80.0/bbl มาเป็น USD84.4/bbl และมีการบันทึกด้อยค่าประมาณ 5–7 ล้านเหรียญฯ

"เรายังคงประมาณการกําไรปี68 ที่ 10,000 ล้านบาท ประเมิน GRM ปีนี้จะยังอยู่ที่ USD4-5/bbl คาดกําไรไตรมาส 1/68 คิดเป็น 20% ของประมาณการทั้งปี สําหรับโครงการ SAF นั้นเรายังไม่รวมในประมาณการซึ่งบริษัทคาดว่าจะเริ่ม COD ได้ในช่วงปลายไตรมาส 2/68 ช้ากว่าคาดเล็กน้อย และ Spread ของ SAF ปรับลดลงจะยังเป็น Upside ให้กับประมาณการ คงคําแนะนําซื้อเก็งกําไร ราคาเป้าหมาย 38 บาท อิง Avg PBV ที่ 0.82 เท่า ความเสี่ยงคือความผันผวนของราคานํ้ามัน"

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด 'บิว ภูริพล' นำทัพ วิ่ง 4x100 ชาย ซีเกมส์2025 วันนี้ 15 ธ.ค.68