โผ 13 หุ้น ปันผลเกิน 5% หลบภัยตลาดหุ้น 2 เดือน ร่วง 211.8 จุด มูลค่าหด 2.6 ล้านล้าน

ดัชนีตลาดหุ้นไทย วานนี้ (3 มี.ค.) ปิดตลาดที่ 1,188.41 จุด ปรับลดลง 15.31 จุด หรือปรับลดลง 1.27% มูลค่าการซื้อขาย 45,011.92 ล้านบาท ระหว่างวันขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่  1,211.21 จุด และลงไปต่ำสุดที่ 1,185.73 จุด 

ดังนั้นหากนับตั้งแต่ต้นปี 2568 จนถึงวันที่ 3 มี.ค.2568 (YTD : Year to Date) หรือคิดเป็นระยะเวลากว่า 2 เดือน ปรับตัวลดลง 211.80 จุด หรือลดลง 15.13% จากสิ้นปี 2567 ปิดที่ 1,400.21 จุด   

ทางด้านมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap.) ปี 2567 แตะระดับ 17,433,753.45 ล้านบาท ขณะที่ล่าสุด วันที่ 3 มี.ค.2568 Market Cap. ลดลงมาอยู่ที่ 14,806,353.56 ล้านบาท หรือลดลง 2,627,399.89 ล้านบาท  

บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสผันผวนจากการปรับลดประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) หลังจากเบื้องต้นกำไรบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 4/2567 ไม่ถึง 1.4 แสนล้านบาท หากไม่รวม THAI จะอยู่ที่ราว 1.8 แสนล้านบาท ลดลง 6% จากไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้น 10% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน 

โดยมี Sector ที่เติบโตทั้งจากไตรมาสก่อน และจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน คือ TOURISM, COMM, CONMAT, TRANS, INSUR, STEEL, IMM, PERSON ฯลฯ 

ส่งผลให้กำไรบริษัทจดทะเบียน ปี 2567 ไม่รวม THAI อยู่ที่ 9 แสนล้านบาท (คิดเป็น EPS ปี 2567 ราว 74 บาท/หุ้น เท่านั้น โดยกำไรที่หายไปเกิดจากรายการพิเศษหลายบริษัท ขณะที่ปัจจุบัน Bloomberg ให้ EPS ปี 2568 ที่ 96 บาท/หุ้น ยังมีความเสี่ยงที่จะต้องปรับลง กดดันตลาด โดยปัจจุบันฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ให้ EPS ปี 2568 ที่ 89 บาท/หุ้น

รวมไปถึงประเด็นกำแพงภาษี และยังเห็นเม็ดเงิน FCD (เงินฝากในสกุลเงินต่างประเทศ) ขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 2.6 หมื่นล้านเหรียญ กดดันตลาดฯ  

หุ้นเด่นหลบความผันผวน แนะนำสะสมหุ้น Dividend Yield ปี 2568 เกิน 5% ได้แก่ TOP, SIRI, SCB, SPALI, AP, KBANK, PTT, TU, PTTGC, BBL, SCC, TISCO, LH