posttoday

หุ้นไทยน่าซื้อหรือยัง? วิเคราะห์ลึกทุกมิติ ก่อนตัดสินใจลงทุน

21 กุมภาพันธ์ 2568

"กรณ์ จาติกวณิช" ตั้งคำถามหุ้นไทยร่วงหนักจนกลายเป็นหนึ่งในตลาดที่ลดลงมากที่สุดในโลกปีนี้ แต่ราคาที่ถูกลงไม่ใช่เหตุผลเดียวในการกลับมาลงทุน สิ่งสำคัญคือ "กำไรต้องโต" ปัญหาสำคัญกว่าทศวรรษ ชี้ "โรบอทเทรด-ชอร์ตเซล"ไม่ใช่ผู้ร้าย

KEY

POINTS

  • "กรณ์ จาติกวณิช" ตั้งคำถามหุ้นไทยร่วงหนักจนกลายเป็นหนึ่งในตลาดที่ลดลงมากที่สุดในโลก
  • แต่ราคาที่ถูกลงไม่ใช่เหตุผลเดียวในการกลับมาลงทุน
  • จุดบอดคือ "กำไร บจ. ต้องโต" ชี้ "โรบอทเทรด-ชอร์ตเซล" ไม่ใช่ผู้ร้าย 

ตลาดหุ้นไทยเผชิญภาวะซบเซาต่อเนื่อง ราคาหุ้นหลายตัวปรับลดลงอย่างหนักจนดูเหมือนเป็นโอกาสทองของนักลงทุน แต่คำถามสำคัญคือ "ถึงเวลาซื้อแล้วหรือยัง?" การที่ราคาหุ้นลงแรงไม่ได้หมายความว่าจะเป็นจุดกลับตัวเสมอไป เพราะถ้ากำไรบริษัทจดทะเบียนไม่เติบโต ราคาก็อาจลงต่อได้อีก!

ถึงกระนั้น "กรณ์ จาติกวณิช" โพสต์บนสื่อโซเชียลส่วนตัว ตั้งคำถามน่าสนใจว่า "กำลังคิดอยู่ว่าควรกลับมาซื้อหุ้นไทย(บ้าง)หรือยัง ?" ถ้าจะกลับมาน่าซื้อ ราคาที่ลดลงมากที่สุดในโลกปีนี้ไม่เป็นเหตุผลที่ดีพอ เพราะอย่างที่เขาว่า "ถ้าราคาหุ้นลดลง แต่ผลประกอบการลดลงด้วย ราคาก็ลงต่อไปได้"

ที่สำคัญคือ "กำไรบริษัทจดทะเบียนต้องดีขึ้น กำไรต้องมากขึ้น" สุดท้ายแล้วนี่คือเหตุผลเดียวที่จะทำให้หุ้นน่าซื้อ และตลอด 10 ปีที่ผ่านมา นี่คือปัญหาหลักของตลาดหุ้นไทย ไม่ใช่ robot-trade ไม่ใช่แม้แต่ short sell เป็นเพราะบริษัทไทยกำไรไม่โต

หากวันนี้ดู "เศรษฐกิจมหภาค" แนวโน้มเศรษฐกิจระยะยาวยังไม่เห็นว่าจะดีขึ้น

-ภาคการผลิตลดลงต่อเนื่อง(นึกถึงรถยนต์)
-การส่งออกไม่โต(ไม่มีอะไรมาแทนรถยนต์ แถมเจอนโยบายทรัมป์อีก)
-รัฐบาลไม่แก้ไขที่โครงสร้าง ยังติดอยู่กับอัตราดอกเบี้ยและการแจกเงินดิจิตอล(ที่แม้มีผลระยะสั้นแต่ไม่ทำให้ใครคิดอยากมาลงทุนเพิ่มในไทย)
-GDPโดยรวมโตช้า
-คนไทยหนี้บาน
-แนวโน้มสถานะการคลังแย่ลงเรื่อยๆ จากหนี้สาธารณะและภาระจากสังคมสูงอายุที่เพิ่มขึ้น
 

หากดูระดับ "บริษัท" ก็ยังไม่ดี

-EPSตลาดโดยรวมไม่โตต่อเนื่องยาวนานเป็น 10ปี
-ปัญหา Governance รุนแรงขึ้นทั้งบริษัทใหญ่และเล็ก
 

หากดู "ราคาหุ้น"

-PER ตลาด 16 เท่าไม่ถือว่าถูก
-Yield 3.80% ถือว่าใช่ได้ แต่ไม่จูงใจพอ

โดยรวมไม่คิดว่าจะมีเงินต่างชาติเข้ามา (เขากลับไปลงที่จีนก่อนดีกว่า) ส่วนเงินในประเทศมีจำกัดอยู่แล้วและมีทางเลือกไปต่างประเทศได้มากขึ้นด้วย

สรุป คิดว่าตลาดไทยยังไม่ไปไหน แต่อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าโอกาสรายตัวหุ้นยังมี แต่หาเองไม่เป็น เลยจะลองพึ่ง Quant Model ของ Definit (ในเครือ Finnomena) เพราะที่ผ่านมาผล Model นี้พิสูจน์ว่าทำกำไรได้แม้ตลาดไม่ดี อันนี้พูดส่วนหนึ่งในฐานะประธานบริษัท Finnomena

ข่าวล่าสุด

ศาลชั้นต้น พิพากษาประหารชีวิต “เชษฐ์ปาดัง” เลขานายกปาดังเบซาร์