14 หุ้น รับอานิสงส์ Google ลงทุน Data Center ในไทยมูลค่า 36,000 ล้านบาท
กาง 14 หุ้นเด่น “กลุ่มโรงไฟฟ้า-นิคมฯ-สื่อสาร-รับเหมาสื่อสาร” รับผลบวก Google ประกาศลงทุน Data Center และ Cloud Region ในไทยมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 36,000 ล้านบาท
วานนี้ (30 ก.ย.2567) GOOGLE ประกาศแผนการลงทุนในประเทศไทยมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์ (36,000 ล้านบาท) เพื่อสร้าง DATA CENTER และ CLOUD REGION ในกรุงเทพฯ และชลบุรี คาดจะช่วยจ้างงานในพื้นที่ได้อีกอย่างน้อย 14,000 ตำแหน่ง และมีส่วนต่อการเพิ่ม GDP ได้อย่างน้อย 140,000 ล้านบาท (ราว 0.9% ต่อ GDP ต่อปี) ในช่วงปี 2568-2572
นอกจากนี้ จะช่วยรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของการใช้งาน GOOGLE CLOUD และนวัตกรรม AI อีกทั้งบริการต่างๆ ของ GOOGLE ซึ่งเป็นที่นิยม เช่น GOOGLE SEARCH, GOOGLE MAPS และ GOOGLE WORKSPACE ที่องค์กรต่างๆ และคนไทยใช้ในชีวิตประจำวัน
ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ประเมินว่า ในเชิงของภาพรวม ถือเป็นมุมมองเชิงบวกต่อผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าทั้งกลุ่ม เนื่องจากธุรกิจ DATA CENTER เป็นระบบจัดเก็บข้อมูลจำเป็นต้องมีระบบไฟฟ้าสนับสนุนการทำงานตลอดเวลา จึงจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าในการดำเนินงานเป็นจำนวนมาก
ขณะเดียวกัน การขยายธุรกิจ DATA CENTER อาจส่งผลกระทบต่อด้านสิ่งแวดล้อม จึงทำให้มีการสนับสนุนการใช้พลังงานหมุนเวียน (RENEWABLE ENERGY) สำหรับธุรกิจ DATA CENTER เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยช่วยหนุนให้รัฐบาลเร่งเดินหน้าด้านการออกกฏระเบียบเพื่อส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานสะอาด อาทิ การทำสัญญาซื้อขายพลังงานไฟฟ้าได้โดยตรง (DIRECT PPA), การขายไฟฟ้าสีเขียว (UTG), หรือการเพิ่มทางเลือกใหม่ๆ เพื่อเข้าถึงพลังงานสะอาดได้มากขึ้น
อีกทั้งยังเป็นส่วนช่วยเพิ่มการเปิดกรับซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาดใหม่ๆ เพิ่มขึ้นในประเทศ ส่งผลให้ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้ายังมีโอกาสที่จะได้ขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาดในประเทศไทย เพื่อเตรียมรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในอนาคต
ส่วนหุ้นโรงไฟฟ้าที่คาดได้ประโยชน์ คือ GULF เนื่องจากบริษัทได้มีการประกาศลงนามสัญญาความร่วมมือกับ บริษัท กูเกิ้ล เอเชีย แปซิฟิก จำกัด (GOOGLE) เพื่อดำเนินธุรกิจการให้บริการระบบ GOOGLE DISTRIBUTED CLOUD AIRGAPPED (GDC AIR-GAPPED) ซึ่งเป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ไร้ซึ่งการเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตสาธารณะโดยสิ้นเชิง ซึ่งมีจุดเด่นด้านความเสถียรภาพ และมีความปลอดภัยสูง เหมาะแก่การใช้สำหรับองค์กรในประเทศไทย
โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ต้องจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลที่มีความสำคัญ หรือเป็นความลับ เช่น การให้บริการทางการแพทย์ พลังงานและสาธารณูปโภค หรือการให้บริการด้านความปลอดภัยสาธารณะ เป็นต้น
ทั้งนี้ GULF จะเป็นผู้ดำเนินงานในฐานะ MANAGED GDC PROVIDER ผ่านการให้คำปรึกษาและบริการจากผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงการจัดการ ดูแลระบบอย่างครบวงจร ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในการต่อยอดในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของ GULF ในการรองรับความต้องการพื้นที่จัดเก็บและประมวลผลข้อมูลที่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงช่วยต่อยอดในธุรกิจไฟฟ้าของ GULF ได้ในอนาคต และหุ้นโรงไฟฟ้าอื่นๆ มีโอกาสเห็นการใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในอนาคต อย่าง BGRIM, GPSC, WHAUP เป็นต้น
ส่วนต่อมา หุ้นกลุ่มนิคม AMATA และ WHA มีศักยภาพเพียงพอที่จะรองรับ DATA CENTER โดยประเมินว่า WHA มีโอกาสได้คว้างานมากกว่า AMATA เนื่องจากฐานลูกค้าของ WHA เป็นกลุ่มอุตสาหกรรม NEW ECONOMY ประกอบกับ WHA มีการพัฒนาบริษัทให้มีความเป็น TECH COMPANY
ตามด้วยหุ้นกลุ่มสื่อสารขนาดใหญ่อย่าง ADVANC,TRUE ที่แม้ทาง GOOGLE จะมีการสร้างดาต้าเซ็นเตอร์เอง แต่ยังจำเป็นที่จะต้องมีการเชื่อมต่อกับลูกค้าเป้าหมายที่จะต้องอาศัยโครงข่ายพื้นฐาน เช่น เส้นใยแก้วนำแสง ซึ่งมีโอกาสที่ GOOGLE จะเลือกใช้บริการดังกล่าว จากกลุ่ม ADVANC หรือ TRUE
ส่วนหุ้นกลุ่มรับเหมาสื่อสารมีธุรกิจเกี่ยวกับ DATA CENTER และ CLOUD SERVICE ก็คาดได้ประโยชน์เช่นกัน อาทิ AIT, INSET, ITEL ฯลฯ
ด้าน บล.กรุงศรี ระบุว่า มองบวกต่อหุ้นในธีม Infra Tech อาทิ WHA, GULF, GPSC, STPI, INSET, DELTA, LST, ADVANC, TRUE ระยะสั้น เน้นโรงไฟฟ้า GPSC, GULF ที่มีปัจจัย Yield ดิ่งลงตามวงจรดอกเบี้ยและเงินบาทแข็งค่าเป็นแรงหนุน