posttoday

จับตา Z.com จากจ่อ IPO ปี 65 สู่งบขาดทุน หวั่นไม่ไปต่อ แม้ยืนยันไม่ปิดกิจการ

27 พฤษภาคม 2567

เกาะติด Z.com จากบริษัทเตรียมเข้าตลาดหุ้นในปี 65 สู่งบขาดทุน หวั่นไม่ไปต่อ หลังเน้นรายได้จากการปล่อยมาร์จิ้นเป็นหลัก แต่เผชิญตลาดหุ้นซบเซา สภาพหด หุ้นที่รับเป็นหลักประกันถูก Force Sell แม้ล่าสุดออกมายืนยันไม่ปิดกิจการ แต่อยู่ระหว่างทบทวนการให้บริการมาร์จิ้น

บล.จีเอ็มโอ-แซด คอม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ Z.com แจ้งผ่านเว็บไซต์ของบริษัทว่า ขอให้ความมั่นใจแก่นักลงทุนทุกท่านว่า บริษัทจะไม่ปิดกิจการอย่างแน่นอน ส่วนการให้บริการมาร์จิ้น อยู่ระหว่างการพิจารณาทบทวน หากมีความคืบหน้าอย่างไร จะแจ้งให้นักลงทุนทราบต่อไป

จากกรณีที่มีข้อมูลระบุว่า ผลการดำเนินงานของ ในปี 2565-2566 พลิกขาดทุนสุทธิอย่างมาก 

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลงบการเงินของ Z.com บนหน้าเว็บไซต์ พบว่า ในปี 2562 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 251.53 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 6.77 ล้านบาท, ปี 2563 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 398.15 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 44.66 ล้านบาท, ปี 2564 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 719.80 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 261.29 ล้านบาท

จากนั้นในปี 2565 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,040.07 ล้านบาท และมีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 519.55 ล้านบาท และปี 2566 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,115.56 ล้านบาท และมีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 517.41 ล้านบาท 

เป็นผลจาก Z.com เริ่มปรับกลยุทธ์ด้วยการเน้นรายได้หลักจากการปล่อยมาร์จิ้นแทนรายได้จากค่าคอมมิชชั่น แต่จากสถานการณ์ตลาดหุ้นซบเซา และสภาพคล่องหดหาย ส่งผลให้หุ้นที่ Z.com รับเป็นหลักประกัน เช่น MORE, OTO, NEX และ SABUY ถูก Force Sell ออกมา เกิดความเสียหายต่อ Z.com, นักลงทุน และตลาดหุ้น

ดังนั้น ทำให้ทุนญี่ปุ่นอยากปิดกิจการ และ cut loss ความเสียหาย โดยคาดว่าภายใน 31 พ.ค 2567 จะยื่นแจ้งลูกค้าเรียกคืนหนี้ให้ปิดพอร์ตลงทุนทั้งหมดใน 3 เดือน และจะปิดกิจการในสิ้นปีนี้ 

ย้อนรอย Z.com จากรุ่งเรือง สู่ รุ่งริ่ง 

สำหรับ Z.com เป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้น เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2559 ด้วยทุนจดทะเบียน 2,880 ล้านบาท ประกอบธุรกิจให้บริการนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ภายใต้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งให้บริการเฉพาะ 2 ประเภทบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ ได้แก่ บัญชีเงินฝากล่วงหน้า (Cash Balance Account) และบัญชีเงินกู้ยืมเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ (Credit Balance Account) โดยมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจให้บริการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์เป็นธุรกิจหลัก และให้ลูกค้าบริการตนเองผ่านระบบออนไลน์ ภายใต้ชื่อ “Z.com”

Z.com เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัท จีเอ็มโอ อินเตอร์เนท กรุ๊ป บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น 

เมื่อปี 2565 Z.com มีแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยใช้ชื่อยอหลักทรัพย์ว่า “Z” โดยมีความคืบหน้าไปถึงขนาดที่ว่า กำหนดวันเข้าซื้อขายวันแรก เป็นวันที่ 9 ธ.ค.2565 แล้วด้วยซ้ำ แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องเคาะราคา IPO กลับมีการเลื่อนแผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไปอย่างไม่มีกำหนด  

ทั้งนี้ Z.com จะเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจการเงิน หมวดธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ จำนวนไม่เกิน 120,000,000 หุ้น คิดเป็น 32.00% ของหุ้นทั้งหมดหลัง IPO แบ่งเป็น 1.หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัท จำนวน 75,000,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 20.00% ของหุ้นทั้งหมดหลัง IPO และ 2.หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิม GMO Financial Holdings Inc.จำนวน 45,000,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 12.00% ของหุ้นทั้งหมดหลัง IPO 

โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 60% ของกำไรสุทธิหลังจากหักเงินสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทตามที่ได้กำหนดไว้ในข้อบังคับบริษัทและกฎหมาย

สำหรับแผนการระดมทุนในครั้งนั้นทาง Z.com เตรียมนำเงินระดมทุนไว้ใช้สำหรับขยายการให้เงินกู้ยืมเงินเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ (Credit Balance) ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ 

จับตา Z.com จากจ่อ IPO ปี 65 สู่งบขาดทุน หวั่นไม่ไปต่อ แม้ยืนยันไม่ปิดกิจการ

ข่าวล่าสุด

LH Bank ออกผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก “LHB OPD SAVER”