BPS เปิดเทรดวันแรก 2.12 บาท เหนือจอง 135.56%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท บีพีเอส เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ BPS เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) วันนี้ (3 เม.ย.2567) เป็นวันแรก ในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุตสาหกรรม โดยเปิดที่ราคา 2.12 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 1.22 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 135.56% จากราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ที่ราคา 0.90 บาท 

ล่าสุด ปิดซื้อขายช่วงเช้า เวลา 12.30 น. ปรับเพิ่มขึ้น 0.58 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 64.44% มาอยู่ที่ 1.48 บาท มูลค่าการซื้อขายรวม 1,497.18 ล้านบาท

ทั้งนี้ BPS ประกอบธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์เชื่อมต่อไฟฟ้าภายในอาคาร สินค้าเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง อุปกรณ์โซลาร์เซล บริการจัดหา ออกแบบ ติดตั้ง โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จากโซลาร์เซลแบบติดตั้งบนหลังคา ระบบควบคุมการจ่ายไฟฟ้า โครงข่ายไฟเบอร์ออพติกเพื่อการสื่อสาร และผลิตภัณฑ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกภายในที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์

BPS เสนอราคาขาย IPO ที่ 0.90 บาท/หุ้น จำนวนไม่เกิน 120,000,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 30% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลัง IPO โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และหลังหักสำรองตามกฎหมายในแต่ละปี  

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปใช้

1. โครงการขยายธุรกิจการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar rooftop)
2. โครงการขยายธุรกิจนวัตกรรมบ้านอัจฉริยะ
3.โครงการไฟเบอร์ออพติกเพื่อการสื่อสาร Fiber to the Home (FTTX) 
4. โครงการศูนย์การเรียนรู้สำหรับช่างและบุคคลทั่วไปสำหรับงาน FTTX และ Solar Roof-top 
5. เงินทุนหมุนเวียนในกิจการ 
 
ทางด้านผลการดำเนินงานในปี 2564-2566 บริษัทมีรายได้รวม อยู่ที่ 514.22 ล้านบาท 679.97 ล้านบาท และ 738.77 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 3.54 ล้านบาท 20.50 ล้านบาท และ 20.09 ล้านบาท ตามลำดับ

ขณะเดียวกัน จากการตรวจสอบข้อมูลผู้ถือหุ้น พบว่า “หมอวิน-นพ.รัชต์ชยุตม์ จีระพรประภา” นักลงทุนเซียนเทคนิค ถือหุ้นอันดับ 5 จำนวน 29,416,800 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 7.35%

นายสุรพงษ์ สาเรชพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีพีเอส เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ BPS เปิดเผยว่า ราคาหุ้น BPS ที่ปรับตัวขึ้นในการเข้าซื้อขายวันนี้เป็นวันแรก มองว่ามาจากความคาดหวังของนักลงทุนที่มีต่อแนวโน้มธุรกิจในอนาคต 

โดยในปี 2567 บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อน ซึ่งบริษัทมีแผนขยายธุรกิจการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar rooftop) สำหรับลูกค้าอสังหาริมทรัพย์แนวราบ และโรงงาน รวมถึงองค์กรภาคเอกชน โดยตั้งเป้าหมายติดตั้งและผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 30 เมกะวัตต์  

นอกจากนี้ จะนำเสนอนวัตกรรม Green Home Solutions เพื่อตอบสนองความต้องการและตอบโจทย์เทรนอสังหาริมทรัพย์ยุคใหม่ ที่พร้อมอำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัยในทุกๆ ด้าน เช่น อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง บ้านประหยัดพลังงาน ซึ่ง BPS จะเป็นศูนย์ให้บริการแบบ One Stop Service ด้วยการให้บริการให้คำปรึกษา ออกแบบ ติดตั้ง พร้อมจำหน่ายอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะตลาดบ้านมือสอง และกลุ่มประชากรผู้สูงอายุที่ต้องการปรับปรุงที่พักอาศัยให้เหมาะสมกับการใช้งานในปัจจุบัน 

พร้อมทั้งมองถึงการขยายโอกาสให้สอดคล้องกับแนวคิด SMART HOME เช่น การติดตั้งโรงรถ (Garage Roof) พร้อมระบบ Solar Roof-Top การติดตั้งระบบระบายอากาศ (Airflow) และการติดตั้งเครื่องชาร์จไฟฟ้า (EV Charger) ในอนาคตอีกด้วย

“บริษัทตั้งเป้าโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อน ด้วยการขยายธุรกิจติดตั้ง Solar Rooftop ซึ่งเป็นธุรกิจที่โอกาสเติบโตและมีรายได้เข้ามาเพิ่มมากขึ้น และเริ่มรับรู้รายได้อย่างมีนัยสำคัญในปีนี้ ส่วนการนำเสนอนวัตกรรม Green Home Solutions เป็นธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูง ตามความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า น่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้บริษัทเติบโตตามเป้าหมาย” นายสรุพงษ์ กล่าว