posttoday

SET ไม่ไปไหน 1360-1390 จุด เน้นสะสมหุ้นกำไรดี-ราคาไม่แพง

27 มีนาคม 2567

3โบรกส่องหุ้นไทยวันนี้แกว่งกรอบ 1,360 - 1,390 จุด ตัวเลขส่งออกไทยขยายตัว 7 เดือนต่อเนื่องหนุนภาพเศรษฐกิจค่อยๆฟื้น ตลาดต่างประเทศรอตัวเลขเศรษฐกิจสําคัญปลายสัปดาห์ แนะรอจังหวะสะสมหุ้นกําไรดี - Valuation ไม่แพง

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ระบุว่า ตลาดหุ้นวานนี้ SET Index เพิ่มขึ้น 5 จุด (+0.35%) ปิดที่ระดับ 1,377 จุด หลักๆเป็นการปรับขึ้น ในหุ้นที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัวอาทิ กลุ่มที่ได้ผลบวกจากค่าเงินบาทอ่อนค่าและมียอดส่งออกเพิ่มขึ้นในเดือน ก.พ. อาทิ กลุ่มอิเล็ก และ กลุ่มอาหาร

     แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้(27 มี.ค.67)ประเมิน SET แกว่งตัว 1,370 - 1,390 จุด แม้ภาวะตลาดจะได้แรงหนุนจากสภาฯผ่านร่างกฏหมายงบประมาณรายจ่ายปี 67 รวมถึงตัวเลขส่งออกไทยเดือน ก.พ. ขยายตัวขึ้น (แต่หดตัวลงจากเดือน ม.ค.) ส่งผลให้มีแรงซื้อใน sector ที่ส่งออกเพิ่มขึ้น เช่น อาหารทะเลและอาหารสัตว์เลี้ยง อย่างไรก็ตามกระแส Fund flow ต่างชาติที่ผันผวนจะยังกดดันภาพการลงทุนจึงแนะนำ Selective buy เช่นเดิม

     "กราฟ SET วานนี้แม้จะฟื้นตัวแต่ยังไม่สามารถขึ้นผ่านเส้น EMA 10 วันเพื่อพลิกเป็นโมเมนตัมบวกรอบใหม่ได้ นอกจากนี้Volume ซื้อ/ขายที่ค่อนข้างบางรวมถึงเครื่องมือ RSI กับ MACD ขัดแย้งกันส่งผลให้ดัชนีผันผวนง่าย ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัว 1,370 - 1,390 จุด จึงแนะนำซื้อเล่นรีบาวด์ในกรอบดังกล่าวโดย Cut loss หากหลุด 1,360 จุด"

     หุ้นแนะนำวันนี้ คือ IVL (ปิด 24.30 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 27 บาท) คาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว สะท้อนจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ปิโตรฯของ IVL เดือน ก.พ. ปรับตัวขึ้น MoM ในทุกผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะ PET Spread ในตะวันตกปรับขึ้น เป็นเดือนที่ 5 และทำสถติสูงสุดในรอบ 10 เดือน

     TRUE (ปิด 7.95 ซื้อ/เป้า 8.40 บาท) ราคาหุ้นลดลงสะท้อนข่าวศาลปกครองรับคำร้องการยื่นฟ้องคณะกรรมการ กสทช. ประเด็นการควบรวม TRUE และ DTAC ไปแล้ว แต่ปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยนคาดเห็นผลประกอบการพลิกเป็นบวกได้ตั้งแต่ 2Q24 ราคาหุ้นที่ลดลงเป็นโอกาสซื้อ

ประเด็นสำคัญวันนี้

    (+/-) ส่งออกไทยขยายตัวเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกันแต่ลดลงจากเดือน ม.ค. และ น้อยกว่าที่ Consensus คาดไว้ : ก.พาณิชย์ ประกาศตัวเลขส่งออกไทยเดือน ก.พ. ขยายตัว 3.6% ชะลอตัวจากที่ขยายตัว 10%yoy ในเดือน ก.พ. และต่ำกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ 4.4%yoy ส่วนยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 3.2%yoy จาก 2.6%yoyในเดือน ม.ค. อย่างไรก็ตามไทยมียอดขาดดุลการค้า 554 ล้านเหรียญในเดือน ก.พ. ลดลงจากที่ขาดดุล 2,760 ล้านเหรียญในเดือน ม.ค.

     (+/-) กลุ่มอิเล็กฯ – KCE, HANA ยอดส่งออก PCB, PCBA ยังแย่แต่ Power Supply ของ DELTA เด่น : ก.พาณิชย์รายงานยอดส่งออก PCB ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ หลักของ KCE ปรับตัวลง 0.2%mom และ 7.8%yoy, PCBA ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของ HANA ลดลง 9.5%yoy และ 13.2%yoy อย่างไรก็ตามยอดส่งออก Power supply ผลิตภัณฑ์หลักของ DELTA ปรับตัวขึ้นเด่น 18.3%mom และ 35%yoy

     (-) กลุ่ม Auto – ยอดผลิตและขายรถยนต์ในประเทศยังแย่ ส่วนส่งออกแค่ทรงตัว : ส.อ.ท.รายงานยอดผลิตรถยนต์เดือน ก.พ.ทำได้ 133,690 คัน ลดลง 5.92%mom และ 19.28%yoy (เป็นยอดผลิตของเดือน ก.พ.ต่ำสุดในรอบ 13 ปี), ยอดขายในประเทศลดลงเหลือ 52,843 คัน ลดลง 3.6%mom และ 26.15%yoy และ ปิดท้ายที่ยอดส่งออกมีจำนวน 88,720 คัน เพิ่มขึ้น 2.31%mom และ 0.22%yoy

เศรษฐกิจไทยค่อยๆฟื้น

     นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.ลิเบอเรเตอร์ ระบุว่า วานนี้กระทรวงพาณิชย์รายงานยอดส่งออกไทยเดือน ก.พ. อยู่ที่ 2.33 หมื่นล้านเหรียญ (+3.6%y-y) แม้ต่ํา คาดเล็กน้อยที่ +4.1% แต่ยังคงขยายตัวเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน โดยพบว่าสินค้าเกษตรขยายตัวดี นําโดย กาแฟ, ข่าว, ยางพารา ส่วนอุตสาหกรรมเกษตรที่โดดเด่นได้แก่ ผลิตภัณฑ์นม, อาหารสัตว์เลี้ยง, ผลไม้ กระป๋อง, สิ่งปรุงรส และอาหารทะเลกระป๋อง

     ส่วนสินค้าอุตสาหกรรมที่เติบโตดี ได้แก่ คอมพิวเตอร์, เหล็ก, อิเล็กทรอนิกส์ และ อัญมณี โดยสรุปถือว่า ภาพส่งออกไทยยังคงขยายตัวดี เป็นกําลังสําคัญที่จะช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยเพิ่มเติมในปีนี้

     ดังนั้นฝ่ายวิเคราะห์ยังคงประเมิน SET ยังอยู่ในช่วงสะสมเพื่อรอการฟื้นตัวของตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงถัดไปเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนการฟื้นตัวของ SET มากขึ้น ดังนั้นในจังหวะนี้ยังมองเป็นโอกาสในการสะสมหุ้นที่แนวโน้ม กําไรมีทิศทางเติบโตโดดเด่น และ Valuation ไม่แพง

     ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯยังคงผันผวน แนะนำติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจ ซึ่งสัปดาห์นี้ตลาดยังคงรอคอยตัวเลขเงินเฟ้อ Core PCE ที่จะรายงานในวันศุกร์ ถือเป็นปัจจัยสําคัญที่จะสะท้อนการกําหนดดอกเบี้ยนโยบายในช่วงถัดไป โดยปัจจุบันตลาดยังให้น้ำหนักกว่า 63% ที่ FED จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือน มิ.ย. ซึ่งคาดจะเป็นแรงบวกต่อภาพรวมเศรษฐกิจผสานกับกําไรของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯที่คาดจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเพิ่มแรงหนุนเพิ่มเติมต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯมากยิ่งขึ้น

     คาด SET วันนี้ “Sideways” ในกรอบ 1365-1390 จุด ตัวเลขส่งออกไทยขยายตัว 7 เดือนติดต่อกัน หนุนภาพรวมเศรษฐกิจยังอยู่ในช่วงค่อยๆฟื้นตัว ขณะที่ตลาดต่างประเทศยังรอคอยตัวเลขเศรษฐกิจสําคัญปลายสัปดาห์ ดังนั้นคาดตลาดยังแกว่งรอ ซึ่งมองเป็นจังหวะสะสมหุ้นแนวโน้มกําไรดี และมี Valuation ไม่แพง

     วันนี้แนะนําหุ้น COCOCO ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 12.50 บาท รายได้ ในช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค.2567 ยังคงเป็นไปตามแผน โดยคำสั่งซื้อหนาแน่นจนต้องเดินเครื่องผลิตตลอด 7 วันต่อสัปดาห์ ส่วนการขยายกำลังผลิตจะทยอยเพิ่มขึ้นในทุกไตรมาสไปจนถึง 3Q24 ที่ 85,225 ตันต่อไตรมาสส่งผลให้ปี 2024 จะมีกำลังผลิตที่ 295,539 ตันต่อปี (+174%y-y) ขณะที่ Valuation เทรดในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มเครื่องดื่ม แต่คาดอัตราการเติบโต EPS เด่นสุด ดังนั้นจึงมองเป็นหุ้นที่น่าสะสม

 

ลุ้นทดสอบ 1390  

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุว่า คาดการณ์แนวโน้ม SET INDEX วันนี้ลุ้นฟื้นตัว โดยแท่งเทียนคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้น DOWNTREND และ EMA 10,50 วันต่อเนื่อง แต่เริ่มปิดเหนือระดับ VWAP ในลักษณะของ SPINNING TOP ด้วยปริมาณการซื้อขายที่เริ่มขยับขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ย 5 วัน 

     อย่างไรก็ตามเครื่องมือทางด้านเทคนิคส่วนใหญ่ยังคงมีสัญญาณเชิงลบเช่นกัน อาทิ RSI ยังอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 % และ MACD ที่อยู่ต่ำกว่าแกน 0 รวมถึง MODIFIED STOCHASTIC ที่เริ่มมีสัญญาณเชิงลบ (%K < %D) จึงให้น้ำหนัก SET ลุ้นฟื้นตัวตามแนวต้าน 1,386 / 1,390 จุด โดยมีแนวรับวางไว้บริเวณเดิม 1,368 / 1,361 จุด ส่วน SET50 ลุ้นฟื้นตัวตามแนวต้าน 850 / 853 จุด โดยยังวางแนวต้านขยับลงที่ 838 / 835 จุด เช่นเดียวกัน

     สำหรับนักลงทุนระยะสั้น แนะนำ SELECTIVE BUY หรือ ต่อรองตามแนวรับเป็นหลัก

     AWC เป้าหมาย 4.18 / 4.28 บาท แนวรับ 3.96 / 3.90 บาท

     SAWAD เป้าหมาย 43.75 / 44.75 บาท แนวรับ 41.75 / 40.75 บาท

     SPALI เป้าหมาย 21.80 / 22.30 บาท แนวรับ 20.50 / 20.20 บาท

     AAI เป้าหมาย 4.56 / 4.74 บาท แนวรับ 4.26 / 4.20 บาท

ข่าวล่าสุด

วปอ.68 มอบตาข่ายป้องกันโดรน ทิ้งระเบิด และสิ่งของ ช่วยทหารชายแดนภาค 2