posttoday

SET ผันผวนในกรอบ 1,350-1,365 จุด แนะ “Selective Buy” ชู BDMS และ HTC

06 มีนาคม 2567

SET เคลื่อนไหวผันผวน ในกรอบ 1,350-1,365 จุด โดยสัญญาณเทคนิคเข้าสู่ภาวะ oversold การฟื้นตัวจำกัด กลยุทธ์การลงทุน “Selective Buy” แนะนำ BDMS และ HTC

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า SET เคลื่อนไหวผันผวน โดยสัญญาณเทคนิคที่เข้าสู่ภาวะ oversold ทำให้แนวรับบริเวณ 1,350 จุด คาดยังเป็นจุดรองรับได้ อย่างไรก็ตาม สัญญาณในภาพรวมที่ยังอ่อนแรง และตลาดที่ขาดปัจจัยหนุน ทำให้การฟื้นตัวมีกรอบบนที่จำกัด บริเวณแนวต้าน 1,365 จุด ซึ่งใช้เป็นจุดติดตาม หากขึ้นทะลุผ่านได้ จะเห็นภาพการฟื้นตัวชัดขึ้น

ทั้งนี้ ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยยังได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจของจีนที่มีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเงินฝืดและการผลิตที่หดตัวต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดคาดตัวเลขเงินเฟ้อ ก.พ. ของไทยจะมีแนวโน้มติดลบเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ซึ่งอาจจะส่งผลให้มีแรงหนุนจากความคาดหวังต่อการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในระยะถัดไป ส่วนการประชุมนโยบายการเงินของ ECB ตลาดคาดจะยังคงที่ระดับ 4.0% ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึง แนะนำ ”Selective Buy“ ใน 4 ธีม ดังนี้

1) หุ้นเก็งกำไรจากแรงซื้อกลับจากทำ Cover Short และ Fund Flow ไหลกลับ อีกทั้ง ตลท. มีแผนออกมาตรการคุม Short Sales มากขึ้น ขณะที่พื้นฐานยังแข็งแกร่ง เลือก AOT KBANK KTB BBL ADVANC

2) หุ้นขนาดเล็กที่ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง โดยกำไรปี 2567 ยังเติบโตดี YoY และมองราคาหุ้นผ่านจุดต่ำสุดแล้ว เลือก AU ONEE SECURE KLINIQ HTC

3) หุ้นปันผลที่คาดให้ Div. Yield สูงกว่า 4% อีกทั้ง DPS และ Div. payout ratio แนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งมองหนึ่งในทางเลือกลงทุนเพื่อสร้างกระแสเงินสดที่ดีให้แก่พอร์ตลงทุน แนะนำ BBL KTB AP ADVANC RJH DRT

4) นักลงทุนระยะยาวแนะนำลงทุนสะสมแบบ DCA เนื่องจากมองเป็นจังหวะที่ดีที่สุด หลัง SET ปรับลงแรงจนความเสี่ยงลดลงไปมาก และราคาหุ้นอยู่ในระดับ Undervalue มาก โดยเลือก BBL BDMS BEM CPALL PTT และ SCC ซึ่งเป็นหุ้น SET100 ซึ่งเป็นผู้นำในแต่ละอุตสาหกรรม และมี ESG Ratings ระดับ AAA/AA, Valuation ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี และผลการดำเนินงานยังแข็งแกร่ง

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ BDMS ไตรมาส 1/2567 มองกำไรยังเติบโตแข็งแกร่งทั้ง YoY และ QoQ ขณะที่ปี 2567 คาดกำไรปกติจะเติบโต 8% สู่ 1.5 หมื่นล้านบาท แรงหนุนจากรายได้ที่เติบโต 6% และ EBITDA margin ที่กว้างขึ้น อีกทั้ง Valuation ไม่แพง โดยเทรดที่ PER 67F ระดับ 29 เท่า ต่ำกว่าระดับ -2SD ของ PER เฉลี่ยในอดีต

HTC ไตรมาส 1/2567 คาดกำไรปกติจะเติบโต QoQ และอ่อนตัวลงเล็กน้อย YoY โดยแม้ยอดขาย 2 เดือนแรกปี 2567 คาดจะเติบโตได้ 2 หลัก แต่ฐานเดือน มี.ค.2566 เป็นช่วงที่ยอดขายสูง ก่อนปรับราคาขาย คาดปี 2567 มีกำไรสุทธิ 686 ล้านบาท เติบโต 11% YoY ทําฐานสูงใหม่ หนุนจากนักท่องเที่ยวในภาคใต้ที่เพิ่มขึ้น และยังครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1