posttoday

เปิดกลยุทธ์ LST ก้าวสู่ปีที่ 51 รุกขยายกลุ่มพรีเมียม รักษาผู้นำตลาด Soft Oil

31 มกราคม 2567

กางแผนปี 67 “ล่ำสูง” หรือ LST ก้าวสู่ปีที่ 51 ชูกลยุทธ์ขยายน้ำมันกลุ่มพรีเมียมมากขึ้น รักษาผู้นำตลาด Soft Oil พร้อมปักธงภายใน 5 ปี ขึ้นแท่นเบอร์ 1 น้ำมันปาล์ม ลุยเพิ่มสัดส่วนยอดขายออนไลน์เป็น 10% ภายใน 1-2 ปี

นายภูมิเกียรติ โชติชัยชรินทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ล่ำสูง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ LST เปิดเผยว่า ปี 2567 บริษัทก้าวสู่ปีที่ 51 โดยแผนการดำเนินงานมุ่งเน้นการขยายน้ำมันกลุ่มพรีเมียม หรือ Soft Oil มากขึ้น เนื่องจากมองว่าในระยะยาวผู้บริโภคมีความใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ทำให้ Soft Oil มีโอกาสเติบโต โดยปัจจุบันบริษัทเป็นผู้นำตลาด Soft Oil มีส่วนแบ่งทางการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) อันดับ 1  

ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ของบริษัท มาจาก Palm Based Products คิดเป็นประมาณ 85% ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 15% มาจาก Soft Oil และ Fat & Flour  

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจหลักของบริษัทยังคงเป็นน้ำมันปาล์ม ดังนั้นบริษัทตั้งเป้าหมายมีมาร์เก็ตแชร์อันดับ 1 ในตลาดน้ำมันปาล์ม ภายใน 5 ปี จากปัจจุบัน น้ำมันปาล์ม “หยก” มีมาร์เก็ตแชร์อยู่อันดับ 2 รองจาก “มรกต” 

“การจะขึ้นเบอร์ 1 ได้ แต่ละหมวดหมู่ต้องมี Product Innovation ที่เหมาะสมกับผู้บริโภค ส่วนการจะเปลี่ยนไป Soft Oil ส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนในการให้ความรู้กับผู้บริโภค ขณะที่การลงทุนเครื่องจักร เทคโนโลยี ไม่เยอะเท่าการให้ความรู้กับผู้บริโภค” นายภูมิเกียรติ กล่าว  

เปิดกลยุทธ์ LST ก้าวสู่ปีที่ 51 รุกขยายกลุ่มพรีเมียม รักษาผู้นำตลาด Soft Oil

นอกจากนี้ บริษัทมองเห็นแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจเบเกอรี่ และอุตสาหกรรมขนม ดังนั้นจึงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของบริษัทด้วย ในกลุ่มมาการีน ไขมันพืชผสม และเนยอื่นๆ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มดังกล่าว รวมทั้งบริษัทจะมีการออกผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้เป็น Consumer size ภายใน 1-2 ปีนี้  

ขณะเดียวกัน บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และดำเนินธุรกิจด้วยกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน คือ NICE ที่ครอบคลุมในมิติความยั่งยืนทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อนำไปสู่ “การบริโภคที่เป็นมิตรและยั่งยืน” 

โดย N มาจาก Ensure: มั่นใจว่าเรามีการใช้ทรัพยากรและพลังงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดในทุกขั้นตอนของห่วงโซ่คุณค่า, I มาจาก Innovate: คิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยระดับโลกด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง ส่วน C มาจาก Conduct: ดำเนินธุรกิจภายใต้นโยบายการกำกับดูแลกิจการ อย่างโปร่งใสและมีความรับผิดชอบ และ E มาจาก Educate: การให้และเพิ่มพูนความรู้แก่ประชาชน เพื่อให้เข้าใจและตระหนักถึงการบริโภคอย่างยั่งยืน

อีกทั้งบริษัทยังตั้งเป้าหมายมีสัดส่วนยอดขายออนไลน์เพิ่มเป็น 10% ภายใน 1-2 ปี จากปัจจุบันมีสัดส่วนไม่ถึง 10% เนื่องจากมีการเติบโตดี และมุ่งเน้นทำการตลาดผ่านสื่อออนไลน์ ส่วนที่เหลือเป็นยอดขายออฟไลน์