ThaiBMA เล็งออกแนวทางปกป้องผลประโยชน์นักลงทุนหุ้นกู้ในปี 67
ThaiBMA จ่อออกแนวทางปกป้องผลประโยชน์นักลงทุนหุ้นกู้ในปี 67 คาดยอดเอกชนออกหุ้นกู้ปีนี้ 0.9-1 ล้านล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอน 8.9 แสนล้านบาท เป็น High Yield มูลค่ารวมกว่า 9.95 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 10%
นางสาวอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เปิดเผยว่า ในปี 2567 คาดการณ์ยอดการออกหุ้นกู้ระยะยาว 0.9-1 ล้านล้านบาท เป็นหุ้นกู้ออกใหม่ 4-4.5 แสนล้านบาท และเป็นหุ้นกู้ Rollover 5-5.5 แสนล้านบาท
ส่วนหุ้นกู้ระยะยาวที่ครบกำหนดในปี 2567 อยู่ที่ 890,908 ล้านบาท เป็นหุ้นกู้ Investment grade มูลค่า 791,332 ล้านบาท หรือคิดเป็น 90% และหุ้นกู้ High Yield หรือกลุ่มที่มีเรตติ้งต่ำกว่า BBB- ลงไปถึงไม่มีเรตติ้ง มูลค่า 99,586 ล้านบาท คิดเป็น 10%
“อุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงผิดนัดชำระที่ต้องจับตามองในปีนี้ คนพุ่งเป้าไปที่กลุ่มอสังหาฯ เพราะมีการออกหุ้นกู้เยอะ และอายุหุ้นกู้ประมาณ 2-3 ปี แต่จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาหุ้นกู้ผิดนัดชำระมีหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ JKN และ STARK ก็ไม่ได้อยู่ในอุตสาหกรรมอสังหาฯ ดังนั้นไม่อยากให้เล็งไปที่อุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง และไม่สามารถตอบได้ว่าอุตสาหกรรมใดน่าห่วงที่สุด” นางสาวอริยา กล่าว
ขณะที่ในปี 2566 ยอดการออกหุ้นกู้ระยะยาว มีมูลค่า 1,018,690 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่ออกส่วนใหญ่ มูลค่า 926,713 ล้านบาท หรือคิดเป็น 91% อยู่ในกลุ่ม Investment grade ส่วนที่เหลือเป็นหุ้นกู้ High Yield มูลค่า 91,977 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการออกสูงสุด คือ กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ พลังงาน อสังหาริมทรัพย์ และ ธนาคาร ตามลำดับ
สำหรับหุ้นกู้ที่ผิดนัดชำระในปี 2566 มูลค่ารวม 16,363 ล้านบาท ส่งผลให้มูลค่าคงค้างหุ้นกู้ที่มีปัญหา ณ สิ้นปี 2566 รวม 39,412 ล้านบาท ได้แก่ หุ้นกู้ที่ผิดนัดชำระ (Default Payment) จำนวน 7 บริษัท (ACAP, ALL, APEX, DR, IFEC, JKN, และ STARK) มูลค่ารวม 22,295 ล้านบาท
หุ้นกู้บริษัทที่ปรับโครงสร้างหนี้ (Restructure) จำนวน 13 บริษัท มูลค่ารวม 10,975 ล้านบาท, หุ้นกู้ที่ล้มละลาย (Bankruptcy) จำนวน 1 บริษัท (EARTH) มูลค่า 5,750 ล้านบาท, หุ้นกู้ที่ไม่จ่ายหนี้เมื่อครบกำหนด (Failed to Pay) จำนวน 1 บริษัท (PPH) มูลค่า 392 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่เข้าฟื้นฟูกิจการ (Rehabilitation) จำนวน 3 บริษัท (THAI, PACE, RICH) มูลค่ารวม 73,057 ล้านบาท
“หุ้นกู้ของบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ยังไม่เป็นหุ้นกู้ผิดนัดชำระ แต่มีการนัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ เพื่อขอผ่อนผันการดำรง D/E ratio และขอขยายวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ไปอีก 2 ปี และปรับเพิ่มดอกเบี้ยจ่าย ถือว่ามีความพยายามในการบริหารจัดการที่ดี” นางสาวอริยา กล่าว
ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2566 มูลค่าคงค้างตลาดตราสารหนี้ไทยอยู่ที่ 16.5 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.4% จากปีก่อน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าคงค้างตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลและภาคเอกชนเป็นสำคัญ โดยหุ้นกู้ระยะยาวมีมูลค่าคงค้างรวม 4.5 ล้านล้านบาท
ขณะเดียวกัน แนวทางการดำเนินงานของ ThaiBMA ในปี 2567 ได้แก่ เพิ่มการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินของผู้ออกหุ้นกู้ และการเปรียบเทียบกับอุตสาหกรรม เพื่อให้นักลงทุนมีข้อมูลครบถ้วนในการตัดสินใจลงทุน และจัดทำ High yield bond covenant (ข้อกำหนดทางการเงินที่ผู้ออกหุ้นกู้ต้องปฏิบัติ) ที่ครอบคลุมเงื่อนไขสำคัญ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนักลงทุน
รวมทั้งจัดทำสัญญามาตรฐานของผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เพื่อเพิ่มหน้าที่ของผู้ออกหุ้นกู้/นายทะเบียน ที่มีต่อผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ในการทำหน้าที่ปกป้องประโยชน์ของนักลงทุนให้มีประสิทธิภาพ
“ได้มีการหารือกับสำหนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อจัดตั้งคณะทำงานต่อไป และคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในปี 2567” นางสาวอริยา กล่าว


