"ภากร"เคลียร์ใจ Short sell-กระแสปลดพ้นเก้าอี้-บทบาทบอร์ด ตลท.
"ดร. ภากร ปีตธวัชชัย"หน้าเคลียด ตั้งโต๊ะเคลียร์ไม่พบ "Short Sell" ผิดกฎหมาย โต้ข่าว Naked Short Sell ย้ำบอร์ดไร้คอนฟลิคท์ ปัดตอบกระแสปลดยกบอร์ด-จับเข่าคุยนายกฯ วอนกลุ่มนัดหยุดเทรด 20พ.ย.นี้ส่งเรื่องที่สงสัยฝากคอลเซ็นเตอร์พร้อมรับทุกเรื่องตอบทุกประเด็น
เคลียร์ใจ
ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ตั้งโต๊ะแถลงข่าวด่วนว่า วันนี้(15 ต.ค.66)มี 2 เรื่องใหญ่ที่นำมาพูดคุยคือ 1. Short Sell จากการตรวจสอบในเดือน ก.ค.66 ที่ผ่านมา ยืนยันว่าไม่ใช่การทำ Short Sell และ 2.โครงสร้างกรรมการ ตลท.
ความจริงข้อแรกก็คือ รายการซื้อขายตามข่าวเกิดขึ้นในวันที่ 12 ก.ค.66 เวลาประมาณ 10.30 น. โดยใช้เวลาในการส่งทั้งหมดประมาณ 2 นาที รวม 6 Orders จำนวนประมาณ 30 ล้านหุ้น
ส่วนข้อ 2. คือ Surveillance moniter พฤติกรรม Real time ในวันดังกล่าวและพบข้อเท็จจริง ดังนี้คือ
2.1 Order ขายจำนวนมาก ไม่ได้ส่งจาก Foreign Program
2.2 แต่เป็นคำสั่งขายจากผู้ถือหุ้นในประเทศที่ถือครองหุ้นมากกว่าจำนวน ที่ตั้ง Order ขาย จึงไม่ใช่การ Short sell
2.3 คำสั่งขายจำนวนมากดังกล่าว ไม่เกิดการ match เลย และไม่ทราบราคาหุ้นในช่วงเวลาที่วาง order ไว้
2.4 ภายใน 20 นาที หลังจากนั้นมีการถอนคำสั่งขายทั้งหมดแล้วไม่ใส่กลับมาอีกเลยตลอดทั้งวัน
"ที่ผ่านมา ตลท.มีการตรวจสอบ Naked Short Sell หรือ Short Sell ทุกบัญชี โดยดูว่านักลงทุนที่ยืมหุ้นมา ยืมถูกต้องตามเกณฑ์หรือไม่ ซึ่งก็จะมีการสอบถามไปยังสังกัดกลุ่ม หรือ กลุ่มที่ขายจำนวนมาก หรือมีการซื้อขายระหว่างวัน เช่น ขายก่อนแล้วซื้อกลับแต่ไม่ได้ยืมหุ้นหรือไม่ ซึ่งจะเข้าไปตรวจสอบทุกบัญชี สุดท้ายหากใครที่ขายก่อนซื้อแล้วไม่ยอดยกมา ตลท.ก็จะตรวจสอบบริษัทสมาชิก เรามีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ ส่วนกรณีที่พบว่ามีการปั่นหุ้นจริงจะนำส่งข้อมูลให้ทาง ก.ล.ต.ลงโทษต่อไป แต่วันนี้ที่อยากย้ำคือไม่ใช่ว่าเราไม่ทำอะไร เราตรวจสอบทุกทรานเซกชั่น โปรดอย่ากังวล หรือหากสงสัยส่งเคสมาที่คอลเซ็นเตอร์ได้ เรายินดีตรวจสอบเพื่อสร้างความมั่นใจให้นักลงทุน"
บอร์ด ตลท.ไร้คอนฟลิคท์
ดร.ภากร กล่าวว่า ส่วนเรื่องที่สอง คือ โครงสร้างตลาดหลักทรัพย์ฯเลือกอย่างไร ดูคอนฟลิคท์อย่างไรนั้น องค์ประกอบของคณะกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ตาม พรบ.หลักทรัพย์ กำหนดให้มาจาก 2 ส่วน คือ บุคคลาที่คณะกรรมาร ก.ล.ต. แต่งตั้ง 6 ท่าน และอีก 4 ท่านมาจากการเลือกตั้งของสมาชิก(แก้ไขให้ลดจาก 5 คน ตามกฎหมายกำหนดในปี 2562)
ส่วนเรื่องที่มีพูดถึง Conflict of Interest ของคณะกรรมการ ตลท.มีอิทธิพลต่อการดำเนินงานของตลาดหลักทรัพย์ฯหรือไม่อย่างไรนั้น ตลท.ปฏิบัติตามกฎหมายหลักทรัพย์และนโยบายการกำกับดูแลกิจการและจรรยาบรรณปฏิบัติของกลุ่ม ตลท. เรามีคณะกรรมการที่มาจากกรรมการ ก.ล.ต. เป็นผู้กำกับดูแล เรื่อง CG Policy การตรวจสอบภายใน หรือกลุ่มไอทีมาจากการแต่งตั้ง ก.ล.ต. ดังนั้นการทำอะไรที่ไม่เสมอภาพไม่มี ยิ่งไปกว่านั้นเรามี บุคคลที่ 3 (Third Party) จากภายนอก ทั้ง กรรมการ ตลท. ฯลฯมาช่วยตรวจสอบ
กรณีมีกระแสปลด "ดร.ภากร-บอร์ด ตลท." มองอย่างไร?
"ผมขอไม่ตอบ เพราะผมคือคนทำงานไม่รู้จะตอบแทนผู้ตัดสินใจอะไรได้บ้าง"
ตลท.ได้เคลียร์กระแสปลด อย่างไร?
"เรามีการให้ข้อมูลและอัพเดทการทำงานมาโดยตลอด"
นายกฯเรียกหารือหลังกลับจากเอเปกหรือไม่ ?
"ขอไม่ตอบนะครับ"
โรบอทเทรดกระทบรายย่อยแค่ไหน?
กรณีที่วอลุ่มเทรดของตลาดหุ้นไทยเป็นโปรแกรมเทรดอัตโนมัติสูงถึง 40% แต่วอลุ่มรวมลดลง ในมุมมองตลาดหลักทรัพย์ฯอยากให้สัดส่วนการลงทุนมีการกระจาย เช่น นักลงทุนรายย่อยในประเทศ คิดเป็น 1 ใน 3 , สถาบัน 1 ใน 3 , นักลงทุนต่างประเทศ 1 ใน 3 แต่การลงทุนต่างชาติที่เป็นโปรแกรมเทรดจะเข้ามาได้เร็วและเข้ามาแบบสม่ำเสมอ ซึ่ง ตลท.พยายามเพิ่มฐานนักลงทุนในประเทศ หรือนักลงทุนสถาบันในประเทศมากขึ้น แต่ยอมรับว่าต้องใช้เวลา
ถามว่าประเทศเข้าขั้นวิกฤติเศรษฐกิจ หรือไม่?
ขอพูดในฐานะนักเศรษฐศาสตร์ ไม่ใช่ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ ผมมองว่าประเทศเกิดวิกฤติหรือไม่ ดูหลายด้าน ดูความมั่นคงหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นการเมือง เศรษฐกิจ ที่เราอยู่ในสถานการณ์นี้ไม่ใช่ภาวะปกติแน่นอน เราเพิ่งผ่านโควิด-19 แล้วมาเจอ Geopolitics หลายที่ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ผันผวนสูง แต่พอโควิด-19หายก็มาเจอไข้หวัดใหญ่ สิ่งต่างๆทำให้เกิดความผันผวน
อยากฝากว่าที่มองว่าโลกเป็นอย่างไรจะเป็นอย่างนั้นอาจจะเปลี่ยนไป เพราะทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงเราต้องปรับเปลี่ยนไปตามการเปลี่ยนแปลง และผมเชื่อว่าประเทศไทยไม่เคยสิ้นคนดี
นัดหยุดเทรด 20 พ.ย.นี้
สำหรับกรณีที่มีนักลงทุนนัดหยุดเทรดในวันที่ 20 พ.ย.66นั้น อยากบอกว่าปัจจัยต่างๆที่นักลงทุนมีความกังวล ตลาดหลักทรัพย์ฯก็มีความกังวลเช่นเดียวกันว่าตลาดหุ้นมีประสิทธิภาพพอหรือไม่ สามารถแข่งขันได้หรือไม่ หรือเป็นตลาดที่ทำให้เกิด fair game ได้หรือไม่
ซึ่งก็ขอยืนยันว่า ทุกอย่างที่ตลาดหลักทรัพย์ฯดำเนินการได้ตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้เสมอ แต่โลกมีการเปลี่ยนแปลงตลอด เทคโนโลยี วิธีการทำงานต่างๆหากทำแบบเดิมอาจไม่ได้ผล ต้องมีการปรับตัวให้สอดคล้องกับสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น
แต่อยากให้เชื่อมั่นว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯและ ก.ล.ต.ทำงานร่วมกันเพื่อให้ตลาด fair game ที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตลาดมีข้อมูลที่ดีที่สุด ให้นักลงทุนไม่ถูกเอาเปรียบ
"สิ่งที่ ตลท.อยากให้มีความมั่นใจคือเราพยายามกำกับดูแลให้นักลงทุนทุกประเภทให้เสมอภาพ สิ่งที่่ท่านได้รับฟังหรือเกิดความสงสัยอยากให้ฝาก Call Center 02-009-9999 มาให้เราวิเคราะห์ เราพร้อมตอบชัดเจนเพื่อสร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้น อยากให้ส่งข้อมูลหรือประเด็นมา"


