posttoday

FETCO หารือนายกฯ กลาง พ.ย.นี้ ฟื้น LTF-ต่ออายุ SSF ปรับเงื่อนไขเวลาถือครอง

08 พฤศจิกายน 2566

FETCO หารือนายกฯ กลาง พ.ย.นี้ หนุนตั้ง LTF และต่ออายุ SSF พร้อมปรับเงื่อนไขเวลาถือครองต่ำกว่า 10 ปีเพื่อให้ประชาชนตัดสินใจลงทุนง่ายขึ้น รวมถึงตั้งกองทุนหุ้นยั่งยืน กองทุนเน้นหุ้น ESG

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยว่า FETCO จะเข้าพบ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในช่วงกลางเดือน พ.ย.2566 โดยประเด็นที่จะหารือในเบื้องต้น ประกอบด้วย 1.การผลักดันให้มีการจัดตั้งกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long-Term Equity Funds : LTF) 

2.การต่ออายุกองทุนรวมเพื่อการออม (Super Saving Funds : SSF) ที่จะหมดอายุลงในปี 2567 ซึ่งปัจจุบันรัฐให้สิทธิลดหย่อนภาษีผ่าน SSF ได้ตั้งแต่ปี 2563-2567 เท่านั้น พร้อมปรับเงื่อนไขให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น อาทิ การลดระยะเวลาการถือครองหน่วยลงทุนให้สั้นลง จากปัจจุบันที่ต้องถือหน่วยลงทุนครบ 10 ปีแบบวันชนวัน แต่ไม่จำเป็นต้องซื้อต่อเนื่อง 

ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนตัดสินใจลงทุนง่ายขึ้น เพราะที่ผ่านมายอดซื้อกองทุน SSF มีไม่มากนัก หากเทียบกับ LTF ที่เคยได้รับความนิยมอย่างมากจากการกำหนดเวลาถือครอง 5 ปีปฏิทินในช่วงแรก และแม้ว่าภายหลังจะขยายเป็น 7 ปีปฏิทินก็ตาม

นอกจากนี้ จะขอให้ภาครัฐสนับสนุนการจัดตั้งกองทุนใหม่ๆ ที่จะเป็นแหล่งเงินทุนระยะยาวเข้ามาในตลาดหลักทรัพย์ฯ อาทิ กองทุนหุ้นยั่งยืน (Sustainability Fund) กองทุนที่เน้นหุ้น ESG ที่สอดคล้องกับนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการช่วยผู้ประกอบการรายเล็ก ทำอย่างไรให้ตลาดทุนเข้ามามีส่วนช่วยสร้างประโยชน์ทั้งต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม 

“การลงทุนจะไม่ใช่เพียงลงทุนหุ้นอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงหุ้นกู้ Sustainability Bond หรือการลงทุนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน โดยจะเปิดโอกาสให้เด็กลงทุนได้ หรือลงทุนเพื่อการศึกษา รวมถึงผู้สูงวัย ทั้งนี้จะขอให้ภาครัฐให้สิทธิพิเศษจูงใจผู้ลงทุน อาทิการนำเงินลงทุนมาขอลดหย่อนภาษี เป็นต้น” นายกอบศักดิ์ กล่าว 

รวมไปถึงจะนำปัญหาความเสียหายในตลาดหุ้น จากกรณีที่เกิดขึ้นกับหุ้น บริษัท สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK และหุ้น บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE ไปหารือกับนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ด้วย เพื่อวางแนวทางการแก้ไขปัญหาเหล่านี้

นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยผันผวนหลุด 1,400 จุด เมื่อช่วงปลายเดือน ต.ค.2566 ดัชนีต่ำสุดในรอบ 3 ปี ปรับตัวลงแรงกว่าตลาดหุ้นที่อื่น ส่วนหนึ่งเพราะตลาดหุ้นไทยขาดกองทุนระยะยาว Long-Term Equity Funds จึงเป็นจังหวะที่ควรผลักดันให้เกิดกองทุนประเภทนี้ขึ้น