สายย่อรอเด้ง! SETไร้ข่าวดี-กราฟ Oversold ลุ้นเด้งสั้น เชียร์ 5 หุ้นกระแสดี

ไร้ข่าวดีหนุน

     ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ตลาดหุ้นวานนี้ SET Index ร่วง 15 จุด (-1%) ปิดที่ระดับ 1,482 จุด ดัชนีผันผวนแรงในช่วงท้ายตลาดคาดเป็นผลจากการเปลี่ยนซีรีย์ในกระดาน TFEX ซึ่งจะยึดเอาวันทำการ 1 วัน ก่อนวันซื้อขายสุดท้ายของไตรมาสในการปิดหรือเปลี่ยนสัญญา

     แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ ประเมิน SET อ่อนตัว 1,475 / 1,470 จุด เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่สนับสนุน อีกทั้งภาวะตลาดยังคงถูกแรงกดดันจากความกังวล FED คงดอกเบี้ยระดับสูงเพื่อสกัดเงินเฟ้อ, ความเสี่ยง Shutdown ของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐที่จะครบกำหนด 30 ก.ย. และราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงซึ่งเป็นลบต่อทิศทาง Fund flow 

กราฟ Oversold
     อย่างไรก็ ตามคาดว่าดัชนีจะสลับรีบาวด์ขึ้นได้จากภาวะ Oversold ตามสัญญาณเทคนิค โดยกราฟ SET เป็นแนวโน้มขาลง ล่าสุดยังทรุดตัวลงปิดใต้เส้น EMA 10 วันต่อเนื่อง ประกอบกับเครื่องมือ MACD + RSI ทิ้งตัวลงให้สัญญาณลบกดดันต่อทิศทางดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะอ่อนตัวแนวรับ 1,470 / 1,475 จุด อย่างไรก็ตามการที่ RSI เข้าเขต Oversold จึงแนะนำซื้อเล่นรีบาวด์ Cut loss หากดัชนีหลุด 1,470 จุด 

กลยุทธ์การลงทุน: Selvectie buy
     TU ITC AAI ASIAN CFRESH MEGA KCE HANA อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า
     ADVANC INTUCH BEM BTS BDMS BCH กลุ่ม Defensive ช่วงตลาดพักตัว

ช้อป BDMS-TKN

     หุ้นแนะนำวันนี้ คือ BDMS (ปิด 26.50 ซื้อ/เป้า 37 บาท) คาดกำไรจากการดำเนินงานจะพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 3.7 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 19%qoq จากการ เพิ่มขึ้นทั้งผู้ป่วยในและต่างประเทศโดยเฉพาะผู้ป่วยในได้ผลบวกจากการระบาดของโรคต่างๆ อาทิ ไข้เลือกออก, RSV และมือเท้าปากในเด็ก

     TKN (ปิด 12.90 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 15 บาท) เป็นอีกหนึ่งหลักทรัพย์ ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนโดยก่อน Covid-19 TKN มีสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวจีนประมาณ 20-
25%

ประเด็นสำคัญวันนี้
     (+/-) เจอโรม พาวเวล ไม่ได้ส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ย: การประชุมแบบทาวน์ฮอลล์ร่วมกับบรรดานักวิชาการ นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณใดๆเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย โดยกล่าวเพียงว่า การทำให้สาธารณชนมีความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทและภารกิจของเฟดนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะเฟดจะให้ข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจด้านการใช้จ่ายและการลงทุนทั้งในวันนี้และในอีกหลายเดือนข้างหน้า
     (+/-) คืนนี้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อ (PCE) ของสหรัฐเพื่อจับสัญญาณดอกเบี้ยของเฟด: เบื้องต้น Consensus คาด Headline PCE จะเพิ่มขึ้นเป็น 3.5% จาก 3.3% ในเดือน ส.ค. และ Core PCE จะลดลงแตะระดับ 3.9% จาก 4.2% ในเดือน ส.ค. (หากตัวเลขลดลงและต่ำกว่าที่ตลาดคาดจะเป็นบวกต่อ Sentiment การลงทุน)
     (+/-) จับตารัฐสภาสหรัฐแก้ปัญหา US Shutdown มีกำหนด Deadline 30 ก.ย.นี้: สภาคองเกรส (สภาผู้แทนฯ + วุฒิสภา) สหรัฐจะต้องผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวให้ทันและส่งต่อให้ประธานธิบดี โจ ไบเดน ลงนามเป็นกฏหมายภายใน วันที่ 30 ก.ย.นี้ ไม่เช่นนั้นสหรัฐจะต้องปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐบางส่วน (US Shutdown) ในวันที่ 1 ต.ค.นี้เป็นต้นไป

 

ชู AOT - BANPU - HANA

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุว่า เมื่อวานตลาดหุ้นไทยปรับลดลงแรง ทั้งนี้ในเชิงกลยุทธ์มองว่า ระดับปัจจุบันถือเป็นจุดที่น่าสนใจในการทยอยเพิ่มน้ำหนักการลงทุนโดยให้จุดจำกัดความเสี่ยงของ Set Index ที่ 1,475 จุด และ SET50I ที่ 905 จุด  

     ในเชิงกลยุทธ์ยังแนะนำให้ทยอยสะสม 1) หุ้นอิงการท่องเที่ยว ได้ผลบวกจากภาคการท่องเที่ยวไทยที่กลับมาคึกคัก หลัง ครม.มีมติให้นักท่องเที่ยวจากจีนและคาซัคสถานสามารถเดินทางมาไทยได้โดยไม่ต้องขอ visa ถึงสิ้นเดือน ก.พ. 67 เป็นบวกต่อ AAV, AOT, BA, CPALL, ERW 

     2) หุ้นกลุ่มที่คาดได้ประโยชน์จากนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ จากการปรับลดอัตราค่าไฟฟ้า และราคาน้ำมันดีเซล เรายังชอบ ADVANC, CPALL, SJWD 

     สำหรับวันนี้ตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยขับเคลื่อนราคาที่น่าสนใจติดตามหลายประเด็น ดังนี้ 1)คาดหุ้นกลุ่มส่งออกจะฟื้นตัวได้ต่อ หลังค่าเงินบาทอ่อนค่าใกล้ 36.6 Baht/USD ประกอบกับ ธปท. ปรับประมาณการการเติบโตของภาคส่งออกในปีหน้าขึ้น ชอบ ITC, HANA, TU 

     2)เริ่มเข้าสู่วันแรกของช่วง Golden week ซึ่งเป็นวันหยุดยาวฉลองวันชาติของประเทศจีน (29 ก.ย.-6 ต.ค.)ประกอบกับมาตรการยกเว้น visa ให้นักท่องเที่ยวจีนของรัฐบาลชุดใหม่ คาดช่วยหนุนให้นักท่องเที่ยวจีนเข้ามามากในช่วงนี้ หุ้นที่คาดได้ประโยชน์ เช่น AAV, AOT, BA, CPALL, ERW

     3)ติดตามอัตราเงินเฟ้อ (PCE) ของสหรัฐฯ โดยตลาดคาด Core PCE ขยายตัว +3.9%YoY 

Stock Thematics

     AOT ราคาเป้าหมาย 84 บาท แนะนำ “ซื้อ” เริ่มพลิกกลับมากำไรตั้งแต่ 1Q66 (ต.ค.-ธ.ค.) ขณะ 2Q66 (ม.ค.-มี.ค.) ฟื้นตัวเด่น +442%QoQ ตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวทั่วโลก และกำไร 3Q66 (เม.ย.-มิ.ย.) ฟื้นตัวต่อเนื่องอีก +70%QoQ จากทั้งการฟื้นตัวที่ชัดเจนของภาคการท่องเที่ยว บวกกับส่วนแบ่งรายได้ duty fee เพิ่มขึ้น ตามจำนวนนักท่องเที่ยว คาด 4Q66F (ก.ค.-ก.ย.) ยังโต YoY ต่อเนื่อง 

     BANPU ราคาเป้าหมาย 9.2 บาท แนะนำ “ซื้อ” คาดกำไร 3Q66F ฟื้นตัว QoQ ตามปริมาณการผลิตถ่านหินที่เพิ่มขึ้น แต่ต้นทุนการผลิตลดลง บวกกับ 4Q66F เข้าสู่ช่วง High season หนุนความต้องการและกำไรบริษัทฟื้นต่อเนื่อง อีกทั้งในเชิงกลยุทธ์มองว่าราคาหุ้นได้ลงมาตอบรับการแปลงสิทธิ์ BANPU-W5 ไปมากแล้ว มองเป็นจังหวะเข้าซื้อลงทุน  

     HANA ราคาเป้าหมาย 65 บาท แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” คาดราคาหุ้นมีโอกาสฟื้นได้ต่อ จากผลการดำเนินงานที่น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และจะทยอยฟื้นตัวได้ตามธุรกิจที่เป็นลูกค้าของบริษัท ประกอบกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่า และ ธปท. ปรับประมาณการการเติบโตของมูลค่าการส่งออกในปีหน้าขึ้น