JKN ร่วงอีก 27.65% แม้แถลงข่าวยันชำระคืนหุ้นกู้ได้ในปีนี้ ไม่กระทบรุ่นอื่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN วันนี้ (1 ก.ย.) ล่าสุด เวลา 14.29 น. ปรับลดลง 27.65% หรือลดลง 0.47 บาท มาอยู่ที่ 1.23 บาท มูลค่าซื้อขาย 280.09 ล้านบาท ราคาปรับตัวขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 1.36 บาท และปรับตัวลงไปทำระดับต่ำสุดที่ 1.23 บาท

ราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากวานนี้ (31 ส.ค.) ที่ปรับตัวลดลง 28.57% หรือลดลง 0.68 บาท มาปิดอยู่ที่ 1.70 บาท มูลค่าซื้อขาย 340.62 ล้านบาท 

หลังจาก JKN แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ตามที่หุ้นกู้ของบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 2/2563 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2566 (หุ้นกู้รุ่น JKN239A) ถึงวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ในวันที่ 1 ก.ย.2566 จำนวนเงินต้นและดอกเบี้ยทั้งสิ้น 609,981,369.86 บาท 

อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่สามารถชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ในวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ดังกล่าวได้ เนื่องจากการบริหารจัดการสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้ แม้ว่าบริษัทจะได้พิจารณาสรรหาแหล่งเงินทุนหลากหลายวิธีการแล้ว 

ประกอบกับการเจรจากับผู้ร่วมทุนของบริษัทไม่เป็นไปตามที่บริษัทคาดหวัง โดยการเจรจาได้มีข้อสรุปเป็นไปในทางลบในช่วงระยะเวลาที่ใกล้ถึงวันครบกําหนดไถ่ถอนหุ้นกู้รุ่น JKN239A อย่างมาก ทําให้บริษัทต้องพิจารณาแผนการชําระเงินและการบริหารสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทอีกครั้ง เพื่อประโยชน์ของบริษัท และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย

โดยบริษัทจะชำระเงินต้นบางส่วนจำนวน 148,050,000 บาท และดอกเบี้ยจำนวน 9,981,369.86 บาท รวม 158,031,369.86บาท ในวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ (1 ก.ย.2566) โดยคงเหลือยอดค้างชำระจำนวน 451,950,000 บาท จึงไม่เป็นไปตามข้อกำหนดว่าด้วยสิทธิและหน้าที่ของผู้ออกหุ้นกู้และผู้ถือหุ้นกู้ สำหรับหุ้นกู้ของบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 2/2563 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2566 ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนก่อนครบกำหนดไถ่ถอน ภายใต้โครงการตราสารหนี้ (Medium Term Note Program) ปี พ.ศ. 2563 วงเงินหุ้นกู้ทั้งสิ้นไม่เกิน 2,500,000,000 บาท ณ ขณะใดขณะหนึ่ง (Revolving Basis) (ซึ่งรวมถึงการเพิ่มวงเงินเสนอขาย (ถ้ามี) ที่ได้มีการเปิดเผยเพิ่มเติมในแบบ 69-Supplement) (ข้อกำหนดสิทธิ) 

ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวข้างต้น ยังไม่ส่งผลให้บริษัทต้องชําระหนี้ตาม หุ้นกู้รุ่น JKN239A โดยพลัน ซึ่งตามข้อกําหนดสิทธิกําหนดว่า เมื่อเกิดกรณีการไม่ชําระหนี้ตามหุ้นกู้ดังกล่าวจะต้องมีการดําเนินการตามที่กําหนดในข้อกําหนดสิทธิก่อน (1) ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ใช้ดุลยพินิจของตนพิจารณาเรียกร้องให้ผู้ออกหุ้นกู้ชําระหนี้ตามหุ้นกู้ (2) ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ได้รับการร้องขอเป็นหนังสือจากผู้ถือหุ้นกู้ไม่ว่ารายเดียวหรือหลายรายที่ถือหุ้นกู้หรือถือหุ้นกู้รวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของหุ้นกู้ที่ยังไม่ได้ไถ่ถอนทั้งหมด หรือ (3) ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ได้รับมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ให้ถือว่าบริษัทตกเป็นผู้ผิดนัดชําระหนี้และให้หุ้นกู้ถึงกําหนดชําระโดยพลัน

ในการนี้ บริษัทได้จัดเตรียมแผนการชําระหนี้ตามหุ้นกู้รุ่น JKN239A โดยบริษัทจะจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้รุ่น JKN239A และจะนําเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้รุ่น JKN239A ที่คาดว่าจะจัดขึ้นภายในวันที่ 29 กันยายน 2566 ต่อไป เพื่อให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้พิจารณาอนุมัติ (1) แผนการชําระเงินต้น และดอกเบี้ยหุ้นกู้การแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกําหนดสิทธิ รวมถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้อง 

และ (2) การขอผ่อนผันให้การผิดนัดชําระเงินต้นและดอกเบี้ยครั้งนี้ไม่ถือเป็นเหตุผิดนัดตาข้อกําหนดสิทธิ และ ไม่เรียกชําระหนี้ตามหุ้นกู้โดยพลัน (Call Default) หากได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ บริษัทเชื่อมั่นว่า บริษัทจะสามารถเสนอเงื่อนไขในการชําระเงินต้น และดอกเบี้ยตามแผนที่กําหนดไว้ได้

ทั้งนี้ บริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจถึงการผิดนัดชําระเงินต้น ดังกล่าว และบริษัทยืนยันและรับรองว่า บริษัทมีความตั้งใจและขอให้ความเชื่อมั่นว่าบริษัทมีเจตนาที่จะชําระคืนเงินต้น และดอกเบี้ยทั้งหมดของหุ้นกู้รุ่น JKN239A รวมถึงหุ้นกู้ใดๆ ของบริษัททั้งหมด โดยบริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อกําหนดว่าด้วยสิทธิและหน้าที่ของผู้ออกหุ้นกู้และผู้ถือหุ้นกู้ของหุ้นกู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงข้อกําหนดในสัญญาทางการเงิน หรือสัญญาใดๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างถี่ถ้วน และ หากการประชุมผู้ถือหุ้นกู้รุ่น JKN239A มีมติเป็นอย่างใดบริษัทจะแจ้งให้ทราบ รวมถึงพิจารณาผลกระทบของมติดังกล่าวที่เกี่ยวข้องต่อไป

แม้ว่า ล่าสุดในวันนี้ (1 ก.ย.) คุณจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ JKN จะออกมาแถลงข่าวว่า บริษัทมีเจตนาและความจริงใจที่จะชำระคืนหุ้นกู้และดอกเบี้ยเต็มจำนวนให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ทุกราย โดยมั่นใจว่าบริษัทจะมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ และสามารถชำระคืนหุ้นกู้ได้ภายในปี 2566 ซึ่งหุ้นกู้ JKN239A แค่เป็นการเลื่อนวันจ่ายออกไปจากกำหนดไถ่ถอนเดิมเท่านั้น และไม่ส่งผลกระทบต่อหุ้นกู้รุ่นอื่นๆ ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนต่อไป   

ทั้งนี้ เนื่องจากเชื่อมั่นในธุรกิจของบริษัท โดยแผนงานครึ่งปีหลัง จะเห็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของ JKN จากแผนงานขยายกลุ่มธุรกิจ MUO ไปสู่ผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ภายใต้กลยุทธ์ 3P: Pageant Platform Product ผ่านโมเดลธุรกิจที่หลากหลาย เช่น การร่วมมือกับพันธมิตร หรือการให้สิทธิใช้แบรนด์มิสยูนิเวิร์สที่ได้รับค่าตอบแทนจากการให้สิทธิ ช่วยสร้างการเติบโตและมีรายได้ประจำและสม่ำเสมอ

โดยในไตรมาส 4/2566 บริษัทจะทยอยรับรู้รายได้จากการเก็บค่าลิขสิทธิ์การประกวดมิสยูนิเวิร์ส จากทั่วโลกและค่าตั๋วเข้าชม ซึ่งบริษัทจะรับรู้รายได้ค่าลิขสิทธิ์การจัดประกวด Miss Universe (MUO) ประมาณ 400 ล้านบาท และจะมีรายได้จากการส่วนแบ่งค่าโฆษณาและสปอนเซอร์ชิพ การจำหน่ายบัตรชมงานอีกด้วย ซึ่งเมื่อนำมารวมกับรายได้หลักจากการจำหน่ายคอนเทนท์ที่ยังเติบโตได้ดี 
 
“มิสยูนิเวิร์ส เป็นแบรนด์เก่าแก่ที่ทรงพลังและได้รับการยอมรับจากคนทั่วโลก สามารถต่อยอดไปสู่ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพระดับพรีเมียม กลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์แอนด์สปา และทัวร์ท่องเที่ยว Inbound-outbound เพื่อทำตลาดไปทั่วโลก โดยคาดว่าเริ่มทำตลาดได้ในช่วงไตรมาส 3 และ 4 นอกจากนี้ จะมีรายได้จากการจัดการประกวดมิสยูนิเวิร์สครั้งที่ 72 ที่จะเกิดขึ้นในไตรมาส 4/2566 อีกด้วย จึงมั่นใจว่าเป้าหมายการเติบโตปีนี้จะทำได้มากกว่า 3,000 ล้านบาทตามแผนที่วางไว้” คุณจักรพงษ์ กล่าว 

หลังจากในช่วงครึ่งแรกปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 1,500 ล้านบาท เติบโต 51% และมีกำไรสุทธิ 102 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากช่วงเดียวกันปีก่อน