posttoday

SET รับเซนติเมนต์ลบจากธนาคารสหรัฐถูกลดอันดับเครดิต

09 สิงหาคม 2566

SET รับเซนติเมนต์ลบจากธนาคารสหรัฐถูกลดอันดับเครดิต กดดันดัชนีฟื้นตัวจำกัด กลยุทธ์การลงทุน “Selective Buy” แนะนำ PTT และ SPALI

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า SET ปิดต่ำกว่าแนวรับ 1,520 จุด สร้างสัญญาณลบทางเทคนิค และ sentiment ลบ จากธนาคารสหรัฐถูกลดอันดับเครดิต เป็นปัจจัยกดดันดัชนีปรับลงได้ต่อ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,510 และ 1,500 จุด ตามลำดับ ด้านการฟื้นตัวกูกจำกัดที่แนวต้าน 1,530 และ 1,540 จุด หากกลับมาขึ้นทะลุผ่านได้จะเป็นสัญญาณบวกต่อการรีบาวด์

ทั้งนี้ มอง SET ยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ เนี่องจากรอความชัดเจนของการจัดตั้งรัฐบาลใหม่และติดตามการเข้าสู่ฤดูกาลประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 ของบริษัทจดทะเบียนไทย ในกลุ่ม Real Sector ท่ามกลางการคาดการณ์ตัวเลขเงินเฟ้อที่จะชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้า 

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศของตลาดยังรอจับตาตัวเลขเศรษฐกิจจีนและสหรัฐต่างๆ รวมทั้งผลการดำเนินงานไตรมาส2/2566 ที่จะออกมา ชค่งคาดมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ช้าในช่วงครึ่งหลังปี 2566 กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ "Selective Buy" ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้

1) หุ้นที่คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 จะยังเติบโตได้ดี YoY และ QoQ เลือก ADVANC (Defensive) BEM (Defensive) GULF (ราคาต่ำกว่าก่อนเลือกตั้ง)

2) เก็งกำไรหุ้นที่คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 มีโอกาสดีกว่าตลาดคาด เลือก AOT (เป็นไตรมาสแรก กลับมาเก็บ minimum guarantee) MINT (NHH ประกาศงบเป็น record high) 

3) หุ้นที่งบไตรมาส 2/2566 ออกมาแล้ว และคาดงบจะดีต่อในช่วงไตรมาส 3/2566 เลือก SCGP (High Season ของธุรกิจบรรจุภัณฑ์)

ขณะที่ช่วงสั้นแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนสำหรับ 1) หุ้นที่คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 จะออกมาอ่อนแอและมีโอกาสตลาดจะปรับลดประมาณการ อาทิ กลุ่มอาหาร (TU CPF GFPT BTG) และกลุ่มหลักทรัพย์ (ASP, MST) 

และ 2) หุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนิโญจากกำลังซื้อภาคเกษตรที่ลดลง ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์(GLOBAL) กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG มีต้นทุนนํ้าตาลสูง) กลุ่มโรงไฟฟ้าพลังน้ำ (CKP) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT)

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ PTT มอง Valuation ไม่แพงที่ PBV 0.9 เท่า และ PE 9.4 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ย 10 ปี ที่1.3 เท่า และ 14.6 เท่า ตามลำดับ อีกทั้งราคาหุ้นผันผวนน้อยกว่าตลาด และคาดมีการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอจากฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดยคาดให้ Div. Yield จูงใจที่ระดับ 5.8%

SPALI ไตรมาส 2/2566 มีกำไรสุทธิ 1.7 พันล้านบาท สูงกว่าเราและตลาดคาด เนื่องจากรายได้อื่นที่เกี่ยวข้องกับโครงการในออสเตรเลียดีกว่าคาด พร้อมประกาศจ่ายบินผลระหว่างกาล 0.7 บาท (XD 22 ส.ค.) คิดเป็น Div. Yield 3.4% แนะนำชื่อเล่นสั้นในราคาไม่เกิน 20.6 บาท

ข่าวล่าสุด

3 ชาติผนึกกำลังทลาย 'KK Park - ชเวก๊กโก' รังใหญ่ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์"