posttoday

ไม่รอด! I2 ปิดเทรดวันแรก 2.50 บาท ต่ำจอง 7.41%

08 สิงหาคม 2566

I2 ปิดเทรดวันแรก 2.50 บาท วูบ 7.41% จากราคาไอพีโอ 2.70 บาท พบบิ๊กล็อต 18 ล้านหุ้น ราคา 2.70 บาท รวม 48.60 ล้านบาท ขายให้กลุ่ม MFEC เพื่อรักษาสัดส่วนถือหุ้นเท่าเดิม 15% เป็นไปตามแผนไฟลิ่ง ฟาก “ผู้บริหาร” ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 15% แย้มเจรจาซื้อกิจการ ลุ้นปิดดีลครึ่งปีหลัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ I2 เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) วันนี้ (8 ส.ค.2566) เป็นวันแรก ในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

โดยเปิดซื้อขายที่ราคา 3.12 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 0.42 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 15.56% จากราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ที่ราคา 2.70 บาท ระหว่างวันปรับตัวขึ้นไปทำราคาสูงสุดที่ 3.20 บาท ปรับตัวต่ำสุดที่ 2.50 บาท และปิดซื้อขายที่ราคา 2.50 บาท ปรับลดลง 0.20 บาท หรือคิดเป็นลดลง 7.41% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 718.57 ล้านบาท  

ทั้งนี้ วันนี้ (8 ส.ค.) ข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้รายงานการซื้อขายผ่านกระดานซื้อขายหลักทรัพย์รายใหญ่ (Big Lot) หุ้น I2 พบ 4 รายการ รวมจำนวน 18 ล้านหุ้น ในราคาเฉลี่ย 2.70 บาท/หุ้น คิดเป็นมูลค่ารวม 48.60 ล้านบาท

สำหรับรายการขาย Big Lot ดังกล่าว มีรายงานจากข้อมูลที่ I2 ได้ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ระบุว่า ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนในครั้งนี้ นางอัญชลี แก้วบรรพต, นายอธิพร ลิ่มเจริญ, นายไพฑูรย์ ประมวลชัยกุล และนายยุทธชัย ทูลพันธ์ 

โดยผู้ถือหุ้นเดิมทั้ง 4 รายดังกล่าว จะดำเนินการขายหุ้นที่ถืออยู่รวมกันจำนวน 18 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 4.29% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท บนกระดานซื้อขายรายใหญ่ (Big-Lot Board) ในราคา IPO ณ วันที่หุ้นของบริษัทเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นวันแรก ให้แก่ บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFEC เพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้นของ MFEC ที่ 15% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท 

ซึ่ง MFEC ได้กำหนดให้ บริษัท ซินเนอร์ยี่ กรุ๊ป เวนเจอร์ส จำกัด (SGV) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ MFEC ถือหุ้น 100% เป็นบุคคลเข้าทำธุรกรรมจะซื้อหุ้น จำนวน 18 ล้านหุ้นของบริษัท จากผู้ถือหุ้นเดิมดังกล่าวแทน MFEC 

นายอธิพร ลิ่มเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ I2 เปิดเผยว่า บริษทเตรียมนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ไปใช้สำหรับการขยายธุรกิจด้านพลังงาน และดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น รวมไปถึงการเข้าซื้อกิจการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาและเจรจารการเข้าซื้อกิจการอยู่หลายราย โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนอย่างน้อย 1 ดีล ภายในช่วงที่เหลือของปี 2566 เพื่อสร้าง New S Curve และเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ (Recurring Income) สนับสนุนธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต

ส่วนแผนการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 15% จากปีก่อน ที่มีรายได้อยู่ที่ 943.38 ล้านบาท โดยในไตรมาส 1/2566 บริษัทมีรายได้แล้ว 300.81 ล้านบาท และเชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากแผนงานที่วางไว้ในการขยายธุรกิจใหม่ และงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) ที่มีกว่า 2,500 ล้านบาท ที่จะทยอยส่งมอบและรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการสร้างสถิติสูงสุดใหม่นับตั้งแต่จัดตั้งบริษัท 

หลังจากล่าสุด เมื่อวันที่ 7 ส.ค.2566 กิจการค้าร่วมไอทูวาร์ (I2 กับ บริษัท วี เอ อาร์ เอส จำกัด) ได้ร่วมลงนามสัญญาจ้าง โครงการจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System : BESS) บนพื้นที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี กับ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โดยมีมูลค่าโครงการรวม 1,541.28 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) 

นอกจากนี้ การมี MFEC เป็น Strategic Partner จะยิ่งทำให้บริษัทมีความแข็งแกร่ง และเพิ่มโอกาสในการเข้ารับงานใหม่ๆ ในอนาคต สนับสนุนให้แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

นายพายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ที่ปรึกษาทางการเงินร่วมและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของ I2 ในช่วงที่ผ่านมาเติบโตสูงกว่าอุตสาหกรรม และเงินที่ได้จากการขายไอพีโอในครั้งนี้ วัตถุประสงค์หลักในการใช้เงินส่วนใหญ่คือนำไปใช้ขยายธุรกิจ เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต ทำให้มั่นใจว่า I2 จะเป็นหุ้น Hybrid ที่ผสมผสานกันระหว่าง Growth Stock และ Dividend Stock 

นางสาวมนวลัย รัชตกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส 14 แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า อีกจุดเด่นที่ทำให้หุ้น I2 คือการดำเนินธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร ซึ่งอยู่ในเมกะเทรนด์ สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาประเทศไทย อีกทั้งภายหลังจากได้รับเงินจากการขายหุ้นไอพีโอ บริษัทมีแผนลงทุนขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในส่วนธุรกิจโซลูชั่นด้านการจัดการและประหยัดพลังงาน (Energy) เพิ่มเติม ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูง กำลังเป็นที่ต้องการของกลุ่มลูกค้า เพิ่มโอกาสการรับงานในอนาคต ผลักดันแนวโน้มผลการดำเนินงานเติบโตอย่างก้าวกระโดด

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์ชู 3 แกนพัฒนาคน รับรางวัล HR Leader for Social Impact 2025