ผ่าเกมหุ้นไทย ฝ่าด่านการเมือง เคาะโหวตนายกฯรอบ2 รุ่ง รึ ร่วง ?
เกมการเมืองเริ่มใกล้บทสรุป จับตาเคาะโหวตนายกฯรอบสอง 19 ก.ค.นี้ โบรกส่องเกมหุ้นไทย รอด รึ ร่วง ? ย้ำชัดหุ้นการเมือง ฟื้น-ไม่ฟื้น ?
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการบริการการลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความคืบหน้าการเมืองสุดสัปดาห์หลักๆ คือ 1) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสถายืนยันประชุมโหวตนายกฯ ครั้งต่อไป 19 ก.ค. แต่ไม่มีข้อสรุปว่าจะเป็นการชื่อ 'พิธา' รอบที่ 2 ได้หรือไม่ หลังโหวตไม่ผ่านรอบแรก
2) ส.ส.พรรคก้าวไกลลงชื่อตามรัฐธรรมนูญ เพื่อยื่นร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่เสนอให้ยกเลิก ม.272 ที่ให้ ส.ว.โหวตนายกเป็นการชั่วคราว แก้ไขเพื่อคืนอำนาจในการเลือกนายกฯ กับประชาชน
และ 3) คุณพิธาฯหัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ส่งสัญญาณเปิดทางให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หากยังไม่ได้รับการโหวตวันที่ 19 ก.ค.นี้ โดยก่อนจะถึงวันโหวตจะพยายามส่งสารถึง ส.ว. ทุกวิธี ให้โหวตนายกฯ ตามมติประชาชน
ฝ่ายฯมองจุดที่ยังต้องติดตาม คือ 1) ท่าทีพรรคร่วมรัฐบาลที่จะประชุมกันอีกครั้งพรุ่งนี้ (18 ก.ค.66) และ 2) การเมืองนอกสภา (การชุมนุมช่วงสุดสัปดาห์ยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย) ทั้งนี้ ด้วยทิศทางดังกล่าว ทั้ง ส.ว. ส่วนใหญ่ที่ยังสงวนท่าทีและการแก้ไขมาตรา 272 ที่พรรคร่วทฯบางส่วนไม่เห็นด้วย รวมถึงยังต้องใช้เสียงโหวต ส.ว. ราว 1 ใน 3 จาก 250 ท่าน
โดยฝ่ายฯเชื่อว่าตลาดน่าจะมองโอกาสที่แกนนำตั้งรัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทยเพิ่มขึ้น เชิงกลยุทธ์มองหุ้นที่ปรับฐานจากจิตวิทยาลบการเมืองไม่ชัดเจนทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง อาทิ GULF, CRC, CPALL, BJC, CPAXT, PTTGC, TRUE, THCOM ระยะสั้นมองเน้น GULF, PTTGC, THCOM
เปิด 4 เคสการเมือง
ทั้งนี้ เรายังคงมองฉากทัศน์การเมืองเป็นไปได้ 4 กรณี คือ กรณีที่ 1 คือ คุณพิธาฯ ได้รับการโหวตเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล บวก 8 พรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันจะจัดตั้งรัฐบาล 311 เสียง มองความชัดเจนหนุน SET แต่ความเสี่ยงนโยบายต่อตลาดทุนระยะกลางเป็นอะไรที่ต้องติดตาม และอาจจำกัดกรอบราว 1600-1620จุด
กลุ่มเคลื่อนไหวดีกว่าตลาด คือ กลุ่มหุ้นอิงการบริโภคขนาดกลางอิงรากฐานแข็งแรงขึ้น บวกได้ประโยชน์รัฐสวัสดิการ และนโยบายอื่นๆของพรรคก้าวไกล อาทิ CPAXT, ICHI, MC, GLOBAL, BCH, CHG, HANA, AMATA, WHA, BBL, KTB, TTB กลุ่มที่เป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจปัจจุบันในภาคท่องเที่ยว อาทิ ERW, MINT
กรณีที่ 2 คือ คุณพิธาฯไม่ได้รับการโหวตเป็นนายกฯ ขณะที่พรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นแกนนำแทนและยังตั้งรัฐบาลกับ 8 พรรคร่วมปัจจุบัน 311 เสียง มองความชัดเจนหนุน SET แต่ความเสี่ยงนโยบายต่อตลาดทุนระยะกลางจะต่ำกว่ากรณีที่ 1 จะทำให้แกว่งขึ้นกรอบราว 1680-1720 จุด
กลุ่มเคลื่อนไหวดีกว่าตลาด คือ กลุ่มพลังงาน (PTT, PTTGC, GULF, BGRIM) กลุ่มสื่อสาร (ADVANC, TRUE, THCOM) กลุ่มอสังหาฯ (SC, SIRI)
และหากไม่เกิดการชุมนุมที่มีความรุนแรง กลุ่มที่เคลื่อนไหวบวกตามมากลุ่มอิงการบริโภคภายใน คือ กลุ่มธนาคาร (BBL, KTB, TTB) กลุ่มค้าปลีก (CPALL, CPAXT, CRC, BJC, DOHOME, GLOBAL) กลุ่มนิคม (AMATA, WHA) กลุ่มท่องเที่ยว (AOT, ERW, MINT)
กรณีที่ 3 คือ คุณพิธาฯไม่ได้รับการโหวตเป็นนายกฯ ขณะที่พรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นแกนนำแทน ขณะที่พลิกขั้วไปจับพรรคว่าที่ฝ่ายค้าน ประเมินเสียงราว 280-310 เสียง มองความชัดเจนหนุน SET แต่ความเสี่ยงนโยบายต่อตลาดทุนระยะกลางจะต่ำกว่ากรณีที่ 1 จะทำให้แกว่งขึ้นกรอบราว 1620-1680 จุด
กลุ่มเคลื่อนไหวดีกว่าตลาด คือ กลุ่มพลังงาน (PTT, PTTGC, GULF, BGRIM, PTTGC) กลุ่มสื่อสาร (ADVANC, TRUE, THCOM) กลุ่มรับเหมาฯ (ITD, STEC)
แต่ความเสี่ยงการชุมนุมที่อาจจะเกิดขึ้นมีความตึงเครียดกว่ากรณีที่ 2 จะสร้างแรงกดดันต่อกลุ่มอิงการบริโภคภายในจนกว่าการชุมนุมจะสิ้นสุด คือ กลุ่มธนาคาร (BBL, KTB, TTB) กลุ่มค้าปลีก (CPALL, CPAXT, CRC, BJC) กลุ่มนิคม (AMATA, WHA) กลุ่มท่องเที่ยว (AOT, ERW, AWC)
กรณีที่ 4 คือ คุณพิธาฯไม่ได้รับการโหวตเป็นนายกฯ ขณะที่การจัดตั้งรัฐบาลจะอยู่ในลักษณะเสียงข้างน้อย คือ ว่าที่พรรคร่วมฝ่ายค้านปัจจุบัน ประเมินเสียงราว 140-150 เสียง มองกดดัน SET จากทั้งการขับเคลื่อนนโยบายขาดเสถียรภาพ และมีความเสี่ยงการชุมนุมที่อาจจะเกิดขึ้นมีความตึงเครียดมากสุดในทุกกรณี
ประเมิน SET กรอบ 1,350-1,460 จุด กลุ่มที่เคลื่อนไหวดีกว่าตลาดมองกลุ่มถูกกดดันจากการเมือง อาทิ GULF, BGRIM, THCOM, TRUE, STEC, STPI อิงความต้องการโลก (Global Plays) อาทิ HANA, KCE, DELTA, CPF, GFPT, PTTGC, IVL ส่วนกลุ่มอิงภายในและท่องเที่ยวจะเผชิญภาพลบ
ภาพทางการเมืองค่อยๆชัด
ฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส ระบุว่า หลังการเลือกนายกรัฐมนตรีรอบแรกไม่สำเร็จ โดยผลการลงมติ เห็นชอบนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี 324 เสียง ไม่ชอบ 182 เสียง งดออกเสียง 199 เสียง (ขาดอีก 52 เสียงที่จะโหวตสนับสนุนเพื่อให้เสียงถึง 376 เสียง) ซึ่งจะนัดประชุมสภาอีกครั้งวันที่ 19 ก.ค.66 เวลา 9.30 น. ซึ่งในวันเดียวกันนี้คาดศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคดีถือหุ้นสื่อ ITV ของ Candidate นายกฯ พรรคก้าวไกลด้วยเช่นกัน
ซึ่ง พรรคก้าวไกล ได้มีการเปิดเผย 2 แนวทางที่จะดำเนินการ คือ 1. เดินหน้าเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยโน้มน้าว สมาชิกวุฒิสภา(สว.) มาโหวตเลือกคุณพิธา เป็นนายก ในวันที่ 19 ก.ค.66 มากขึ้น
และ 2. แก้ไขรัฐธรรมนูญโดยยกเลิกมาตรา 272 ซึ่งเป็นการตัดอำนาจ ส.ว. ในการใช้สิทธ์โหวตเลือกนายกฯ แต่กระบวนการในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ถือเป็นเรื่องยาก เนื่องจากต้องใช้เสียง สว 1 ใน 3 หรือ 84 เสียง และเสียงสนับสนุนจากพรรคฝ่ายค้าน (ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการแยกแยะว่าใครเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน) ทั้งนี้ในอดีต มีการเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวมาแล้ว 7 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม หากขับเคลื่อนจนถึงสุดทางแล้ว ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ พรรคก้าวไกลพร้อมที่จะทำตาม MOU ให้พรรคอันดับ 2 ซึ่งได้แก่ พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแทน ซึ่งยังต้องอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลเดิม หรือ 8 พรรคที่เซ็น MOU ไว้ โดยทาง 8 พรรครวมจะนัดหารือกันวันนี้ 5 โมงเย็น
ส่วนผลกระทบในทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้ากระทรวงการคลังประเมินว่า กรณีจัดตั้งรัฐบาลใหม่ยืดเยื้อไม่เกิน 6 เดือน คาดกระทบต่อมูลค่า GDP ราว 0.05%
ย่อยิ่งลึก ยิ่งน่ารับ
โดยการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคร่วมทั้ง 8 พรรคจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ เน้นหุ้นพื้นฐานแกร่งที่ย่อลงมาลึกจากความกังวลการเปลี่ยนผ่านนโยบายทางการเมือง หรือ กลัวผลกระทบนโยบายก้าวไกล คาดหวังผลกำไรช่วงสั้นได้ อาทิ STEC, SAWAD, EA, GPSC, TRUE, SCGP, CBG, PLANB, GULF, MTC, BEM, HMPRO เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยฯคาดตลาดหุ้นไทยมีโอกาสผันผวนต่อไปในเดือนนี้ แต่เริ่มที่จะกำหนดจุด Downdside ได้ระดับหนึ่ง โดยวันนี้มองกรอบการเคลื่อนไหวของ SET Index ในกรอบ 1,510-1,525 จุด และเลือกกลุ่มหุ้นสลับขั้วที่มีโอกาส Outperform SET ในช่วงเวลาดังกล่าว ชอบ STEC, TRUE, SCGP, CBG, PLANB, GULF, BEM