posttoday

หุ้นกู้ STARK-ALL กระทบความเชื่อมั่นนักลงทุน กดตลาดบอนด์ซบเซา

06 กรกฎาคม 2566

ThaiBMA ระบุหุ้นกู้ STARK-ALL กระทบความเชื่อมั่นนักลงทุน ฉุดตลาดบอนด์ โดยเฉพาะ High Yield ซบเซา แต่หุ้นกู้เรทติ้งสูงยังขายได้ดี มั่นใจยอดออกหุ้นกู้ปีนี้ทะลุ 1 ล้านล้านบาท ครึ่งปีหลังมีออกทดแทนรุ่นครบกำหนดไถ่ถอน-ออกเพื่อระดมเงินทุนใหม่ รวมกว่า 4 แสนล้านบาท

นางสาวอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เปิดเผยว่า หุ้นกู้ บริษัท สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK มีสถานะ Default ทั้ง 5 รุ่น รวมมูลค่า 9,198.40 ล้านบาท โดยเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ 4,521 ราย คิดเป็น 89.87% และผู้ลงทุนสถาบัน 7 ราย 

โดยหุ้นกู้ 2 รุ่น ได้แก่ STARK239A และ STARK249A มูลค่ารวม 2,241 ล้านบาท ถูกเรียกให้ชำระเงินต้นและดอกเบี้ยโดยพลัน ภายในกำหนดเมื่อวันที่ 2 ก.ค.2566 ซึ่ง STARK แจ้งไม่สามารถชำระได้ ปัจจุบันผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ได้ได้ยื่นดำเนินการฟ้องร้องบังคับคดีตามกฎหมายแล้ว 

ส่วนอีก 3 รุ่น ได้แก่ STARK245A, STARK255A และ STARK242A มูลค่ารวม 6,957.40 ล้านบาท ครบกำหนดที่จะชำระเงินต้นและดอกเบี้ยโดยพลัน ในวันที่ 20 ก.ค.2566 ซึ่งคาดว่า STARK จะแจ้งไม่สามารถชำระได้เช่นกัน ซึ่งหลังจากครบกำหนดชำระ ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้สามารถยื่นดำเนินการฟ้องร้องบังคับคดีตามกฎหมายได้ทันที 
 
นอกจากนี้ หุ้นกู้ บริษัท ออลล์ อินสไปร์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALL เมื่อวันที่ 5 ก.ค.2566 ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้แจ้งให้ผู้ออกชำระหนี้โดยพลันหุ้นกู้ทั้ง 7 รุ่น ส่งผลให้หุ้นกู้ Default ทั้งหมด 7 รุ่น มูลค่ารวม 2,334 ล้านบาท โดยเป็นนักลงทุนรายบุคคล 98.57% บริษัทและนิติบุคคล 1.26% และนักลงทุนต่างชาติ 0.46%

ขณะที่หุ้นกู้ บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2566 ผู้ถือหุ้นกู้ทุกรุ่นอนุมัติผ่อนผันเหตุผิดนัด ทำให้หุ้นกู้ CHO เปลี่ยนสถานะจากหุ้นกู้ผิดนัดชำระเป็นหุ้นกู้ที่ปรับโครงสร้างหนี้ทั้ง 4 รุ่น มูลค่า 745.69 ล้านบาท

ทั้งนี้ หลังจากหุ้นกู้     STARK และ ALL เกิดการผิดนัดชำระหนี้ ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน ทำให้ตลาดหุ้นกู้ไม่คึกคัก โดยเฉพาะการเสนอขายหุ้นกู้กลุ่ม High Yield หรือกลุ่มที่มีเรตติ้ง BB+ ลงไปถึงไม่มีการจัดเรทติ้ง รวมทั้งหุ้นกู้มีประกันก็ต้องพิจาณาว่าสินทรัพย์ที่มาค้ำประกันจะครอบคลุมหนี้ทั้งหมดหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หุ้นกู้ที่มีเรทติ้งสูงยังสามารถขายได้ โดยเฉพาะบริษัทที่มีชื่อเสียง โดยช่วงครึ่งปีหลังยังมีหลายบริษัทขนาดใหญ่ยื่นเสนอขายหุ้นกู้ 

ดังนั้น ThaiBMA คาดว่าในปี 2566 ยอดการออกหุ้นกู้ระยะยาวจะอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านบาท ครึ่งปีแรกมีการออกหุ้นกู้ระยะยาวไปแล้วกว่า 6.17 แสนล้านบาท ประกอบกับส่วนที่จะออกเพื่อทดแทนรุ่นที่ครบกำหนดไถ่ถอนในครึ่งหลังของปีและการออกเพื่อระดมเงินทุนใหม่รวมกันไม่ต่ำกว่า 4 แสนล้านบาท

สำหรับหุ้นกู้คงค้างที่มีปัญหา ณ 5 ก.ค.2566 รวม 37,018 ล้านบาท ได้แก่ หุ้นกู้ที่ผิดนัดชำระ (Default Payment) จำนวน 6 บริษัท มูลค่ารวม 23,623 ล้านบาท (รวม STARK และ ALL)

หุ้นกู้บริษัทที่ปรับโครงสร้างหนี้ (Restructure) จำนวน 14 บริษัท มูลค่ารวม 13,355 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่มีปัญหาคิดเป็นไม่ถึง 1% ของมูลค่าคงค้างรวม 4.87 ล้านล้านบาท ขณะที่กว่า 90% เป็นหุ้นกู้ Investment Grade

หุ้นกู้ที่เข้าฟื้นฟูกิจการ (Rehabilitation) จำนวน 3 บริษัท มูลค่ารวม 73,057 ล้านบาท ได้แก่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI, บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE และ บริษัท ริช เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ RICH