posttoday

STARK เปิด 4 แนวทางแก้ไขส่วนผู้ถือหุ้นติดลบ จ่อสรุป 19 ก.ค.นี้

29 มิถุนายน 2566

STARK เสนอ 4 แนวทางแก้ไขส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ “เจรจาเจ้าหนี้-ขายทรัพย์สิน-เพิ่มทุนจดทะเบียน-ยื่นศาลล้มละลายขอฟื้นฟูกิจการ” เพื่อให้พ้นเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนออกจากตลาดฯ เล็งสรุปแผนภายใน 19 ก.ค.นี้

นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ กรรมการ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทได้นำส่งงบการเงินประจำปี 2565 ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีและปรากฏว่าส่วนของผู้ถือหุ้นปี 2564 (ปรับปรุงใหม่) และปี 2565 มีค่าน้อยกว่าศูนย์นั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงประกาศให้หลักทรัพย์ของบริษัทมีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่องการเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน 

บริษัทขอชี้แจงว่า บริษัทมิได้นิ่งนอนใจและจะดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อแก้ไขเหตุเพิกถอนดังกล่าว บริษัทมีความตั้งใจที่จะปรับโครงสร้างทุนและโครงสร้างหนี้ ทั้งของบริษัทและบริษัทย่อย ซึ่งดำเนินธุรกิจหลัก เพื่อทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทมีค่ามากกว่าศูนย์ และมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานตามปกติของบริษัทย่อย ซึ่งดำเนินธุรกิจหลักโดยบริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางดำเนินการแก้ไข ดังต่อไปนี้

1. เจรจากับเจ้าหนี้ที่สำคัญทั้งหมด เพื่อให้เจ้าหนี้ต่างๆ ระงับการใช้สิทธิเรียกร้องให้ชำระหนี้โดยพลัน สนับสนุนแผนการปรับโครงสร้างทุนและโครงสร้างหนี้ของบริษัท รวมถึงให้ความช่วยเหลือทางการเงินเพื่อวางแผนการบริหารการชำระหนี้ และวางแผนธุรกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

2. จำหน่ายทรัพย์สิน (เช่น หุ้นในบริษัทย่อยที่ไม่ได้ดำเนินธุรกิจหลักของบริษัท สิทธิเรียกร้องในสัญญาที่สำคัญ) และปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณธุรกิจ เพื่อเพิ่มรายได้และลดต้นทุนคงที่ (fixed cost) และค่าใช้จ่ายของบริษัท 

3. เพิ่มทุนจดทะเบียน เพื่อจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในปัจจุบัน หรือพิจารณาหานักลงทุนรายใหม่ เพื่อเพิ่มส่วนของผู้ถือหุ้นและเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินของบริษัท

4. ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายเพื่อดำเนินการฟื้นฟูกิจการเพื่อปรับโครงสร้างทุนและโครงสร้างหนี้ของบริษัท รวมถึงให้สิทธิการแปลงหนี้เป็นทุนแก่เจ้าหนี้ภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการ

ทั้งนี้ ในการจะพิจารณาเลือกแนวทางแก้ไขส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ บริษัทจะต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงเงื่อนไขและข้อจำกัดต่างๆ ภายใต้สัญญาทางการเงิน และสัญญาที่สำคัญต่างๆ ความต้องการของตลาดในการเข้าซื้อทรัพย์สินของบริษัทและปัจจัยในการกำหนดราคาที่เกี่ยวข้อง ความร่วมมือและการสนับสนุนของเจ้าหนี้ที่เกี่ยวข้อง การให้การสนับสนุนของผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท 

ตลอดจนผลกระทบต่างๆ เพื่อคงไว้ซึ่งคุณสมบัติในการดำรงสถานะของบริษัทจดทะเบียน เพื่อรักษาประโยชน์สูงสุดของบริษัท ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้เสียทุกรายของบริษัท

โดยคณะกรรมการและผู้บริหารชุดปัจจุบันของบริษัทมีความตั้งใจอย่างยิ่งที่จะแก้ไขเหตุดังกล่าว เพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ภายใต้กรอบของกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง และบริษัทจะแจ้งให้ทราบถึงแนวทางดำเนินการแก้ไขเหตุเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน และกำหนดเวลาของการดำเนินการดังกล่าวแก่ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนภายในวันที่ 19 ก.ค.2566