posttoday

บมจ. ยัสปาล ยื่นไฟลิ่ง ขายหุ้น IPO ไม่เกิน 156 ล้านหุ้น หวังสู่เวทีโลก

20 มิถุนายน 2566

บมจ. ยัสปาล หรือ JPC ยื่นไฟลิ่งต่อก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อเสนอขายหุ้น IPO ไม่เกิน 156 ล้านหุ้น หวังสร้างแต้มต่อสู่ธุรกิจแฟชั่นไลฟ์สไตล์ชั้นนำบนเวทีโลก

นายจรัญ สิงห์สัจจเทศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ยัสปาล หรือ JPC) เปิดเผยว่า บริษัทฯ และบริษัทย่อย (รวมเรียกว่า กลุ่มบริษัทฯ) เป็นผู้ดำเนินธุรกิจผลิต จัดหาและจัดจำหน่ายเสื้อผ้า สินค้าแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์ (กลุ่มธุรกิจสินค้าแฟชั่น) ภายใต้แบรนด์กว่า 19 แบรนด์ เช่น Jaspal (ยัสปาล), ) Misty Mynx (มิสตี้ มิงซ์), CC Double O (ซีซี ดับเบิ้ลโอ), CPS CHAPS (ซีพีเอส แชปส์), Lyn (ลิน), Lyn Around (ลิน อะราวนด์), Fred Perry (เฟร็ด เพอร์รี่), Diesel (ดีเซล), Superdry (ซุปเปอร์ดราย) เป็นต้น 

ด้านนายทินพันธุ์ หวั่งหลี รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2566 บมจ.ยัสปาล ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ

เพื่อออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) และนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 156 ล้านหุ้น คิดสัดส่วนไม่เกิน 26% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด ทั้งนี้ ณ ปัจจุบัน แบบคำขออนุญาตและร่างหนังสือชี้ชวนอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ

อย่างไรก็ตาม กลุ่มยัสปาลถือเป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจสินค้าแฟชั่นของภูมิภาคอาเซียนและเป็นบริษัทสัญชาติไทยที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและรองเท้าเฉพาะอย่างของประเทศไทย (อ้างอิงข้อมูลรายงานภาวะอุตสาหกรรมของ Euromonitor International) ที่มีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจสินค้าแฟชั่นตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำมายาวนานกว่า 70 ปี

รวมถึง มีบุคลากรที่มีความสามารถเข้าใจในอุตสาหกรรมแฟชั่นที่มองเห็นเทรนด์การเปลี่ยนของธุรกิจและอุตสาหกรรม สามารถใช้ความเชี่ยวชาญการออกแบบ จัดหาสินค้า เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ผ่านแบรนด์พอร์ตโฟลิโอที่หลากหลาย ตอบสนองไลฟ์สไตล์ด้านแฟชั่นของผู้บริโภคที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

ควบคู่กับการบริหารจัดการสินค้าคงคลังที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสนับสนุนช่องทางการจำหน่ายสินค้า ผ่านช่องทางสาขาและจุดจำหน่ายในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมทั้งสิ้น 462 สาขา ครอบคลุมทั้งในประเทศและต่างประเทศ

รวมถึงช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์บริษัทฯ และแพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์ต่างๆ (Marketplace) ขณะที่กลุ่มธุรกิจที่นอนและเครื่องนอน มีช่องทางจำหน่ายผ่าน 3 ช่องทางหลัก ได้แก่ (1) สาขาหน้าร้านและจุดจำหน่ายในศูนย์การค้ามากกว่า 508 แห่ง (2) การขายงานโครงการ และ (3) การส่งสินค้าไปยังต่างประเทศ