posttoday

AH-SAT-NYT ร่วง เซ่นข่าวอีซูซุเล็งย้ายฐานผลิตไปอินโดฯ

08 มิถุนายน 2566

ราคาหุ้น AH-SAT-NYT กอดคอร่วง รับข่าวอีซูซุ มีแผนย้ายการผลิตรถยนต์ จากโรงงานแห่งหนึ่งในไทย ไปยัง อินโดนีเซีย โดยจะเริ่มการผลิตอย่างเร็วที่สุดในปี 67 ฟากผู้บริหาร “AH” เชื่อมั่นไทยยังเป็นฐานผลิตสำคัญของอีซูซุ ขณะที่โบรกฯ ประเมินกดดันราคาหุ้น แนะ “ชะลอการลงทุน”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH ปิดช่วงเช้าวันนี้ (8 มิ.ย.) เวลา 12.30 น. ลดลง 9.55% หรือลดลง 3.75 บาท มาอยู่ที่ 35.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,057.59 ล้านบาท ระหว่างวันปรับลดลงต่ำสุดที่ 27.75 บาท และปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 35.75 บาท  

ราคาหุ้น บริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SAT ลดลง 3.50% หรือลดลง 0.70 บาท มาอยู่ที่ 19.30 บาท มูลค่าการซื้อขาย 100.28 ล้านบาท ระหว่างวันปรับลดลงต่ำสุดที่ 18.00 บาท และปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 19.60 บาท  

ราคาหุ้น บริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) หรือ NYT ลดลง 1.42% หรือลดลง 0.06 บาท มาอยู่ที่ 4.16 บาท มูลค่าการซื้อขาย 73.61 ล้านบาท ระหว่างวันปรับลดลงต่ำสุดที่ 3.86 บาท และปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 4.22 บาท  

หลังจากสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างอิงแถลงการณ์จากกระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย โดย นายอากัส กูมิวัง คาร์ตาซัสมิตา รัฐมนตรีอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย ระบุว่า บริษัท อีซูซุ มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น มีแผนจะโยกย้ายการผลิตรถยนต์ จากโรงงานแห่งหนึ่งใน ประเทศไทย ไปยัง อินโดนีเซีย โดยจะเริ่มการผลิตอย่างเร็วที่สุดในปี 2567

ทั้งนี้ ปัจจุบัน อีซูซุ มีโรงงานผลิตรถยนต์ 2 แห่ง ในประเทศไทย ที่ จ.สมุทรปราการ และ จ.ฉะเชิงเทรา โดยมีกำลังการผลิตรถยนต์รวมกัน 385,000 คัน/ปี และมีการจ้างงานพนักงานราว 6,000 คน ส่วนในอินโดนีเซีย อีซูซุมีโรงงานผลิตรถยนต์ 1 แห่ง ที่ เมืองคาราวัง

ปัจจุบัน อินโดนีเซีย เป็นฐานการผลิตของบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นหลายราย รวมทั้งฮอนด้า มิตซูบิชิ และซูซูกิ ในระยะไม่กี่ปีมานี้ รัฐบาลอินโดนีเซียยังมียุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจมุ่งหน้าเป็นศูนย์กลางการผลิตแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย เนื่องจากมีวัตถุดิบและแร่ธาตุเพื่อการผลิต

นายเย็บ ซู ชวน ประธานกรรมการบริหาร AH เปิดเผยว่า บริษัทไม่มีความกังวลหาก บริษัท อีซูซุ มอเตอร์ มีแผนโยกย้ายการผลิตรถยนต์จากโรงงานแห่งหนึ่งในประเทศไทยมายังอินโดนีเซีย เนื่องจาก อีซูซุ มีฐานการผลิตอยู่ทั่วเอเชียอยู่แล้ว ประกอบกับขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับข่าวจากทาง อีซูซุ ว่าจะลดคำสั่งซื้อชิ้นส่วนยานยนต์แต่อย่างใด ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนยอดขายให้กับอีซูซุ ประมาณ 30%

“ส่วนตัวมองว่าประเทศไทยมียอดขายรถยนต์อีซูซุมากที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชีย ทางอีซูซุ ก็ไม่น่าจะมีการย้ายฐานไปไหน เพราะเห็นว่าอีซูซุยังจำเป็นต้องมีโรงงานในประเทศไทยเป็นฐานการผลิตอยู่ เนื่องจากยอดขายรถอีซูซุเป็นอันดับหนึ่งในไทย” 

บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุว่า ราคาหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ AH, SAT ปรับลง ตอบรับข่าว ISUZU เตรียมโยกการผลิตรถยนต์จากไทยไปอินโดนีเซีย

โดยข่าวดังกล่าว ทำให้ตลาดเกิดความกังวล ค่ายรถยนต์อื่นจะทำเหมือน ISUZU โดยการส่งออกรถยนต์ และชิ้นส่วน ของไทย ถือเป็นสินค้าออกอันดับ 1 ของประเทศ มีมูลค่าส่งออกราว  2.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2565 หรือมีมูลค่า 9.83% ของการส่งออกรวมของประเทศ

ดังนั้น โดยรวมเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้น AH มีรายได้จาก ISUZU ราว 39% ของยอดขายปี 2565 และ SAT มีรายได้จาก ISUZU ราว 11 % ของยอดขายปี 2565 คำแนะนำ คือ “ชะลอการลงทุน”

ขณะที่ บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุว่า กระแสข่าวดังกล่าว หากมีการย้ายฐานการผลิตไปอินโดนีเซียจริงจะกระทบต่อยอดการผลิตรถยนต์ของไทยค่อนข้างมาก เนื่องจากปัจจุบันอีซูซุมียอดผลิตรถยนต์คิดเป็น 20% ของการผลิตรถยนต์รวม

อย่างไรก็ตาม บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ประเมินว่า การย้ายฐานการผลิตไปทั้งหมดยังมีความเป็นไปได้น้อย เนื่องจากจากจะกระทบต่อ supply chain, การจ้างงานในไทย รวมถึงไทยยังมียอดขายรถกระบะที่ค่อนข้างมาก อาจไม่คุ้มที่จะย้ายฐานการผลิตไปทั้งหมด แต่หากมีการย้ายไปบางส่วนอาจเป็นไปได้ เช่น การผลิตเพื่อส่งออก หรืออาจย้ายการการผลิตบางส่วนออกไป

ทั้งนี้ โรงงานอีซูซุจะมีการผลิตเพื่อขายในประเทศ ประมาณ 60% และส่งออก 40% ขณะที่จะแบ่งเป็นการผลิตรถ pick up 80%, PPV 15% และ Truck 5% 

AH-SAT-NYT ร่วง เซ่นข่าวอีซูซุเล็งย้ายฐานผลิตไปอินโดฯ สำหรับหุ้นที่จะได้รับผลกระทบกรณีหากอีซูซุมีการย้ายฐานการผลิตจริง ได้แก่ บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH ที่มีสัดส่วนการผลิตให้อีซูซุ 30% และ SAT อยู่ที่ 10% โดยกรณีหากอีซูซุมีการย้ายการผลิตออกไป 40% เฉพาะการผลิตเพื่อส่งออก ในส่วนของ SAT จะมีผลกระทบต่อรายได้ลดลง 4% และกำไรลดลงราว 8% 

รวมทั้งยังมีผลกระทบต่อ NYT (ประกอบธุรกิจท่าเรือส่งออกและนำ เข้ารถยนต์ Ro/Ro) เนื่องจากอีซูซุมีการส่งออกคิดเป็นประมาณ 10-15% ของการส่งออกของไทย ซึ่งประเมินจะมีผลกระทบต่อรายได้ NYT ลดลงราว 10% จะมีผลกระทบต่อกำไรราว 15%

ดังนั้น ข่าวดังกล่าวจะมีปัจจัยกดดันต่อหุ้นที่มีผลกระทบดังกล่าวได้ 

ทั้งนี้ ปัจจุบัน บล.ดาโอ แนะนำ “ซื้อ” SAT เป้าหมาย 24.50 บาท, AH ราคาป้าหมาย bloomberg consensus ที่ 45.23 บาท, และ NYT ราคาเป้าหมาย bloomberg consensus ที่ 4.40 บาท

บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า เนื่องจากข่าวดังกล่าวยังไม่เป็นทางการจากฝั่งไทยจึงยังต้องติดตามต่อไป อย่างไรก็ตาม หากเป็นจริงการประเมินผลกระทบต้องดูว่าเป็นการย้ายสายการผลิตของรถยนต์รุ่นใดบ้าง (ปิกอัพ หรือ รถบรรทุก) โดยปี 2565 ISUZU มียอดขายรถยนต์ในไทยราว 2.1 แสนคัน (สัดส่วน 25% ของยอดขายรถยนต์ไทยปี 2565) หลักๆ เป็น ปิกอัพ ประมาณ 1.75 แสนคัน (สัดส่วน 45% ของยอดขายรถปิกอัพไทยปี 2565) ด้วยสัดส่วนแบ่งตลาดที่สูงในไทย ในเชิงของการทำตลาดในประเทศเชื่อว่า ISUZU ยังคงทำตลาดรถยนต์ในประเทศไทย

ด้านโครงสร้างรายได้ของผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ไทยปี 2565 พบว่า AH มีสัดส่วนรายได้ทางตรงจาก ISUZU ราว 39% ของยอดขายปี 2565 ส่วน SAT มีสัดส่วนรายได้ทางตรงจาก ISUZU ราว 11% ของยอดขายปี 2565 ดังนั้นกรณีที่ข่าว
ข้างต้นเกิดขึ้นจริงประเมินกระทบต่อยอดขายปี 2567 ของ AH มากกว่า SAT

ราคาหุ้นในกลุ่มยานยนต์ มีโอกาสตอบสนองเชิงลบจากข่าวข้างต้น ทั้งนี้ ราคาหุ้น AH ตั้งแต่ต้นปีถึงวานนี้ (7 มิ.ย.) ปรับตัวขึ้น 32% YTD เทียบ SET Index และ SAT ที่ติดลบ 8% และ4.8% YTD ตามลำดับ ทำให้ราคาหุ้นอาจเผชิญแรงกดดันมากกว่ากลุ่มฯ