เสิร์ฟร้อน!! 9หุ้น'ได้-เสีย'นโยบายรัฐบาลใหม่

ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ตลาดเกิดความกังวลหลังจากเกิดการสลับขั้วการจัดตั้งรัฐบาล โดยข้อแรก คือ การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี จะผ่านการคัดเลือกต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา ซึ่งประกอบด้วย ส.ส. 500 คน และ ส.ว. 250 คน รวม 750 คน หมายความว่าต้องได้คะแนนเสียงสนับสนุน 376 คน ขึ้นไป (ปัจจุบันพรรคก้าวไกล รวมเสียงสส.พรรคร่วมรัฐบาล 310 เสียง) หากไม่ได้เสียงจาก ส.ว. หรือ ส.ส.ที่ไม่อยู่ในพรรคร่วมรัฐบาล สนับสนุน ก็อาจทำให้กระบวนการในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ต้องยืดยาวออกไป ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ-การลงทุน ดังนั้นในช่วง 60 วันจากนี้ ก่อนที่จะเปิดประชุมรัฐสภา ต้องติดตามดูว่าจะมีความคืบหน้า หรือทิศทางที่จะทำให้กระบวนการในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเดินหน้าต่อได้อย่างไร

ข้อ 2 คือการเปลี่ยนผ่านนโยบายของพรรคก้าวไกล ซึ่งเน้นปรับโครงสร้างทั้งระบบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดการผูกขาด พร้อมกับเพิ่มสวัสดิการทุกช่วงวัย ในระยะสั้นนักลงทุนมีการตีความว่าเป็น Sentiment เชิงลบต่อหุ้นบางบริษัทและฝ่ายวิจัยได้รวบข้อมูลกลุ่มหุ้นที่ได้ผลดีผลเสียต่อนโยบายของพรรคก้าวไกลในเบื้องต้นมีรายละเอียดดังนี้

อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในช่วงรอความชัดเจนในมุมการจัดตั้งรัฐบาล-โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี รวมถึงรายละเอียดของการเดินหน้านโยบายต่างๆ ที่ได้หาเสียงไว้ทำให้เกิดความผันผวนในช่วงสั้น

ดังนั้นกลยุทธ์แนะนำหุ้นได้ประโยชน์จากนโยบายรัฐบาลใหม่ อย่าง CPN HMPRO COM7 CPN SNNP KCE NEX KTB KBANK ส่วน Toppick ในวันนี้เลือก KTB ให้ราคาเป้าหมาย 20.30 บาท CPN ให้ราคาเป้าหมาย 79 บาท SNNP ให้ราคาเป้าหมาย 27 บาท