WHA กำไรไตรมาสแรก 522.7 ล้าน ลดลง 20.3% เหตุไม่มีบุ๊กกำไรพิเศษ

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2566 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 522.7 ล้านบาท ลดลง 20.3% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ประกอบด้วยผลประกอบการปกติ และผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลกำไร/ขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้น (Unrealized Gain/Loss)
 
ขณะที่บริษัทมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ (Normalized Net Proft) ในไตรมาส 1/2566 อยู่ที่ 505 ล้านบาท ลดลง 22.7% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากไตรมาส 1/2565 บริษัทมีการรับรู้กำไรจากการจำหน่ายทรัพย์สินในธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Center) จำนวน 2 แห่ง ถึงแม้ว่าไตรมาส 1 ปี 2566 จะมีการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจที่ดินและการขายอสังหาริมทรัพย์

นอกจากนี้ หากไม่รวมการรับรู้กำไรจากการจำหน่ายทรัพย์สินของธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ดังกล่าว จะทำให้ในไตรมาส 1/2566 บริษัทมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ เพิ่มขึ้น 63.6% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน 

ส่วนรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรในไตรมาส 1/2566 อยู่ที่ 2,440.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.8% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน หากพิจารณาผลประกอบการปกติ บริษัทมีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 2,420.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน

ในส่วนรายได้ค่าเช่าและค่าบริการในไตรมาส 1/2566 อยู่ที่ 249.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.9% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของพื้นที่ให้เช่าจากช่วงเดียวกันกับปี 2565

รายได้จากธุรกิจที่ดินและการขายอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 1/2566 อยู่ที่ 1,052.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.7% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากการโอนที่ดินที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม 

รายได้จากการขายและให้บริการระบบสาธารณูปโภคในไดรมาส 1/2566 อยู่ที่ 643.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.6% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน เนื่องจากมีการเพิ่มขึ้นของรายได้จากค่าธรรมเนียมจากการขอใช้น้ำเกินกว่าที่จัดสรร (Excessive Charge)

ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมในธุรกิจไฟฟ้าจากการดำเนินงาน (Normalized Share of Proft from Investments in Power Associates ) ในไตรมาส 1/2566 อยู่ที่ 293.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 215.8% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากการที่โรงไฟฟ้า Gheco-1 ได้รับผลกระทบจากการระงับการส่งออกถ่านหินของประเทศอินโดนีเซียในช่วงไตรมาส 1/2565 แม้ว่าจะมีการหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าตามแผนงาน ในไตรมาส 1/2566 ก็ตาม 

นอกจากนี้ กลุ่มโรงไฟฟ้า SPP ได้รับผลกระทบเชิงบวกจากค่าก๊าซธรรมชาติที่ลดลง และค่า FT ที่มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น เพื่อสะท้อนตันทุนที่แท้จริง รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และให้บริการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ (EPC)

รายได้อื่นจากการดำเนินงานในไตรมาส 1/2566 อยู่ที่ 31.7 ล้านบาท ลดลง 92.1% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน เนื่องจากไตรมาส 1/2565 บริษัทมีการรับรู้กำไรจากการจำหน่ายทรัพย์สินของธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Center) 2 แห่ง จำนวน 344.6 ล้านบาท

“การเติบโตของผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2566 ถือเป็นการตอกย้ำความสำเร็จการเป็นผู้นำใน 4 กลุ่มธุรกิจ ทั้งโลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภคและพลังงาน ตลอดจนดิจิทัล โซลูชัน ทั้งในประเทศไทยและเวียดนามได้เป็นอย่างดี” นางสาวจรีพร กล่าว