เอาให้ชัด!! 10 อันดับผู้ถือหุ้นใหญ่ ITV
"INTUCH" หุ้นใหญ่อันดับ 1 ถือ 638.60 ล้านหุ้น รองลงมา "GOLDMAN SACHS" ถือ 48.72 ล้านหุ้น ส่วน "พิธา และครอบครัวลิ้มเจริญรัตน์" ถือ 42,000 หุ้น
โค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง 14 พ.ค.นี้ อุณหภูมิการเมืองไทยร้อนยิ่งกว่าอากาศในขณะนี้ ทันทีที่มีการจุดกระแสการยื่นคำร้องต่อ กกต. ตรวจสอบกรณี "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถือหุ้นของ "บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) หรือ ITV" จำนวน 42,000 หุ้น ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 98(3) ทำให้มีคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามไม่ให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.หรือไม่
แม้ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์"ได้โพสต์ชี้แจงต่อกรณีดังกล่าวในสื่อโซเชียลว่า "ผมไม่มีความกังวลเพราะไม่ใช่หุ้นของผม เป็นของกองมรดก ผมเพียงมีฐานะเป็นผู้จัดการมรดก และได้แจ้งต่อ ป.ป.ช.ไปนานแล้ว อีกทั้งทีมกฎหมายพร้อมชี้แจงอยู่แล้วเมื่อ กกต.ส่งคำร้องมา"
แต่ถึงกระนั้น "นิกม์ แสงศิรินาวิน" ผู้สมัคร กทม. พรรคภูมิใจไทย โพสต์ข้อความผ่านสื่อโซเชียลโต้กลับหัวหน้าพรรคก้าวไกลในทันที โดยระบุว่า พบว่าในเอกสาร นายพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ บิดาของ นายพิธา ที่เสียชีวิตในปี 2549 (พิธีศพระหว่างวันที่ 18-24 กันยายน 2549)มีทายาทผู้มีสิทธิรับมรดก 3 คน คือ นางลิลฎา ลิ้มเจริญรัตน์ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และ นายภาษิณ ลิ้มเจริญรัตน์ โดย นายพิธา อ้างว่า เป็นผู้จัดการมรดก ซึ่งตามกฎหมายทายาทเป็นผู้มีสิทธิได้รับมรดกจากผู้เสียชีวิต ดังนั้นหุ้น ITV จำนวน 42,000 หุ้น จะต้องตกเป็นของทายาทในสัดส่วนเท่าๆ กัน ย่อมหมายความว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยังคงเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในหุ้น ITV จำนวน 14,000 หุ้น
สุดท้ายแล้ว เรื่องนี้จะออกหัว รึ ก้อย ก็คงต้องสุดแล้วแต่การพิจารณาของ กกต.
แต่...คำถามตัวโตๆ ก็คือ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) แท้จริงคือใครหนอ ?
จากการรวบรวมข้อมูลจาก Creden Data ณ วันที่ 21 เม.ย.66 พบว่า 10 อันดับผู้ถือหุ้นของ ITV อันดับ 1 คือ บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ ถือ 638,602,846 หุ้น คิดเป็น 75.18%
อันดับ 2 คือ GOLDMAN SACHS AND CO LLC ถือ 48,720,694 หุ้น คิดเป็น 5.74%
อันดับ 3 คือ นายณฤทธิ์ เจียอาภา ถือ 26,628,000 หุ้น คิดเป็น 3.13%
อันดับ 4 คือ NORTRUST NOMINEES LIMITED ถือ 23,117,100 หุ้น คิดเป็น 2.72%
อันดับ 5 คือ ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์(ประเทศไทย) ถือ 17,357,100 หุ้น คิดเป็น 2.04%
อันดับ 6 คือ MRS. MEI LEE ถือ 14,785,990 หุ้น คิดเป็น 1.74%
อันดับ 7 คือ แสงเอ็นเตอร์ไพรส์ คอร์ปอเรชั่น ถือ 10,000,000 หุ้น คิดเป็น 1.18%
อันดับ 8 คือ นายวินัย คล่องประกิจ ถือ 8,171,300 หุ้น คิดเป็น 0.96%
อันดับ 9 คือ UOB KAY HIAN PRIVATE LIMITED ถือ 7,095,000 หุ้น คิดเป็น 0.84%
อันดับ 10 คือ นายวิรัตน์ คล่องประกิจ ถือ 5,000,000 หุ้น คิดเป็น 0.59%
อย่างไรก็ดี จากรายงานประจำปี 2565 ของ บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) เคยประกอบธุรกิจสถานีวิทยุโทรทัศน์ระบบยูเอชเอฟ (UHF) ภายใต้สัญญา เข้าร่วมงานและดำเนินการสถานีวิทยุโทรทัศน์ระบบยูเอชเอฟ (สัญญาเข้า ร่วมงานฯ) ในลักษณะ สร้าง-โอน-ดำเนินงานที่ทำกับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ลงวันที่ 3 กรกฎาคม 2538 เป็นระยะเวลา 30 ปี สิ้นสุดวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 โดยใช้ชื่อ สถานีโทรทัศน์ ไอทีวี
และนับตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม 2550 เวลา 24.00 น. บริษัทจำเป็นต้องหยุดการประกอบธุรกิจ สถานีโทรทัศน์ไอทีวี สืบเนื่องมาจากการบอกเลิกสัญญาเข้าร่วมงานฯ ของ สปน. ต่อมาคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีมติให้เพิกถอนหุ้นสามัญของบริษัทจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2557 เป็นต้นไป
