SET มีแนวโน้มลงทดสอบจุดต่ำเดิม บริเวณ 1,518-1,520 จุด
SET มีแนวโน้มลงมาทดสอบที่บริเวณจุดต่ำเดิม 1,518-1,520 จุด หากต่ำกว่า เป็นลบต่อ และมีแนวรับถัดไปที่ 1,509 จุด กลยุทธ์การลงทุน “Selective Buy” แนะนำ CRC และ BCP
บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า SET ในภาพรวมสัญญาณเทคนิคยังอ่อนแรง และไม่พบสัญญาณการกลับตัว ทำให้มองการฟื้นตัวยังถูกจำกัดที่แนวต้าน 1,545 จุด ซึ่งใช้เป็นจุดติดตาม หากขึ้นทะลุผ่านได้ จะกลับมาเป็นสัญญาณที่ดีขึ้น โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1,556 จุด ส่วนกรอบล่างมีแนวโน้มลงมาทดสอบที่บริเวณจุดต่ำเดิม 1,518-1,520 จุด หากต่ำกว่า เป็นลบต่อ และมีแนวรับถัดไปที่ 1,509 จุด
ทั้งนี้ ช่วงสั้นมอง SET ยังมี Upside จํากัดและมีโอกาสอ่อนตัว เนื่องจากยังขาดปัจจัยหนุน และภาพรวมผลประกอบการ คาดยังมีแนวโน้มอ่อนแอ โดยที่หุ้นเทคโนโลยีและธนาคารเล็กของสหรัฐ รวมทั้ง บจ. ไทยที่จะออกมาสัปดาห์นี้ มีโอกาสแย่กว่าคาด อีกทั้งมองนักลงทุนอยู่ระหว่างรอดูความชัดเจนทิศทางดอกเบี้ยจากการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 2-3 พ.ค.นี้ กลยุทธ์การลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้น Best of the best ภายใต้วิกฤติการเงินในสหรัฐและยุโรป ซึ่งมีพื้นฐานและฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีกำไรในปี2566-2567 เติบโตเฉลี่ยสูงกว่ากำไรของกลุ่ม หุ้นที่เราแนะนำ Outperform และ Valuation ไม่แพง โดยซื้อขายด้วย PER และ PBV เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่บริเวณ -1.0 ถึง -2.0 S.D. จึงมองเป็นโอกาสชื้อสะสม เลือก AU BBL BDMS CPALL GULF สำหรับนักลงทุนที่มีหุ้นอยู่แล้ว แนะนำ Let Profit Run
2.หุ้นที่คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2566 จะออกมาตามตลาดคาด และจะเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้ หรือผลการดำเนินงานมีสัญญาณฟื้นตัวในไตรมาส 2/2566 เลือก HMPRO ADVANC KCE MINT AOT OSP
3.หุ้นปันผลดี ซึ่งปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งและราคาหุ้นยังมี Upside น่าสนใจเกิน 15% AP (XD 9 พ.ค[email protected] บาท) และ LH (XD 8 พ.ค[email protected] บาท) โดยคิดเป็น Div. Yield เกิน 3%
ขณะที่มีกลุ่มหุ้นแนะนำ “ขายหรือหลีกเลี่ยงการลงทุนไปก่อน” เนื่องจากผลการดำเนินงานยังไม่สดใส และมีความเสี่ยงที่ต้องติดตาม ได้แก่ NRF LPN MST SAWAD QH KTC PSH THRE TCAP MTC KEX KISS TU CBG GFPT BTG BTS BEM JASIF SAT IIG NER
สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ CRC คาดไตรมาส 1/2566 กำไรจะเติบโต YoY จากยอดขายปลีก รายได้จากการให้เช่าและมาร์จิ้นที่ดีขึ้น ส่วนทั้งปี 2566 คาดกำไรเติบโต 23.5%YoY ขณะที่ราคาหุ้นยังมี Upside เกิน 15% จากราคาเป้าหมายที่ 52 บาท และมีเงินปันผลปี 2565 อยู่ที่ 0.48 บาท/หุ้น (XD วันที่ 8 พ.ค.)
BCP คาดปี 2566 กำไรสุทธิจะปรับตัวดีขึ้น YoY เนื่องจากผลกระทบจากขาดทุนสินค้าคงเหลือและสัญญาประกันความเสี่ยงจะลดลง อีกทั้งยังมีมุมมองบวกต่อแผนเข้าซื้อกิจการ ESSO เพื่อต่อยอดธุรกิจน้ำมัน ซึ่งจะทําให้สามารถขยายธุรกิจได้รวดเร็วยิ่งขึ้น


