posttoday

ก.ล.ต. ขอผู้ถือหุ้น RAM โหวต 28 เม.ย.นี้ หลัง IFA เห็นควรไม่อนุมัติปล่อยกู้ F&S

22 เมษายน 2566

ก.ล.ต. ขอให้ผู้ถือหุ้น RAM ศึกษาข้อมูลและไปใช้สิทธิออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 28 เม.ย.นี้ กรณีวาระพิจารณาให้สัตยาบันการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ F&S ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ หลัง IFA เห็นว่าผู้ถือหุ้นไม่ควรอนุมัติ เหตุอัตราผลตอบแทนไม่เหมาะสม

สืบเนื่องจากบริษัทย่อยของ บริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน) หรือ RAM หลายแห่ง ได้นำสภาพคล่องส่วนเกินไปให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ บริษัท เอฟแอนด์เอส 79 จำกัด (F&S) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยให้กู้ยืมในรูปของตั๋วแลกเงินอายุ 1 ปี แบบไม่มีหลักประกัน คิดอัตราดอกเบี้ย 2.25-2.5% ต่อปี รวมเป็นเงิน 480 ล้านบาท

ซึ่งปัจจุบันบริษัท F&S ได้ชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยให้แก่บริษัทย่อยของ RAM แล้ว แต่การทำธุรกรรมดังกล่าวไม่ได้ขออนุมัติผู้ถือหุ้นก่อนทำรายการ ตามประกาศว่าด้วยการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน คณะกรรมการบริษัทจึงมีมติให้นำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติการให้สัตยาบันดังกล่าวในวันที่ 28 เม.ย.2566

นอกจากนี้ RAM ยังได้รับความช่วยเหลือทางการเงินจาก  F&S  จำนวน  1,000 ล้านบาท โดยต้องชำระคืนเมื่อทวงถาม คิดอัตราดอกเบี้ย 3.75-4.00% ต่อปี ซึ่งปัจจุบัน RAM ได้ชำระหนี้เงินกู้บางส่วนแล้ว และคงเหลือหนี้อีก 200 ล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนดชำระคืนวันที่ 31 ต.ค.2566 

ทั้งนี้ ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) มีความเห็นว่า ผู้ถือหุ้นไม่ควรอนุมัติการให้สัตยาบันในธุรกรรมการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ F&S เนื่องจากอัตราผลตอบแทนที่บริษัทย่อยได้รับไม่เหมาะสม เพราะต่ำกว่าอัตราตลาดและต่ำกว่าต้นทุนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จากสถาบันการเงินของบริษัทย่อย

นอกจากนี้ IFA ได้คำนวณส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยรับและดอกเบี้ยจ่ายเสมือนมีการปล่อยกู้วนในครั้งนี้แล้วพบว่า จะส่งผลให้กลุ่ม RAM ขาดทุนเป็นเงินจำนวน 3.46 ล้านบาท  

คณะกรรมการบริษัทเห็นว่า ผลตอบแทนจากการให้กู้ยืมในอัตราดอกเบี้ย 2.25-2.5% ต่อปี ดีกว่าการที่บริษัทย่อยนำไปฝากเงินกับสถาบันการเงินในประเทศที่จะได้รับผลตอบแทนเท่ากับ 0.40-1.35% ต่อปี การปล่อยกู้ดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายลงทุนในขณะนั้น

ทั้งนี้ บริษัทและกลุ่มบริษัทย่อยไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้เกิดกำไรแก่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ดังนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการ RAM ครั้งที่ 8/2566 เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2566 จึงมีมติให้บริษัทย่อยเรียกชำระดอกเบี้ยส่วนต่าง จำนวน 3.46 ล้านบาท คืนจาก F&S ซึ่ง F&S ได้ชำระดอกเบี้ยส่วนต่างคืนแล้วในวันที่ 30 มี.ค. 2566 

ก.ล.ต. จึงขอให้ผู้ถือหุ้นศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบและใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นในการรักษาประโยชน์ของตนเอง พร้อมทั้งสอบถามผู้บริหาร RAM ถึงข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้มีข้อมูลครบถ้วนสำหรับประกอบการตัดสินใจออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้นด้วย