ตลาดหุ้นไทยปิดบวก 7.74 จุด จับตา GDP จีนไตรมาสแรก

ดัชนีตลาดหุ้นไทย วันนี้ (17 เม.ย.) ปิดตลาดที่ 1,600.41 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 7.74 จุด หรือปรับเพิ่มขึ้น 0.49% มูลค่าการซื้อขาย 46,726.22 ล้านบาท ระหว่างวันขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 1,604.21 จุด และลงไปต่ำสุดที่ 1,587.87 จุด แบ่งตามประเภทนักลงทุน สถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 298.20 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิ 516.25 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิ 1,401.67 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปในประเทศ ขายสุทธิ 1,183.62 ล้านบาท

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้น ตามทิศทางตลาดหุ้นเอเชีย มองว่าเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคเอเชีย หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐออกมาตามตลาดคาด โดยเริ่มเห็นการชะลอลง ทำให้การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) น่าจะเริ่มชะลอลงตามไปด้วย และมีโอกาสคงดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มิ.ย.นี้ ประกอบกับทางการจีนประกาศอัดฉีดเม็ดเงินเสริมสภาพคล่องเข้ามาให้กับภาคธนาคาร

ประกอบกับได้แรงซื้อเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่และขนาดกลางเข้ามาช่วยหนุน โดยเฉพาะแรงเก็งกำไรกลุ่มหุ้นที่คาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาสแรกจะออกมาดี โดยเฉพาะได้รับปัจจัยหนุนจากเศรษฐกิจในประเทศและภาคการท่องเที่ยวเติบโตได้ดี เช่น CPALL และ AOT รวมถึงกลุ่มแบงก์ที่เตรียมทยอยประกาศงบไตรมาส 1/2566 และยังไม่ได้ขึ้น XD ในวันนี้ เช่น TISCO และ BBL แต่มีแรงกดดันจากหุ้นแบงก์ใหญ่อย่าง KBANK และ SCB ที่ขึ้น XD ในวันนี้ กดดันดัชนีเล็กน้อย

สำหรับแนวโน้มพรุ่งนี้ (18 เม.ย.) คาดว่าดัชนียังแกว่งไซด์เวย์ในกรอบแนวต้าน 1,610 จุด แนวรับ 1,585 จุด ระหว่างรอติดตามการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสแรกของจีน โดยตลาดคาดเติบโต 4% หากออกมาดีกว่าคาดจะเป็นบวกต่อภาพรวมให้กับตลาดหุ้นในภูมิภาค รวมถึงตลาดหุ้นไทย

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,249.97 ล้านบาท ปิดที่ 133.50 บาท ลดลง 2.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,810.86 ล้านบาท ปิดที่ 101.50 บาท ลดลง 4.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,540.56 ล้านบาท ปิดที่ 62.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,445.57 ล้านบาท ปิดที่ 161.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,388.95 ล้านบาท ปิดที่ 72.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท