THAI เดินหน้าแผนฟื้นฟู เทขายทรัพย์สิน เสริมแกร่งสภาพคล่องในมือ
บมจ. การบินไทย (THAI) เดินหน้าแผนฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง ทยอยขายทรัพย์สิน เพื่อเก็บเงินสดเสริมสภาพคล่องในมือ ล่าสุดกวาดเพิ่มกว่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังส่งมอบเครื่องยนต์และอากาศยานปลดระวางแล้วรวม 8 ลำ
บมจ. การบินไทย (THAI) ยังเดินหน้าขับเคลื่อนแผนฟื้นฟูกิจการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งด้วยการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบิน จึงส่งผลให้การบินไทยมีอัตราบรรทุกผู้โดยสาร (เคบิ้นแฟกเตอร์) กลับมาสูงเฉลี่ย 80 – 85% อีกทั้งยังมีกระแสเงินสด (แคชโฟว์) หมุนเวียนอยู่ในระดับ 3 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้เพื่อให้ THAI หวนคืนกลับมาเติบโตอย่างยั่งยืน ตามแผนฟื้นฟูของการบินไทยที่ได้ยื่นอนุมัติจากศาลล้มละลายกลางแล้วนั้น จึงดำเนินการตามแผนขายทรัพย์สินรองที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้ว ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา บมจ. การบินไทยได้ยื่นขออนุญาตจากศาลและจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์สินรวมทั้งสิ้นถึง 4 รายการ ได้แก่
1.หุ้นที่บริษัทฯ ถืออยู่ใน บมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) ที่ได้ดำเนินการขายและได้รับชำระเงินจากผู้ซื้อเมื่อวันที่ 19 ม.ค.2564 เป็นจำนวนเงินราว 2.7 พันล้านบาท
2.หุ้นที่บริษัทฯ ถืออยู่ใน บมจ. สายการบินนกแอร์ (NOK) ซึ่งดำเนินการขายเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2564 โดยทยอยขายหุ้นผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) คิดเป็นจำนวนเงินราว 278 ล้านบาท
3.ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็นอาคารศูนย์ฝึกอบรมที่หลักสี่ โดยดำเนินการขายและจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์เมื่อวันที่ 5 ส.ค.2564 ซึ่งได้รับมูลค่าราคาเสนอซื้อสุดท้ายเป็นจำนวนเงินราว 1.8 พันล้านบาท
4.เครื่องยนต์ที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว ประเภท CFM56-3C1 ติดตั้งกับเครื่องบิน 8737-400 จำนวน 5 เครื่องยนต์ ที่ดำเนินการขายและส่งมอบเครื่องยนต์ให้แก่ผู้ซื้อเมื่อวันที่ 29 พ.ย.2564 และได้รับเงินค่าขายเครื่องยนต์ครบถ้วนแล้ว จำนวน 265,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
นอกจากนี้ในช่วงปีที่ผ่านมา บมจ.การบินไทยยังดำเนินการขาย ให้เช่า หรือหาประโยชน์จากทรัพย์สิอื่น ๆ ประกอบด้วย
1.ขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างสำนักงานรักคุณเท่าฟ้า
บมจ.การบินไทยได้โอนกรรมสิทธิ์และรับเงินค่าขายทรัพย์สินครบถ้วนแล้ว เมื่อวันที่ 15 ก.พ.2565 ในราคา 550,210,000 บาท
2.ขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างสำนักงานอุดรธานี
บมจ.การบินไทยได้โอนกรรมสิทธิ์และรับเงินค่าขายทรัพย์สินครบถ้วนแล้ว เมื่อวันที่ 10 ก.พ.2565 ในราคา 28,600,000 บาท
3.ขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างสำนักงานขอนแก่น
ด้วยการโอนกรรมสิทธิ์และรับเงินค่าขายทรัพย์สินครบถ้วนแล้ว เมื่อวันที่ 10 ก.พ.2565 ในราคา 11,100,000 บาท
4.ขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างสำนักงานสีลม
บมจ.การบินไทยได้ลงนามในสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2565 ในราคา 205,100,000 บาท และได้รับเงินมัดจำแล้วจำนวน 20,510,000 บาท โดยเงินส่วนที่เหลือผู้ซื้อจะชำระก่อนหรือภายในวันจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างและไม่เกินวันที่ 30 มิ.ย. 2565
5.ขายหุ้น BAFS (ในส่วนที่นอกเหนือจากที่ได้รับอนุญาตจากศาลเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2563)
บมจ. การบินไทย ได้ขายหุ้น BAFS ใน ตลท.ระหว่างวันที่ 16 พ.ย.2564 – 15 ก.พ.2565 รวมจำนวน 1,696,000 หุ้น ในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 28.20 บาท คิดเป็นรายรับรวม (สุทธิ) 47,821,274.42 บาท
6. ขายเครื่องยนต์อะไหล่ที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว
คณะผู้บริหารแผนมีมติอนุมัติให้ขายเครื่องยนต์อะไหล่ที่ไม่ได้ใช้งานแล้วจำนวน 5 เครื่องให้แก่ผู้ยื่นชองเสนอราคาซื้อสูงสุด ซึ่งสูงกว่าราคาประเมินและมูลค่าตามบัญชีสุทธิของเครื่องยนต์ ราคาขายรวม 16,384,000 ดอลลาร์ โดยการบินไทยได้ส่งมอบเครื่องยนต์ให้แก่ผู้ซื้อและได้รับเงินค่าขายเครื่องยนต์ครบถ้วนแล้ว
ขณะที่ความคืบหน้าของการขายทรัพย์สินรองที่ศาลได้มีคำสั่งอนุญาตแล้ว ณ วันที่ 14 ธ.ค.2565 การบินไทยได้ส่งมอบเครื่องยนต์ CFM56-3C1 เพิ่มเติมจำนวน 2 เครื่องยนต์ อีกทั้งยังมีการขายทรัพย์สินรองอื่น ๆ ได้แก่
1.เครื่องบินที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว จำนวน 8 ลำ ราคาขายรวม 19,515,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
2.เครื่องยนต์อะไหล่ที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว จำนวน 1 เครื่อง ซึ่งขายให้แก่ผู้เสนอราคาซื้อสูงสุดในราคา 1,825,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ