posttoday

ทรีนีตี้ แกะรอยตลาดหุ้นไทย ก.พ. แกว่งตัว 1630-1730 แนะส่อง 5 กลุ่มเด่น

01 กุมภาพันธ์ 2566

“ทรีนีตี้” แกะรอยตลาดหุ้นเดือนก.พ. เกาะประเด็นตัวเลขเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ ท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ มองกรอบแนวรับในระดับ 1630 จุด ส่วนแนวต้านสำหรับการขายเพื่อล็อกกำไรไว้ 2 แนว คือ 1700 และ1730 จุด พร้อมแนะนำหุ้น 5 กลุ่ม น่าจับตา เช่น Telco อสังหาฯ โรงไฟฟ้า เป็นต้น

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางการลงทุนเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ว่า ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1630-1730 จุด โดยบรรยากาศการลงทุนโดยรวมทั่วโลกน่าจะเคลื่อนไหวไปกับทิศทางของเงินเหรียญสหรัฐฯ ต่อไป

 

โดยในช่วงต้นเดือน คงจะขึ้นอยู่กับท่าทีของ Fed ในการประชุมวันที่ 1 ก.พ. หากมีการขึ้นดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% ตามตลาดคาดจริง คงต้องติดตามต่อว่า Statement ที่ออกมา รวมถึงการแถลงของนาย Jerome Powell จะมีทิศทางเอนเอียงไปในเชิง Dovish หรือ Hawkish มากน้อยขนาดไหน

 

ส่วนระหว่างเดือน ต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ทั้งตัวเลขการจ้างงานและรายงานเงินเฟ้อ ซึ่งจะส่งผลต่อมายังคาดการณ์ดอกเบี้ย Fed ในอนาคต โดย ณ ปัจจุบันนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงมอง Terminal rate ของ Fed ที่ระดับ 4.75-5.00% หรือ Imply การขึ้นดอกเบี้ยในรอบนี้และรอบเดือนมีนาคม ครั้งละ 0.25% เท่านั้น

 

สำหรับในมุมของเศรษฐกิจไทยล่าสุด ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยเดือนธันวาคมนั้น พบการปรับตัวแข็งแกร่งของการบริโภคภาคเอกชน โดยหลักเกิดขึ้นในหมวดบริการเป็นสำคัญ สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง จึงมองเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้อง เช่น ร้านอาหาร โรงแรม และค้าปลีก เป็นต้น

 

ทั้งนี้มีหุ้นหลายตัวในกลุ่มนี้ที่ราคาอยู่ในช่วงพักตัว แต่ยังคงมี Upside จากเป้าหมายของ Consensus ในระดับ 10% ขึ้นไป และมี Valuation อยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี อย่างเช่น AU, M, ZEN, SHR, VRANDA, COM7, CPALL, CRC, GLOBAL, HMPRO มองเป็นตัวเลือกในการลงทุนที่น่าสนใจ

 

นายณัฐชาต ยังกล่าวอีกว่า ในเชิงกลยุทธ์ กำหนดแนวรับเดือนนี้ที่ระดับ 1630 จุด ส่วนแนวต้านสำหรับการ Take profit ให้ไว้ 2 แนวได้แก่ 1700 และ 1730 จุด หากดัชนีไปถึงระดับ 1700 จุด ให้ใช้บริเวณดังกล่าวในการลดน้ำหนักการลงทุนครึ่งหนึ่ง และถือลุ้นในส่วนที่เหลือไปขายทำกำไรที่บริเวณ 1730 จุด

 

สำหรับ หุ้นที่น่าสนใจประจำเดือนนี้ ได้แก่ 1. DTAC โดยแนะนำซื้อบนธีมการควบรวมกับ TRUE และถือรอ Convert เป็นหุ้นใหม่ คาดการณ์ว่าภายหลังจากการควบรวมเสร็จสิ้น จะทำให้บริษัทใหม่มี Synergy เกิดขึ้น ทั้งฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น การลดต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆ และความร่วมมือในการใช้เครือข่ายร่วมกัน

 

2. หุ้นกลุ่ม Property ซึ่งราคายังคงปรับลง YTD สวนทางกับประมาณการกำไรที่ถูกปรับขึ้น ได้แก่ SPALI, WHA 3. หุ้นที่มักมี Track record ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุก ๆ ปีอยู่ในเกณฑ์ดี และ Valuation อยู่ในระดับที่น่าสนใจ ได้แก่ AMATA, GLOBAL, INTUCH, JMT

 

4. หุ้นในกลุ่มบริการที่ได้ประโยชน์จาก Mobility ที่สูงขึ้นต่อเนื่อง และราคาอยู่ในช่วงพักตัว ได้แก่ M, VRANDA 5. หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ราคาปรับลงมารับผลประกอบการไตรมาส 4/65 ที่อ่อนแอไปแล้ว และกำไรมีแนวโน้ม Bottom out ต่อจากนี้ ได้แก่ GPSC