กรธ.ตั้งองค์กรคุมพรรคการเมืองทำประชานิยม
กรธ.เล็งตั้งองค์กรควบคุมพรรคการเมืองทำโครงการประชานิยม ผลาญงบประมาณชาติ
กรธ.เล็งตั้งองค์กรควบคุมพรรคการเมืองทำโครงการประชานิยม ผลาญงบประมาณชาติ
นายนรชิต สิงหเสนี โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) แถลงถึงการวางกรอบการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ ตามาตรา35 (7) โดยมีสาระสำคัญให้มีกลไกเพื่อควบคุมพรรคการเมือง โดยต้องจัดทำสัญญาประชาคมให้เป็นไปตามกรอบวินัยการเงินการคลังที่ดี เพื่อให้ประชาชนสามารถรับทราบถึงนโยบายของพรรคและเป็นหลักฐานในการตรวจสอบพรรคการเมืองในอนาคต โดยรูปแบบการตรวจสอบนั้นยังไม่มีแนวทางที่แน่ชัด แต่อาจมีแนวโน้มตั้งองค์กรขึ้นใหม่ หรืออาจใช้องค์กรเดิมที่มีอยู่ อาทิ สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ขึ้นมาตรวจสอบนโยบายพรรคการเมืองก่อนการเลือกตั้ง เพื่อป้องกันเหตุการณ์ในอดีตที่พรรคการเมืองต่างๆเสนอนโยบายส่งผลกระทบต่อวินัยการเงินการคลังของประเทศอย่างร้ายแรง แต่ทั้งนี้ กรธ.ยืนยันว่าไม่ได้ปิดกั้นนโยบายประชาแต่ต้องคำนึงถึงภาระงบประมาณของประเทศเป็นสิ่งสำคัญ
นายนรชิต กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังมีมติตั้งคณะอนุกรรมการยกร่างบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ โดยมีนายอัชพร จารุจินดา กรธ. เป็นประธานอนุกรรมการ ซึ่งการทำหน้าที่จะแยกออกจากการทำงานชุดใหญ่ ซึ่งข้อสรุปที่ได้จากอนุกรรมการต้องนำมาเสนอต่อกรธ.ก่อนร่างแรกจะแล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม 2559
นอกจากนี้ กรธ.ยังมีมติแต่งตั้งที่ปรึกษาประจำกรธ.จำนวน 3 คน ได้แก่ นายเจษฎ์ โทณะวณิก อดีตกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่เข้ามาช่วยงานแทน นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตเลขานุการร่างรัฐธรรมนูญปี40 นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อดีตเลขานุการร่างรัฐธรรมนูญปี40 และนางกาญจนารัตน์ ลีวิโรจน์ อดีตเลขานุการร่างรัฐธรรมนูญปี58 โดยการทำงานของที่ปรึกษากรธ.ยังไม่ได้กำหนดว่าจะทำหน้าที่เป็นครั้งคราวหรือตลอด 6 เดือน โดยตำแหน่งที่ปรึกษาดังกล่าวมีหน้าที่เพียงให้คำปรึกษาแต่ไม่สามารถออกเสียงลงมติใดๆได้


