สถิติฟ้อง! ความสัมพันธ์เงินบาท-ราคาทอง ชี้ชัดซื้อขายทองคำกระทบบาทแข็ง
Krungthai GLOBAL MARKETS เปิดสถิติความสัมพันธ์ระหว่างเงินบาทกับราคาทองคำสูงขึ้นต่อเนื่อง โชว์ชัดธุรกรรมซื้อขายทองคำกระทบเงินบาทแข็งค่า
KEY
POINTS
- Krungthai GLOBAL MARKETS เปิดสถิติความสัมพันธ์ระหว่างเงินบาทกับราคาทองคำ โชว์ชัดการซื้อขายทองคำกระทบเงินบาทแข็งค่า
- ประมินเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง เหตุดอลลาร์อ่อนค่า และราคาทองคำทำนิวไฮต่อเนื่อง
- ชี้ซื้อขายทองคำเป็นสกุลเงินดอลลาร์ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างทองคำกับเงินบาทอย่างมีนัยสำคัญ
- แนะ ธปท. คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียอย่างรอบด้าน ก่อนออกนโยบายและมาตรการต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ได้เหมาะสม
- เสนอปัดฝุ่นโครงการ “Option ช่วยชาติ” เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
จากกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาระบุว่า ตั้งแต่ต้นปี 2568 เงินบาทแข็งค่าขึ้นประมาณ 7% โดยเป็นการแข็งค่านำสกุลภูมิภาค จากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ดุลบัญชีเดินสะพัดที่เกินดุลมากกว่าคาด และราคาทองคำที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ทำให้ ธปท.มีการเชิญสมาคมค้าทองคำเข้าร่วมหารือ เพื่อพิจารณาแนวทางลดผลกระทบจากการซื้อขายทองคำต่อค่าเงินบาท
ด้านสมาคมค้าทองคำ และร้านทองเสนอแนวทางการซื้อขายทองคำในประเทศไทยให้เป็นเงินสกุลดอลลาร์มากขึ้น
ขณะที่ผู้ค้าทองคำบางราย ระบุว่า เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาไม่ได้เกี่ยวกับการซื้อขายทองคำอย่างแน่นอน แต่ด้วยกระแสการลดบทบาทของดอลลาร์สหรัฐฯ ในระบบเศรษฐกิจการเงินโลก (De-Dollarization) ที่จะต้องมาอย่างแน่นอน ทำให้เลี่ยงไม่ได้ที่เงินบาทจะแข็งค่า
“พูน พานิชพิบูลย์” นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยกับ “โพสต์ทูเดย์” ว่า โฟลว์ธุรกรรมทองคำมีผลกระทบต่อเงินบาทแน่นอน สถิติแสดงให้เห็นชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างเงินบาทกับราคาทองคำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
“บางช่วง Correlation เงินบาทกับราคาทองคำ กดไป 80-90% เป็นระยะเวลานาน แต่ส่วนใหญ่จะเห็นผลกระทบชัดๆ ในช่วงกลางคืนบ้านเรา เพราะข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ หรือการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ก็มาช่วงเวลา 19.30 น. ขึ้นไป เงินดอลลาร์ ราคาทองคำก็จะผันผวนมากหน่อยช่วงนั้น”
ทั้งนี้ ธีมหลักๆ ในการแข็งค่าของเงินบาทของปีนี้ คือ ธีมเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง จากทั้งแนวโน้มเฟดเดินหน้าลดดอกเบี้ย ตามภาพตลาดแรงงานที่ชะลอลงมากขึ้น
ประกอบกับความกังวลต่อนโยบายรัฐบาลทรัมป์ 2.0 ทำให้คนขาดความเชื่อมั่นในการถือครองสินทรัพย์สหรัฐฯ เช่น One Big Beautiful Bill Act ก็ทำให้คนกังวลเสถียรภาพการคลังของสหรัฐฯ กดดันเงินดอลลาร์อยู่ช่วงหนึ่ง
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นการเข้าแทรกแซงการทำงานของเฟดจากฝั่งการเมืองสหรัฐฯ ก็เป็นอีกปัจจัยที่กดดันเงินดอลลาร์เช่นกัน
โดยการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ที่มาพร้อมกับการปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ก็มีส่วนช่วยหนุนการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ นอกเหนือจากปัจจัยความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ และการทยอยเข้าซื้อทองคำของบรรดาธนาคารกลาง
ดังนั้น ทำให้โดยรวมเงินบาทก็สามารถทยอยแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง จากการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ และอานิสงส์ของการปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดต่อเนื่องของราคาทองคำ
“จังหวะทองคำเบรคนิวไฮ เงินบาทก็ไหล หลุด 32 บาท/ดอลลาร์ แต่จังหวะนั้นมีพวก Stop Loss เก็งเงินบาทอ่อนค่าด้วย เขาก็ต้องปิดสถานะกัน ก็เร่งเงินบาทแข็งค่า เรียกได้ว่ามาทุกปัจจัยกดดันเงินบาท”
ส่วนการซื้อขายทองคำเป็นสกุลเงินดอลลาร์นั้น ก็ยังคงต้องมีการโฟลว์ธุรกรรมอัตราแลกเปลี่ยนเกิดขึ้น จึงยังทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทองคำกับเงินบาทไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากอย่างมีนัยสำคัญ ยกเว้นจะมีมาตรการที่ทำให้ผู้เล่นในตลาดเลือกที่จะไม่แลกเงินกลับจากสกุลเงินดอลลาร์ เมื่อขายทองคำเป็นสกุลเงินดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม จะเกิดผลกระทบในอีกด้าน คือ เมื่อผู้เล่นในตลาดมีความต้องการเข้าซื้อทองคำเป็นสกุลเงินดอลลาร์ ก็มีการซื้อเงินดอลลาร์ ขายเงินบาทเกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่กดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงได้
ปัจจุบันผู้เล่นในตลาดก็มีการซื้อขายทองคำเป็นสกุลเงินดอลลาร์มากขึ้นต่อเนื่อง จากการเข้าถึงแอปพลิเคชั่นซื้อขายทองคำในตลาด จึงมองว่าโฟลว์ธุรกรรมซื้อขายทองคำจากผู้เล่นในตลาด อย่าง กลุ่มรายย่อย ก็อาจมีส่วนในการขับเคลื่อนพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่สอดคล้องกับราคาทองคำด้วย
ทั้งนี้ มองว่าประเด็นอัตราแลกเปลี่ยนมี 2 ด้าน ทำให้การออกนโยบายและมาตรการต่างๆ ควรมีการคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียอย่างรอบด้าน เพราะหากต้องการให้เงินบาทอ่อนค่าลง ก็อาจส่งผลกระทบต่อฝั่งผู้นำเข้า ที่ปัจจุบันก็เผชิญความท้าทายจากการแข่งขันกับสินค้าราคาถูกจากจีน หรือธุรกิจจีนที่มีต้นทุนต่ำเช่นกัน
ดังนั้น ผู้กำหนดนโยบาย ไม่ว่าจะธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ ก็ควรทำการศึกษาถึงที่ไปที่มา เหตุและปัจจัยที่ทำให้เงินบาทเคลื่่อนไหวสอดคล้องกับราคาทองคำ จึงจะสามารถออกมาตรการที่ตอบโจทย์ได้ดี
โดยในระหว่างการทำการศึกษานั้น มองว่า ทาง ธปท. ก็สามารถเข้ามาดูแลค่าเงิน ผ่านการควบคุมความผันผวนให้เหมาะสม พร้อมกับร่วมมือกับหน่วยงานราชการ ธนาคารพาณิชย์ ในการสนับสนุนการให้ความรู้ในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนกับผู้ประกอบการและผู้มีส่วนได้เสียจากอัตราแลกเปลี่ยน
“อาจมีการนำโครงการ Option ช่วยชาติ กลับมาอีกครั้งได้ เนื่องจากการใช้กลยุทธ์ Option ก็สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้ดี”


